อสังหาฯ บุกส่งท้ายปี ขี่หลังเสือแล้ว ฝนตกแดดออกก็ต้องลุย

ไม่ได้นัดหมายก็เหมือนกับนัดหมายกันไว้ ระยะนี้บริษัทอสังหาริมทรัพย์แถลงข่าวเปิดตัวโครงการกันอย่างต่อเนื่องสัปดาห์ละหลายรายกันเลยทีเดียว

แม้คุยกัน “หลังไมค์” จะทราบกันดีว่า บรรยายกาศตลาดค่อนข้างเงียบ แต่ธุรกิจต้องเดินหน้า เลือกได้แค่จังหวะการเดิน แต่เลือกสภาพแวดล้อมไม่ได้ จึงต้องพาเหรดเปิดโครงการกันอีกระลอก

อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เปิดตัว 6 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 16,000 ล้านบาท โดยร่วมทุนกับมิตซุย ฟูโดซัง 3 โครงการ และพัฒนาเอง 3 โครงการ เป็นคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้าทั้งหมด

แสนสิริ เตรียมเปิดตัว 2 คอนโดมิเนียมย่านทองหล่อ รวมมูลค่า 1 หมื่นล้าน โดยทั้งสองโครงการร่วมทุนกับกลุ่มบีทีเอส ทำเลทองหล่อ 12 ราคาเริ่มต้น 15 ล้านบาท และใกล้ๆ กับถนนเพชรบุรี ราคาเริ่มต้น 36 ล้านบาท

แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียมบริเวณทองหล่อซอย 1 ใช้ชื่อ เดอะ แบงค็อก ทองหล่อ 114 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 18 ล้านบาท

เอพี เปิดตัว บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ เอกมัย-รามอินทรา บ้านเดี่ยวซูเปอร์ลักซูรี่วิลล่า 3 ชั้น มูลค่า 2,560 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท

เอสซี แอสเสท เตรียมเปิดตัวโครงการ 28 ชิดลม คอนโดฯ บนถนนชิดลม บนที่ดินราคาแพงที่สุด 1.91 ล้าน/ตารางวา ราคาเริ่มต้น 3 แสนกว่าบาทต่อตารางเมตร

ออริจิ้นเตรียมเปิดตัว ไนท์ บริดจ์ ไพรม์ สาทร ซึ่งเป็นการรุกทำเลในเมืองครั้งแรก บนถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ราคาเฉลี่ย 150,000 บาทต่อตารางเมตร และมีแผนจะพัฒนาโครงการใหม่ในซอยทองหล่อ อยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดิน

สังเกตได้ว่า บริษัทอสังหาฯ ที่เปิดหน้าลุยฟ้าลุยฝน โดยไม่ต้องรอระบายเหมือนน้ำท่วมขัง ล้วนเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือ บมจ. กันทั้งสิ้น

บมจ. เหล่านี้มีข้อได้เปรียบ คือมีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำ

เนื่องจากภาวะไม่ปกติของตลาดการเงินเวลานี้ คือ เงินล้นแบงก์ล้นตลาด แต่แบงก์ไม่กล้าปล่อยกู้เพราะภาวะแวดล้อมทางธุรกิจและเศรษฐกิจมีความเสี่ยงสูงด้วยประการทั้งปวง

ผลที่ตามมาคือบริษัทที่มีเครดิตดี มีความมั่นคงสูง จะมีต้นทุนทางการเงินหรืออัตราดอกเบี้ยต่ำมากเพราะแบงก์แย่งกันปล่อย พวกกองทุนแย่งกันซื้อหน่วยลงทุน ส่วนบริษัทที่เครดิตไม่ถึงกับดีมาก ต้นทุนการเงินก็จะสูงมากเพราะสถาบันการเงินคิดเผื่อความเสี่ยงไว้สูง และบริษัทที่เครดิตไม่ดีสถาบันการเงินไม่ปล่อยกู้เลย

ว่ากันว่า บริษัทอสังหาฯ ที่เครดิตดีมากๆ ได้อัตราดอกเบี้ยต่ำมากๆ ขนาดว่า กู้มาซื้อที่ดินเปล่าทิ้งไว้รอให้ราคาที่ดินเพิ่มในแต่ละปียังคุ้ม

นี่จึงเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่ยักษ์เล็กทั้งหลายกล้าบุก

ขณะเดียวกัน ก็มีเหตุภายในที่ทำให้บริษัทเหล่านี้จำเป็นต้องบุกด้วยเช่นกัน เพราะบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีคำมั่นสัญญาว่าต้องมีอัตราเติบโต ยังไงก็ต้องโต ต้องให้ถูกใจผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ผู้ถือหุ้นกับนักลงทุนต้องการปันผลและราคาหุ้นดี ลูกค้าต้องการสินค้าคุณภาพราคาไม่แพงมาก พนักงานต้องการโบนัส และซัพพลายเออร์ต้องการการชำระหนี้ตามสัญญา

ขึ้นขี่หลังเสือแล้ว ก็ต้องบุก ฝนตกแดดออกก็ต้องลุย