เชิงบันไดทำเนียบ : สยบ ‘รัฐประหารซ้อน’ ต่ออายุ ‘บิ๊กป้อม’ กุม ‘กองทัพ’ คุม ‘กองหนุน’ สุดท้าย !!

ท่ามกลางช่วง ‘มรสุม’ ซัดเข้า คสช. ช่วง ‘ขาลง-เรตติ้งตก’ ยิ่งทำให้สถานการณ์คสช.และรัฐบาลขาดเสถียรภาพ ถึงขั้นมีการเสนอให้ ‘กองทัพ’ แยกออกจาก ‘คสช.’ ด้วย แม้จะเป็นไปได้ยากเพราะ ผบ.เหล่าทัพ อยู่ใน คสช. ด้วย การจะเกิด ‘รัฐประหารซ้อน’ จึงไม่สามารถมาจาก ‘ผู้นำเหล่าทัพ’ เป็นผู้กำหนดได้ในเวลานี้
.
ที่สำคัญการ ‘รัฐประหารซ้อน’ เกิดขึ้นได้ยากในยุคปัจจุบัน และอยู่ในช่วง ‘ขาลง’ เช่นนี้ก็ส่งผลต่อ ‘ภาพลักษณ์’ ของกองทัพที่เป็นทุนเดิม และในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่รัฐประหาร 19ก.ย.2549 มาถึง 22พ.ค.2557 ก็มีการปรับรูปแบบการ ‘ยึดอำนาจ’ ที่ต่างกันไป ในการมีสถานการณ์ ‘รองรับ’ โดยปี2557 มีความแยบยลกว่า คือ การปูทางด้วยการใช้กฎอัยการศึกและการเรียกผู้แทน 7 ฝ่าย ที่อยู่ท่ามกลางความขัดแย้งมาหา ‘ทางออก’
.
แต่สุดท้ายก็จบลงที่การ ‘รัฐประหาร’ แต่ทั้ง 2 ครั้ง มีสิ่งที่เหมือนกัน คือ การออกเคลื่อนไหวของกลุ่มคู่ตรงข้าม ‘รัฐบาล’ ในห้วงเวลานั้น ทั้งกลุ่ม พธม. นำโดย ‘สนธิ ลิ้มทองกุล’ และ กลุ่ม กปปส. นำโดย ‘สุเทพ เทือกสุบรรณ’ ที่ ‘ปูทาง’ ให้ในอดีต
.
แต่สถานการณ์ ‘ปัจจุบัน’ มีเพียงการเคลื่อนไหวกลุ่มต่างๆก็เป็นกลุ่มต้านคสช.เดิม ยังไม่มีการออกเคลื่อนไหวของ ‘กองหนุน’ คสช. ที่มีเพียงการออกมาวิพากษ์วิจารณ์ผ่านสื่อเท่านั้น แต่ที่น่าสนใจอยู่ที่กรณีศาลปกครองกลางสั่งคุ้มครองชั่วคราวกลุ่ม ‘We Walk เดินมิตรภาพ’ ให้ตำรวจดูแลและไม่ปิดกั้น-ขวางทาง แต่การชุมนุมจะต้องอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ ถือเป็น ‘มิติ’ ที่ถูกจับตาอย่างมาก
.
ดังนั้น ‘สถานกาณณ์’ จึงยังไม่ ‘สุกงอม’ พอที่จะทำ ‘รัฐประหารซ้อนได้’ ถือเป็นข่าวที่มาเป็นปกติในช่วงที่ คสช. ถูกตั้งคำถามถึงการ ‘ดำรงอยู่’ มากขึ้นเท่านั้น และ ‘การรัฐประหารซ้อน’ ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นง่ายนัก เพราะแค่เพียงการ ‘เลื่อนเลือกตั้ง’ ออกไป 90 วัน ก็ทำให้เกิดคำถามจำนวนมาก และยังไม่มีการ ‘คอนเฟิร์ม’ ได้ว่าการเลือกตั้งจะเลื่อนไปถึงเมื่อใด แม้ในเวลานี้จะอยู่ที่ช่วงเดือนก.พ.62

“ปัจจุบันมันไม่มีอะไร มีแค่คนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเท่านั้นเอง ไม่ใช่เรื่องที่ทหารต้องออกมาหรือไม่ออกมา” พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ย้ำ
.
ทั้งหมดนี้สะท้อนถึง ‘ความไม่แน่นอน’ ของสถานการณ์ต่างๆ ที่หลายอย่างเกินการ ‘ควบคุม’ ของรัฐบาล แต่การออกมายืนยันของ ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่คสช. ว่าจะไม่ ‘ลาออก’ และขออยู่ทำงานจนจบภารกิจ ก็ดึงให้ ‘เสถียรภาพ’ ของ ‘กองทัพ’ กลับมาอีกครั้ง เพราะในเวลานี้มีเพียง ‘บิ๊กป้อม’ เท่านั้น ที่จะคุมกองทัพอยู่ เพราะ พล.อ.ประวิตร รู้จักพี่น้องใน ‘เหล่าทัพ’ ต่างๆ และเป็นมือประสานของ คสช. เพราะเคยเป็น ผบ.ทบ. สมัย ‘ทักษิณ ชินวัตร’ เป็นนายกฯ และเป็น รมว.กลาโหม ในยุครัฐบาล ‘อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ’ และเก้าอี้เหนียวใน ‘ครม.ประยุทธ์1-5’ แม้จะมีกระแสข่าวว่าหลุดเกือบทุกครั้ง

“วันนี้อย่ารักผมคนเดียว รักรองนายกรัฐมนตรี รักรัฐมนตรี วันนี้มาทั้ง ครม.ประยุทธ์ คนเดียวอยู่ไม่ได้ ต้องอยู่ด้วยกันทั้งหมดนี่แหละ ใครต้องออกไปออกมา มันวุ่นกันไปหมด ต้องอยู่ด้วยกันวันนี้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ก่อนการกล่าว ‘ยืนยัน’ เอา ‘พี่ป้อม’ ไว้นั้น มีการมองว่า ถ้า ‘บิ๊กป้อม’ ลาออกจริง ‘บิ๊กตู่’ ก็จะต้องควบ รมว.กลาโหม เอง เพราะเป็น หัวหน้าคสช. และ ‘กองทัพ’ เองก็เป็น ‘กองหนุน’ สุดท้าย ที่สำคัญด้วย ส่วน ‘บิ๊กป๊อก’พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดาท รมว.มหาดไทย ก็จะต้องควบ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงแทน นำมาสู่การปรับ ‘ครม.ประยุทธ์6’ นั่นเอง แต่ว่ากันว่ากาปรับครม.จะเกิดขึ้นอีกครั้งในช่วงกลางปีนี้ ถ้ามีการ ‘ปลดล็อค’ พรรคการเมือง เดือน เม.ย.นี้ เพื่อเปิดทางตั้ง ‘รัฐบาลแห่งชาติ’ ขึ้น โดยเพิ่มสัดส่วนเก้าอี้ของฝ่ายการเมืองมากขึ้น ซึ่ง ‘ข้อเสนอ’ นี้มีมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมามีในการจัดตั้ง ‘ครม.ประยุทธ์5’ ช่วงปลายปี60 ที่ผ่านมา
.
อีกทั้งเมื่อต้นปี60 ‘บิ๊กตู่’ ได้ลงนามยกเลิกคำสั่ง คสช.ห้ามเคลื่อนย้ายอาวุธ พร้อมมอบอำนาจ ผบ.ทบ. ในฐานะ เลขาธิการ คสช. เป็น ‘ผู้อนุมัติ’ แทน ในการให้หน่วยราชการเคลื่อนย้ายกำลังอาวุธกระสุน วัตถุระเบิด ยุทธภัณฑ์ควบคุมได้ ในห้วงเวลานั้นสะท้อนถึง สถานการณ์ที่ผ่อนคลายลงของ คสช. แต่อีกด้านมีการมองว่าเป็นการ ‘ไว้วางใจ’ ของ ‘บิ๊กตู่’ ต่อ ‘บิ๊กเจี๊ยบ’พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ด้วย แม้จะไม่ได้เป็นสายบูรพาพยัคฆ์-ทหารเสือฯ เพราะเป็นนายทหารสายรบพิเศษ ที่ ‘บิ๊กตู่’ เลือกมากับมือ ถึงขนาดยอม ‘หัก’ กับ ‘พี่ป้อม’ มาแล้ว หลัง พล.อ.ประวิตร เสนอ ‘บิ๊กแกละ’พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร สายบูรพาพยัคฆ์ของรัก ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. มาแล้ว
.
อีกทั้ง ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ เป็นทหารสาย ‘รบพิเศษ’ รุ่นน้อง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี อดีตผบ.ทบ. ที่เป็นนายทหารสายบ้านสี่เสาเทเวศร์ ในฐานะ ‘ลูกป๋า’ ด้วย จึงทำให้ ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ เป็นสายบ้านสี่เสาฯไปด้วย

ก่อนหน้านี้ ‘ป๋าเปรม’พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ปธ.องคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้งดร่วมงานเลี้ยงรับรองวันกองทัพบก 21ม.ค.ที่ผ่านมา โดยคนใกล้ชิด ‘ป๋าเปรม’ เปิดเผยว่า เพราะ พล.อ.เปรม มีอาการอ่อนเพลีย ทานอาหารได้ลงลง จึงต้องพักผ่อนตามที่แพทย์สั่ง แต่อาการดีขึ้นแล้ว หลังเดินออกกำลังกายในบ้านสี่เสาฯได้ ท่ามกลางกระแส ‘ป๋าเปรม’ ไม่มางานที่ถูกตีความไปต่างๆนาๆ หลังสะกิดเตือน ‘บิ๊กตู่’ เรื่อง ‘กองหนุนลด’ แต่ก็ได้รับการยืนยันว่า พล.อ.เปรม ไม่สบายจริง
.
ทั้งนี้การที่ ‘บิ๊กตู่’ เลือกอุ้มและเข็น ‘บิ๊กป้อม’ ไว้ นายกฯเองก็ต้อง ‘ประเมิน’ แล้วว่าได้หรือเสียมากกว่ากัน ในห้วงเวลานี้การ ‘อุ้ม’ พล.อ.ประวิตรไว้ อย่างน้อยก็ทำให้แรงกระเพื่อมไม่มากไปกว่านี้ แม้จะมี ‘แรงกดดัน’ รอบด้านมาก็ตาม
.
อีกทั้งการที่ ‘บิ๊กป้อม’ ยังอยู่ ก็เป็นหลัก ‘ประกัน’ ว่า ‘รัฐประหารซ้อน’ โอกาสเกิดขึ้นมีน้อยลง เพราะ พล.อ.ประวิตร มี ‘บารมี’ มากพอที่จะคุม ‘เหล่าทัพ’ ได้ทั้งหมด ไม่ใช่เพียง ‘กองทัพบก’ เท่านั้น ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา ‘บิ๊กป้อม’ ก็มีท่าทีต่างๆที่ผ่อนคลายลง หลังไม่พูดกับสื่อมาเกือบ 1 สัปดาห์


ในยุค ‘เพื่อนตท.16’ คุม ‘กองทัพ’ ทั้ง ‘บิ๊กเจี๊ยบ’พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ‘บิ๊กนุ้ย’พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผบ.ทร. และ ‘บิ๊กจอม’พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผบ.ทอ. ส่วน ‘บิ๊กต๊อก’พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผบ.สส. แม้เป็น ตท.17 แต่ก็เป็นสายทหารม้า ที่เป็น ‘ลูกม้า’ ของ ‘ป๋าเปรม’ ด้วย เพราะรู้จักกันมานาน โดย พล.อ.เปรม เคยเป็นประธานงานแต่งงานให้ ‘บิ๊กต๊อก’ ด้วย ดังนั้น ‘เอกภาพ’ ใน ‘เหล่าทัพ’ จึงสำคัญมาก ซึ่ง ผบ.เหล่าทัพ ชุดนี้จะเกษียณพร้อมกันปี61 ซึ่งต้อง ‘จับตา’ ดูว่า ‘ผบ.เหล่าทัพ’ ชุดนี้จะได้ ‘พักผ่อน’ หลังเกษียณฯ หรือไม่

แต่ ‘ประวัติศาสตร์’ ก็มี ให้เห็นมาแล้ว !!