เมื่อเร็วๆ นี้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดประชุมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งไทย ระยะ 20 ปี ว่า แผน 5 ปีแรก 2560-2564 จะเร่งรัดลงทุนรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 10 สาย

ถือเป็นการย้ำกันชัดๆ อีกครั้งหนึ่ง ว่าจะเดินหน้าต่อไป โครงการรถไฟฟ้า 10 สายนี้ ใครมาเป็นรัฐบาลก็ต้องดำเนินการต่อเนื่องตามนี้

สำหรับธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และประชาชนผู้ซื้อที่อยู่อาศัยต้องติดตามความคืบหน้าของโครงการเหล่านี้ให้ถ้วนถี่

ประสบการณ์จริงที่ผ่านมากับโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีเขียว บีทีเอสรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เอ็มอาร์ที รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ และล่าสุดสายสีม่วง นักธุรกิจอสังหาฯ และประชาชนได้รับประสบการณ์ 2 แบบ

แบบแรก แบบกระตุ้น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เกิดการพัฒนาอย่างคึกคัก ประชาชนคนเดินทางได้รับความสะดวกสบาย ได้แก่ สายสีเขียว บีทีเอส และสายสีน้ำเงิน เอ็มอาร์ที

เกิดโครงการคอนโดมิเนียมเกาะตามแนวรถไฟฟ้าไปตลอดแนวเส้นทาง เช่น สายสีเขียว ทำให้อ่อนนุช อุดมสุข เกิดการพัฒนามากเป็นพิเศษ จนเปลี่ยนโฉมทำเลย่านนั้นไปอย่างสิ้นเชิง ส่วนต่อขยายสายสีเขียว ทำให้ย่านแบริ่ง ลาซาล บางหว้า ได้เปิดพื้นที่การพัฒนาใหม่

ส่วนสายสีน้ำเงิน ก็ทำให้ย่านรัชดา พระราม 9 พัฒนากลายเป็นย่านธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานครที่เต็มไปด้วยตึกสูง

แบบที่สอง แบบกระตุก ไม่เป็นไปตามคาดหวัง ได้แก่

รถไฟฟ้าสายแอร์พอร์ตลิงก์ พญาไท-สุวรรณภูมิ สายนี้เชื่อมกรุงเทพฯ กับสนามบินสุวรรณภูมิ ผ่านทำเลสำคัญๆ หลายแห่ง เทคโนโลยีดีเยี่ยม แต่ปัญหาคือ ไม่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายอื่นๆ ต้องลงแล้วเดินไปต่อ และที่สำคัญมีปัญหาการเดินรถตั้งแต่ต้นจนปัจจุบันทำให้ผู้เดินทางไม่ได้รับความสะดวก

ทำให้ผู้ที่ซื้อที่อยู่อาศัยตามรถไฟฟ้าเส้นนี้ผิดหวัง โครงการคอนโดมิเนียมใหม่ตามแนวเส้นนี้ไม่ค่อยมีใครกล่าวอ้างกัน

ล่าสุดสายสีม่วง บางซื่อ-บางใหญ่ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์คึกคักดักรอล่วงหน้าหลายปี ทั้งคอนโดมิเนียม โครงการแนวราบ รวมทั้งห้างสรรพสินค้าขึ้นรอ

แต่เมื่อเริ่มเดินรถเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่าฝันสลายตามๆ กัน จำนวนผู้โดยสารไม่เป็นไปตามคาด ลดราคาค่าโดยสารแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น จำนวนโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดขายดักรออยู่แล้วต้องกระหน่ำโปรโมชั่นตามราคารถไฟฟ้า และที่เตรียมเปิดโครงการใหม่ต่างๆ ถอยกรูด

ปัญหาคือ รถไฟฟ้าสายสีม่วงยังไม่เชื่อมต่อกับสายอื่นๆ ต้องลงเดินหรือนั่งรถเมล์ไปขึ้นสายสีน้ำเงิน เส้นทางยังไม่ครบวง ค่าเดินทางเข้าเมืองรวมแล้วแพงกว่ารถตู้

อนาคตของกรุงเทพฯ ปริมณฑล กำลังอยู่ระหว่างเปลี่ยนผ่านจากระบบถนนไปสู่ระบบราง คือรถไฟฟ้า สุดท้ายการเดินทางของคนส่วนใหญ่จะกลายเป็นระบบรางอย่างเลี่ยงไม่พ้น

แต่หากเก็บรับบทเรียนกันซักหน่อย

ผู้คิดจะซื้อบ้าน ทาวน์โฮม หรือคอนโดฯ ตามแนวรถไฟฟ้าในอนาคต ต้องวิเคราะห์ให้ถ้วนถี่ ไม่ใช่สักแต่เป็นรถไฟฟ้าแล้วใช้ได้ ทำงานตรงไหน เดินทางอย่างไร กี่สถานี อัตราค่าโดยสารเท่าไหร่ ต้องต่อรถไฟฟ้าอีกสายหรือไม่ รถไฟฟ้าเชื่อมต่อกันหรือยัง ต้องเก็บรายละเอียดทุกเม็ด

สำหรับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ป่านนี้คงเข้าใจกันดีแล้วว่าจะเลือกซื้อที่ดินสายไหน สถานีไหน และจะขึ้นโครงการเมื่อไหร่ถึงจะพอเหมาะพอดี

โครงการรถไฟฟ้า จึงมีทั้งกระตุ้น และมีทั้งกระตุกการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์