บทเรียนการเมืองของมาเลย์ ประชาธิปไตยต้องอดทน สันติ และอารยะ

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

10 พฤษภาคม 2561 รายงานจากสื่อทั่วโลก ถึงสึนามิการเมืองของมาเลเซียเมื่อประชาชนส่วนใหญ่ออกใช้สิทธิคว่ำพรรคร่วมรัฐบาลแนวร่วม Barisan Nasional – BN ที่ครองอำนาจกว่า 60 ปี

กล่าวคือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มาเลเซีย ประกาศผลการเลือกตั้งทั่วไปว่า แนวร่วมฝ่ายค้าน “ปากาตัน ฮาราปัน (Pakatan Harapan-PH)” หรือแนวร่วมแห่งความหวัง นำโดย นายมหาธีร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรี วัย 92 ปี และพรรคฝ่ายค้านอื่นๆ สามารถคว้าที่นั่ง ส.ส. รวมกันไปได้ 121 ที่นั่ง เกินกว่าที่จำเป็นต้องได้ 112 ที่นั่งในรัฐสภาเพื่อจัดตั้งรัฐบาล

ขณะที่พรรคอัมโน หรือแนวร่วม Barisan Nasional – BN ของนายนาจิบ ราซัก วัย 64 ปี ที่กำลังกลายเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ได้ไปทั้งหมด 79 ที่นั่ง

มหาธีร์จะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุมากที่สุดในโลก หลังจากที่เขากลับมาชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กับนาจิบ ราซัก จากพรรคอัมโน ผู้เป็นเสมือนลูกศิษย์ ที่เขาปลุกปั้นให้มาสานต่ออุดมการณ์ทางการเมือง ในจังหวะที่เขาวางมือเพื่อเกษียณตัวเอง

แต่นาจิบกลับมีข้อครหาที่เกินกว่าจะรับได้ คือ การพัวพันกับการทุจริตขนาดใหญ่ ในกองทุน 1 MDB (1 Malaysian Development Berhad) และนายมหาธีร์ โมฮัมหมัด ประกาศทันทีว่าจะไม่ล้างแค้นการเมือง แต่จะให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการแทนอย่างเป็นอิสระ และโปร่งใส

ชัยชนะเหนือความคาดหมายครั้งนี้มีปัจจัยมากมายแต่สิ่งหนึ่งที่สะท้อนคือ ผู้ที่สู่ถนนการเมืองที่นี่รวมทั้งภาคประชาชน มาเลย์ดำเนินการขับเคลื่อนทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยที่อดทน สันติ และอารยะทั้งถูกคุกคาม ทุกรูปแบบ ตลอดภายใต้รัฐบาลที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จทุกอย่าง ไม่ว่าเงิน บุคลากร คน ธุรกิจ กฎหมาย และสื่อ

หากดูวิวัฒนการการเมืองช่วง 10 ปีหลังพบว่า แนวร่วมฝ่ายค้านทำงานอย่างหนัก และอดทน ถึงแม้แพ้การเลือกตั้งทุกครั้ง

แกนนำพรรคฝ่ายค้าน รวมทั้งครอบครัวไม่ว่า อันวาร์ อิบรอฮีม จากพรรค Kadilan มูฮัมมัด สาบู จากพรรค Amanah Negara เดิมจากพรรค Pas และนายลิมกวนเอ็ง ผู้นำพรรคกิจประชาธิปไตย (DAP) ถูกกฎหมายความมั่นคงเล่นงานตลอด อันวาร์ต้องเข้าคุก ทั้งสมัยนายมหาธีร์ โมฮัมหมัด และนายนาจิบ ราซัก แต่พวกเขายังเลือกวิถีทางประชาธิปไตยอย่างสันติในการขับเคลื่อนเพื่อได้อำนาจ

ผลการเลือกตั้งครั้งหลังสุด พันธมิตรฝ่ายค้านชนะคะแนน Popular Vote แต่แพ้คะแนน ส.ส. จึงไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล พันธมิตร ฝ่ายค้าน ก็ยังทำงานการเมืองด้วยวิถีประชาธิปไตย

สุดท้าย ยอมร่วมมือกับนายมหาธีร์ โมฮัมหมัด ทั้งๆ เป็นศัตรูทางการเมืองตามแนวทางวิถีประชาธิปไตย

คิดถึงอุดดมการณ์และผลประโยชน์ส่วนรวมชาติมาก่อน แต่ก็ไม่คิดแนวทางการเมืองทางลัดที่จะเรียกอำนาจพิเศษเข้ามายึดอำนาจและปฏิรูปประเทศ

ท้ายสุดด้วยวิถีทางประชาธิปไตย อดทน สันติ และอารยะ ทำให้ประชาชนสามารถคว่ำอำนาจรัฐที่มีอำนาจทุกอย่าง ดังนั้น ขอสดุดีคนมาเลเซีย และนักการเมืองมาเลเซียที่ยืนหยัดอุดมการณ์และทำให้ชาวโลกเห็นแล้วอำนาจประชาชนสามารถยึดอำนาจรัฐด้วยวิถีประชาธิปไตยได้

นายมหาธีร์ โมฮัมหมัด แถลงหลังชนะเลือกตั้งหน้า ดร.วันอาซีซ์ ภรรยาอันวาร์ซึ่งสามารถสรุปได้ใจความว่า เป็นการยากมากที่ครอบคร้วอันวาร์จะสามารถอดทนทางการเมือง ทั้งครอบครัวของท่านต้องทนทุกข์ทรมานกว่าสิบปี

และเขาขอสดุดีอันวาร์และครอบครัวที่สละทุกอย่างเพื่อคนมาเลเซีย