ทำไม “นางร้าย” ถึงพ่ายรักตลอดกาลในนิยาย แล้วจะว่าไปบางทีก็งามกว่า “นางเอก”

สุภาษิตสอนหญิง-บุพเพสันนิวาส-นิยายสิบสองบาท : หญิงก้าวหน้าแห่งกรุงศรีอยุธยา กับหญิง (ที่ถูกจองจำให้) ล้าหลังแห่งกรุงเทพมหานคร (จบ)

นางร้ายนิยายสิบสองบาท : หญิงพ่ายรักตลอดกาล

มีหญิงอีกแบบในนิยายสิบสองบาท คือหญิงที่มีความเป็นนางร้าย ซึ่งประกอบด้วยอรรถลักษณ์ตรงข้ามกับนางเอก ยกเว้นกายงาม บางครั้งอาจงามกว่านางเอก

ทว่านางร้ายส่วนใหญ่เป็นหญิงที่สวยแต่รูปจูบไม่หอม

คืองามแต่กายใจหยาบช้า ในแง่ความเย้ายวนทางเพศ นางร้ายไม่ใช่หญิงที่ต้องแสร้งไร้เดียงสาเรื่องเพศ หากแต่แสดงออกอย่างเปิดเผยโจ่งแจ้ง ไม่ปกปิดกระมิดกระเมี้ยน

และไม่เพียงไม่รักนวลสงวนตัว แต่ยังนิยมเอาตัวเข้าแลกเพื่อประโยชน์ตน

นางร้ายไม่ใช่หญิงอ่อนแอที่ต้องบีบน้ำตาให้ชายสงสาร

ตรงกันข้าม พวกเธอเข้มแข็ง เชื่อมั่นในตนเอง

รู้จักใช้สติปัญญาขบคิด เป็นนักวางแผน กล้าได้กล้าเสีย กล้าตัดสินใจ ไม่หวั่นไหวต่อการละเมิดศีลธรรมจริยธรรม

ทำทุกอย่างเพื่อเป้าหมายของตน

เช่น ตัวละคร “ทิชา” จากเรื่อง “อยากบอกเธอว่ารักมากนะ”

ทิชาเป็นเพื่อนรักของ “รดี” แต่กลับคอยอิจฉารดีทุกเรื่อง

(รดีกับทิชาเคยเป็นเพื่อนรักกันมาก เมื่อสมัยเป็นเด็กเล็ก รดีมักแบ่งขนมหรือของเล่นที่ทิชาอยากได้เสมอ แม้กระทั่งแบ่งบิดาตัวเองให้เป็นพ่อเลี้ยงของทิชา และตอนนี้ทิชากำลังจะแบ่งความรักจากอดิเทพ สุดที่รดีจะทานทน เธอรักเขามาก มากเสียจนทนต่อภาพบาดหูบาดตาแทบไม่ได้ เขากำลังปันใจให้กับทิชา น.30-31)

ทิชายังเป็นนักวางแผน นอกจากสมคบกับแม่และชู้รักของแม่ฆ่าพ่อของรดีแล้ว เธอยังกุเรื่องขึ้นว่าท้องกับคนรักของรดี

(“ธิจะไปไหนก็ไปเถอะ ผมเบื่อคุณเต็มทนแล้วเรื่องที่ท้องกับผมน่ะ อย่าได้โพนทะนาไป เอาให้แน่ใจก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที ผมยืนยันว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับคุณแม้แต่ครั้งเดียว” นัยน์ตาแข็งกร้าวคู่นั้นทำเอาธิชาใจคอไม่ดี “เทพคะ…ธิไม่โกรธคุณค่ะ ตอนนี้คุณอาจจะโกรธที่ธิเอาความลับมาเปิดเผย เอาไว้ให้คุณหายโกรธเราค่อยพูดเรื่องนี้ใหม่ ธิไม่ต้องการอะไรมากไปกว่า…” ธิชาจูบแก้มชายหนุ่มฟอดใหญ่ ไม่แคร์สายตาของรดีที่จ้องมองอย่างอาดูร น.64-65)

ความสามารถในการยั่วยวนผู้ชายทิชาก็ไม่น้อยหน้าใคร

(อดิเทพมองธิชาอย่างไม่เชื่อสายตา ระยะหลังทิชาเปลี่ยนไปมาก ก๋ากั่น เล่นหูเล่นตากับเขาบ่อย บางครั้งไปหาเขาถึงบ้าน ชายหนุ่มมักออกตัวว่ามีธุระและออกไปข้างนอก จนธิชาไม่พอใจ “วันนี้เราไปไหนกันดีคะเทพ” ธิชาลูบไล้ปกเสื้อชายหนุ่ม ความรู้สึกวาบหวิวแล่นเข้าสู่ชายหนุ่ม เขาสะบัดหน้าหนี “ทำไมต้องหนีธิด้วยล่ะคะ ในเมื่อคุณก็มีความรู้สึกเดียวกันกับธิ เรามาหาอะไรสนุกๆ เล่นกันดีกว่านะคะ” น.50)

หรือตัวละคร “ลัดดา” ในเรื่อง “กุหลาบป่า” หญิงที่แสดงออกอย่างโจ่งแจ้งว่าเชี่ยวชาญเรื่องเพศ

(วันรุ่งขึ้นเขาตื่นมาเจอคุณลัดดาแต่งตัวสวยเข้ามาปลุกเขาภายในห้อง เธอเล่นจู่โจมอย่างน่ากลัวจนเขาแทบคลั่งเมื่อเธอกอดจูบเขาบนที่นอนนั้น “อืมม…คุณ…ดา” เขาขนลุกไปหมด ร่างอวบอิ่มมีเนื้อแน่นเต็มอก เขาและเธอไม่หยุดอยู่แค่นั้น ทุกอย่างเป็นใจที่สุดเมื่อลมฝนพัดเข้ามาแบบนั้น “ฉันต้องการเธอ คมช่วยที” เธอเอนกายลงนอนรอความหฤหรรษ์ เขาคึกแบบหยุดไม่อยู่ในตอนนี้ “อา…นั่นแหละ” เธอส่ายสะโพกไปมาเมื่อขึ้นคร่อมเขาจนเขาแทบกระอักอยู่แล้ว นี่มันความฝันรึความจริงกันแน่ ร่างของเธอคลึงเคล้าอารมณ์อย่างเต็มที่และร้องออกมาเมื่อร่างเธอกดลงไป เธอเป็นสาวใหญ่ที่บริสุทธิ์หรือ ช่างน่าอัศจรรย์ใจนัก “โอ…พี่ดา…อย่า” เขาจับเธอพลิกลงไปและจัดการเธออย่างแรง เมื่ออารมณ์พาไปทำให้เขาตกอยู่ในอารมณ์ใคร่จริงๆ หยุดไม่ได้เลย จนเธอกอดคอเขาไว้มั่น กระตุกไปมาก่อนจะหยุดลงเมื่อจบเกม “โธ่…พี่ดาทำแบบนี้ทำไมครับ ผมมีแฟนแล้วนะ” เขาบอกเธอ “พี่ทำไปเพราะชอบเธอมากนะ แต่ไม่เป็นไร พี่ยอมทุกอย่าง ขอแค่ให้ได้เห็นเธอนะ พี่ไปล่ะ” น.27-28)

อย่างไรก็ตาม นางเอกและนางร้ายในนิยายสิบสองบาทต่างมีฝันเดียวกัน นั่นคือการได้เป็นเมียชายสักคน

โครงเรื่องยอดนิยมของนิยายสิบสองบาทจึงคือการจับหญิงคู่นี้มาสู้รบตบตีกัน รางวัลของผู้ชนะคือชายรูปร่างหน้าตาดี ฐานะมั่นคงทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และหรือการเมือง

ในการต่อสู้ นางร้ายทุ่มเทสรรพกำลังทั้งหมดที่มี ขณะที่นางเอกอ่อนแอปวกเปียก ซื่อใส ไร้เดียงสา และแทบไม่ต้องใช้สติปัญญาใดๆ เลย

เพราะต่อให้เพลี่ยงพล้ำถูกนางร้ายเอามีดจ่อคอร้องไห้อยู่กลางสนามรบ ในตอนจบก็จะมีอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วย

สุดท้ายนางร้ายคือผู้พ่ายรักตลอดกาล เป็นหญิงที่สังคมชายเป็นใหญ่ไม่ปรารถนา

อาจเป็นได้ว่าเพราะพวกเธอไม่ใช่หญิงเชื่องที่ควบคุมง่าย ใครจะคาดเดาได้ว่าพวกเธอจะลุกขึ้นมาพยศตอนไหน ทั้งยังไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว ซึ่งถือว่าด้อยค่ายิ่งในสังคมชายเป็นใหญ่

นิยายสิบสองบาท-บุพเพสันนิวาส-สุภาษิตสอนหญิง

นิยายสิบสองบาทยังคงประกอบสร้างภาพเสนอผู้หญิง (ทั้งนางเอกและนางร้าย) ใต้กำกับของอุดมการณ์ชายเป็นใหญ่ ไม่ต่างจากสุภาษิตสอนหญิง

แม้นางเอกในนิยายสิบสองบาทไม่ได้ถูกจองจำอยู่แต่ในบ้าน หากแต่ได้รับการศึกษาและก้าวพ้นธรณีประตูออกไปเผชิญโลกนอกบ้านแล้วเช่นเดียวกับเกศสุรางค์แห่งบุพเพสันนิวาส

แต่สติปัญญา ความรู้ความสามารถของพวกเธอไม่เคยถูกกล่าวถึง ทั้งยังดูเหมือนไม่สลักสำคัญอะไรต่อชีวิตพวกเธอด้วย เพราะความสำเร็จของพวกเธอเรียกร้องเพียงรูปร่างหน้าตาที่สวยงาม ความเย้ายวนทางเพศ ความสามารถในการเก็บรักษาพรหมจรรย์ ความอ่อนแอ และความเชื่อง

กล่าวโดยสรุป ภาพเสนอผู้หญิงที่มีความเป็นนางเอกในนิยายสิบสองบาทคือหญิง (ที่ยังถูกจองจำให้) ล้าหลังที่ไม่อาจเป็น “อัตบุคคล” (subject) หรือเป็นนายตัวเองได้ ทั้งไม่อาจปรารถนาจะกำหนดชะตากรรมตน (self-determination)

จึงเป็นคนเดียวกับหญิงในสุภาษิตสอนหญิง

และเป็นคนเดียวกับบรรดาหญิงสมัยพระนารายณ์ในบุพเพสันนิวาส ยกเว้นแม่หญิงการะเกด (ทั้งเก่าและใหม่) ส่วนภาพเสนอผู้หญิงที่มีความเป็นนางร้าย ในแง่หนึ่งดูเหมือนจะก้าวหน้ากว่านางเอก แต่ก็มิใช่หญิงก้าวหน้า เพราะสติปัญญาของพวกเธอถูกทุ่มใช้เพื่อเป้าหมายเดียวเท่านั้น คือแย่งชิงผู้ชาย

นางร้ายในนิยายสิบสองบาทจึงคือหญิงคนเดียวกับแม่หญิงการะเกด (เก่า) ผู้มีนิสัยใจคอร้ายกาจ เจ้าเล่ห์เพทุบาย ช่างริษยา ซึ่งไม่เพียงไม่เป็นที่ปรารถนาของชายคู่หมายเท่านั้น แต่หญิงชายทั่วกรุงศรีอยุธยาสมัยนั้นล้วนแต่เกลียดชังเธอ

หญิงไทยระดับล่างฝันจะเป็นซินเดอเรลลา

มากกว่าจะเป็นเกศสุรางค์

แม้หญิงในนิยายสิบสองบาทส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตร่วมยุคสมัยกับเกศสุรางค์แห่งบุพเพสันนิวาส ทว่าพวกเธอไม่ได้เป็นหญิงก้าวหน้าอย่างเกศสุรางค์ แต่ยังถูกจองจำให้จมปลักล้าหลังเช่นเดียวกับหญิงในสุภาษิตสอนหญิง (ต่างกันแต่ว่านิยายสิบสองบาทไม่มีฉากกราบเท้าสามีก่อนนอนทุกคืน)

เช่นนี้จึงกล่าวได้ว่า

สังคมสมัยในหลวงภูมิพลของเกศสุรางค์นั้นยังไม่ใช่สังคมสมัยใหม่ที่ยอมรับนับถือหลักสิทธิมนุษยชนอย่างถ้วนหน้า ทว่าอุดมการณ์ชายเป็นใหญ่ยังคงมีที่ทางลงหลักปักฐาน อย่างน้อยก็ในคนกลุ่มหนึ่ง หากเชื่อว่าผู้อ่านหลักของนิยายประเภทนี้คือกลุ่มคนระดับล่าง อุดมการณ์ชายเป็นใหญ่ที่ว่าก็คงยังทำงานแข็งขันอยู่เบื้องหลังความคิด ความเชื่อ และค่านิยมของคนกลุ่มนี้

เหตุที่อุดมการณ์ชายเป็นใหญ่ยังตกค้างอยู่ในกลุ่มคนระดับล่าง อาจเป็นได้ว่าเพราะคนกลุ่มนี้มีต้นทุนทางสังคมต่ำ ทั้งด้านการศึกษา ฐานะทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ทางเลือกฝันและโอกาสพัฒนาคุณภาพชีวิตริบหรี่เสียเต็มประดา

การที่หญิงยากไร้สักคนจะฝันถึงชีวิตที่ดีกว่าจึงแทบเป็นไปไม่ได้ หญิงไทยระดับล่างที่นิยมอ่านนิยายสิบสองบาทจึงอาจไม่ปรารถนาจะเป็นเกศสุรางค์ หญิงก้าวหน้าที่เดินทางย้อนเวลาไปสามร้อยกว่าปีเพื่อรักกับชายหนุ่มสมัยพระนารายณ์และใช้ชีวิตในสังคมที่หากหญิงคบชู้อาจถูกลงโทษถึงขั้นให้ม้าชำเรา (หากเกศสุรางค์เป็นหญิงก้าวหน้าจริงคงต้องลุกขึ้นมาเป็นผู้นำการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงสังคมชายเป็นใหญ่สมัยอยุธยาในสักวัน)

แต่ฝันจะเป็นซินเดอเรลลาที่รอคอยเจ้าชายขี่ม้าขาวมาฉุดพวกเธอไปพ้นจากก้นครัวสกปรก จากทุ่งนาอันเงียบเหงา จากโรงงานอันจำเจซ้ำซาก หรือจากชีวิตที่ลำบากยากจน

อย่างไรก็ตาม คำถามต่อไปของผู้เขียนคือ อุดมการณ์ชายเป็นใหญ่ยังคงปักหลักทำงานเฉพาะในกลุ่มคนระดับล่างจริงหรือไม่ ในเมื่อละครหลังข่าวที่ได้รับความนิยมจากคนไทยทุกระดับชั้นล้วนยังจำหลักอยู่ในโครงเรื่องที่แทบไม่ต่างจากนิยายสิบสองบาท ซ้ำบางเรื่องยังเกลื่อนไปด้วยฉากตบจูบ ฉากฉุดกระชากลากถู ไปจนถึงฉากข่มขืนโดยมีใบอนุญาต (เพราะเป็นพระเอก)

และเกศสุรางค์ที่ทำท่าตกอกตกใจกับสังคมชายเป็นใหญ่สมัยพระนารายณ์นั้นรู้สึกอย่างไรกับสังคมสมัยในหลวงภูมิพลที่ตนอยู่อาศัยมาตั้งแต่เกิด