E-DUANG : สนธิ ลิ้มทองกุล พลังตกค้างแห่ง”ยุคสมัย”

กรณีของ สนธิ ลิ้มทองกุล เป็นเครื่องตรวจสอบอย่างแหลมคมของ พลังแห่ง “ยุคสมัย”

ไม่เพียงแต่ต่อ”เฉพาะตัว” นายสนธิ ลิ้มทองกุล

หากแต่ยังต่อ “พันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย” อันเป็น “ขบวนการ”

กล่าวเฉพาะตัว นายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็น”สื่อ”

แต่กล่าวผ่าน “พันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย” นายสนธิ ลิ้มทองกุล อาศัยความเป็นสื่อมาเคลื่อนไหวในทางการเมือง

อย่างที่ สุทธิชัย หยุ่น เห็นว่าเป็นสื่อ”เพื่อการต่อสู้”

ความสำเร็จเห็นได้จากการเคลื่อนไหวในช่วงต้นปีนำไปสู่รัฐประหารในเดือนกันยายน 2549

เท่ากับมีส่วนในการ”ปูทาง”และสร้าง”เงื่อนไข”

จากสถานการณ์ปลายปี 2548 ต่อเนื่องกระทั่งรัฐประหารเดือนกันยายน 2549

ถือว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล มีพลังอันมากด้วยฤทธานุภาพ

แม้กระทั่ง “นปช.” คนเสื้อแดงก็อาศัยความจัดเจนจาก นายสนธิ ลิ้มทองกุล และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

ยิ่ง “กปปส.” ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ยิ่งเด่นชัด

แต่กล่าวสำหรับพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย หลังความสำเร็จจากการยึดทำเนียบ ยึดสนามบิน กระทั่งนำไปสู่การยุบพรรคพลังประชาชนในเดือนธันวาคม 2551

ก็ค่อยๆหมดบทบาทและ”อ่อนแรง”ลง

อ่อนแรงกระทั่งไม่สามารถระดมคนให้เข้าร่วมใน”เรือนแสน”ได้อีกต่อไป

กระทั่ง ในที่สุด ก็กลายเป็นเหมือนกับ “พลังเฉื่อย”

สนธิ ลิ้มทองกุล และพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตยยังคงดำรงอยู่ นั่นก็คือ ดำรงอยู่อย่างเป็น “พลังตกค้าง”

ไม่สามารถส่ง”ผลสะเทือน”ได้มากนัก

อย่างน้อยก็ไม่มีฤทธานุภาพเหมือนกับเมื่อปี 2549 และเมื่อปี 2551

ทุกอย่างเป็นไปตามกฎแห่งอนิจจัง ไม่เที่ยงแท้