เชิงบันไดทำเนียบ : คสช.ระส่ำ!! ‘บิ๊กป้อม’คนดวงตก 2017 ‘ครม.ตู่5’สงบ ‘บิ๊กตู่’เตมีย์ใบ้

“พูดไปเรื่อย เขาลาไปต่างประเทศ อยู่แค่นี้ก็ประชุมกันได้”

‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. โต้ไม่มีรอยร้าวในคสช. หลัง ‘บิ๊กเข้’พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย และ ‘บิ๊กเจี๊ยบ’พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองหัวหน้าคสช.ไม่ได้เข้าประชุมคสช. หลังปรับครม.แล้ว ทั้ง ‘บิ๊กเข้-บิ๊กเจี๊ยบ’ ต่างหลุดจาก รองนายกฯ ซึ่งไม่มีใครทราบเหตุผลชัดว่าทำไมถึงหลุด แต่ก็สร้างแรงกระเพื่อมใน ‘ครม.ประยุทธ์5’ ไม่น้อย
.
ด้วยทั้งคู่ต่างเป็นอดีต ผบ.เหล่าทัพ ช่วงรัฐประหาร 22พ.ค.2557 แม้จะไม่ได้ร่วมวางแผนรัฐประหารมา แต่ก็เป็นผบ.เหล่าทัพที่ต้องคุมทัพในช่วงเวลานั้น ซึ่ง ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ เองก็ไม่ได้ร่วมแถลงยึดอำนาจด้วยซ้ำ เพราะติดภารกิจอยู่ต่างประเทศพอดี ทำให้ ‘บิ๊กตี๋’พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ขณะเป็นรองผบ.สส. ต้องขึ้นนั่งร่วมอ่านแถลงการณ์ยึดอำนาจแทน

ส่วน ‘บิ๊กโด่ง’พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร สมาชิกคสช. ยังคงมาประชุมคสช.ตามปกติ แม้จะหลุด ‘ครม.ประยุทธ์5’ จากเก้าอี้ รมช.กลาโหม ที่ตกเป็นของ ‘บิ๊กช้าง’พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ตท.16 ศิษย์เก่าร.ร.วัดนวลนรดิศ โรงเรียนเดียวกับนายกฯและ ‘บิ๊กติ๊ก’พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกลาโหม เป็น “วัดนวลนรดิศคอนเนคชั่น” แทน ส่วนตำแหน่งหัวหน้าคณะผู้แทนพิเศษครัฐบาล ‘คปต.ส่วนหน้า’ แก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครม.ไปเขียวตั้ง ‘บิ๊กน้อย’พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ ที่เคยนั่งรองหัวหน้าฯมาก่อน ขึ้นนำทัพ ส่วน ‘บิ๊กช้าง’ นั่งรองหัวหน้าฯ และคุมงานปรองดองต่อด้วย
.
ซึ่ง พล.อ.อุดมเดช ยืนยันมาแต่แรกว่าจะอยู่ช่วยงานต่อตามที่นายกฯมอบหมาย ส่วน พล.ร.อ.ณรงค์ และ พล.อ.ธนะศักดิ์ ต้องดูกันต่อว่าในกาประชุม คสช. ครั้งหน้าจะมาร่วมประชุมหรือไม่ ถ้าไม่มาหรือทั้งคู่ขอลาออกจากคสช. ย่อมสะเทือนทัพคสช.แน่นอน และเป็นช่วง คสช.‘ลงหลังเสือ’ ด้วย งานนี้ ‘บิ๊กตู่’ ต้องสยบรอยร้าวให้ได้
.
มาในช่วง ‘พี่ป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ของนายกฯบิ๊กตู่ กลายเป็น ‘ตำบลกระสุนตก’ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตกเป็นเข้า จนได้รับฉายา ‘คนดวงตก 2017’ ไปเลย ด้วยแหวนเพชรกระแทกตา ขณะถ่ายภาพหมู่ ‘ครม.ประยุทธ์5’ ที่ทำเนียบรัฐบาล แสงแดดสะท้อนกับเพชร สื่อจึงแซวแหวน และ พล.อ.ประวิตร ได้ใช้มือบังแดดที่ใบหน้า ทำให้เพชรยิ่งสะท้อนแสง แต่โชคไม่เข้าข้างนาฬิกาหรูราคาหลักล้านกลับเลยออกมาจากแขนเสื้อ ทำให้มีคนไปตามดูถึงการแจ้งบัญชีทรัพย์สินของ พล.อ.ประวิตร ต่อ ป.ป.ช. ซึ่งกลับพบว่าไม่มีการแจ้งทั้งนาฬิกาและแหวนเพชร ทำให้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ขึ้น แม้ ‘บิ๊กป้อม’ ยืนยันไม่เสียกำลังใจและไม่ต้องระวังตัวเป็นพิเศษ

“ไม่รู้ไปวิพากษ์วิจารณ์อะไรกันนักหนา เป็นวงเดียวที่เคยใส่ ตนมีแหวน 3-4 วง แต่เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.เลือกใส่วงนี้ เพชรแค่กระรัตเดียวเอง ไม่ใหญ่โตอะไร ไม่ใช่ใส่เพราะเป็นการประชุมนัดแรกของ ครม.ชุดใหม่ และไม่ใช่ต้องการใส่มาโชว์ เพียงแต่บังเอิญแสงสะท้อนพอดี” พล.อ.ประวิตร กล่าว
.
“ผมไม่ต้องชี้แจงอะไร ตนจะชี้แจงต่อ ป.ป.ช.เอง ยืนยันว่ามีหลักฐานพร้อมที่จะชี้แจง พร้อมบอกสื่อให้ถามเรื่องอื่นดีกว่า” พล.อ.ประวิตร กล่าว
.
จากนั้น พล.อ.ประวิตร ก็เลี่ยงการพบสื่อมา 2 วันติด โดย ‘บิ๊กป้อม’ มอบ ‘บิ๊กเต่า’พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรฯ นำประชุมคณะกรรมการเหมืองแร่ฯ ที่ทำเนียบรัฐบาลแทน ทั้งนี้ ‘บิ๊กเข้’พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ส่ง ‘บิ๊กโต้ง’พล.อ.อ.สุรศักดิ์ ทุ่งทอง รองปลัดกระทรวงกลาโหม มาประชุมแทน และ ‘บิ๊กป๊อก’พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ก็ส่งผู้แทนมาประชุมแทน ซึ่ง พล.อ.ประวิตร อ้างเพียงติดราชการ ประชุมหน่วยงานฝ่ายความมั่นคง ล่าสุด 8 ธ.ค. ‘บิ๊กป้อม’ นำประชุม ก.ต.ช. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังเลื่อนมาจาก 7ธ.ค. โดยใช้เวลาประชุมเพียง 15 นาทีเท่านั้นและไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อด้วย
.
ไม่ใช่เพียง พล.อ.ประวิตร ที่เงียบลง แต่ ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ ก็ขอเงียบด้วย ลดการโต้ตอบทางการเมืองอย่างเห็นได้ชัด โดยใช้เวลาแถลงข่าวหลังประชุม ‘ครม.ประยุทธ์5’ เพียง 3 นาทีกว่าๆเท่านั้น อีกทั้งไม่พูดคุยกับสื่อมากนัก แม้จะเป็นคำถามที่ไม่ใช่เรื่องการเมืองด้วย จนนำไปสู่การลดการให้สัมภาษณ์หรือสงวนท่าทีของ ‘รัฐมนตรี’ คนอื่นๆด้วย
.
“ไม่มีอะไร แค่เมื่อย” นายกฯ เผยสั้นๆ ทำไมพูดน้อย
.
มาพร้อมการกลับมาคุมเข้มกลุ่มเคลื่อนไหว ทั้ง ‘หมวดเจี๊ยบ’ร.ท.หญิงสุนิสา เลิศภควัต ถูกฟ้อง ม.14 ตาม พ.ร.บ.คอมฯ และ ก.ม.อาญา ม.116 โดย คสช. ย้ำยึดตามกฎหมายปกติ ไม่มีกลั่นแกล้ง หลักฐานชัด หลังโพสต์เฟศบุ๊กโจมตีนายกฯ เปรียบเทียบให้ ‘ตูน บอดี้แสลม’ เข้าพบได้ แต่ไม่ให้กลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาเข้าพบ อีกทั้งการเชิญ นายณัชพล สุพัฒนะ หรือ มาร์ค พิทบูล เข้าพูดคุยที่ มทบ.11 หลังวิจารณ์รัฐบาลและคสช.รุนแรง
.
ซึ่ง คสช. มองว่าการออกเคลื่อนไหวเช่นนี้เพื่อกดดันให้นำไปสู่การปลดล็อคพรรคการเมือง เพราะการปลดล็อคพรรคการเมือง จะต้องยกเลิกคำสั่งคสช.ที่ห้ามชุมนุมเกิน 5 คน ซึ่งจะทำให้ “การเคลื่อนไหวการเมือง” ทำได้ถูกกฎหมาย นำมาสู่สถานการณ์ที่ยากจะควบคุม อีกทั้งการตรวจพบอาวุธสงครามที่ จ.ฉะเชิงเทรา ทำให้เกิดการตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการจัดฉากหรือไม่ โดย คสช. ชี้พร้อมแจงว่า ได้เชิญตัว นายวัฒนา ทรัพย์วิเชียร มาสอบสวนซักถาม เมื่อพบว่าไม่มีการเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงก็ได้ส่งตัวกลับไป พร้อมกันนี้ ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับ 5 คน หนึ่งในนั้น คือ ‘เสธ.หยอย’พล.ท.มนัส เปาริก ที่ได้เข้ามอบตัวและได้รับประกันตัว เพื่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม

แฟ้มภาพ พล.ท.มนัส

“ใครจัดฉาก เจ้าหน้าที่จะจัดฉากไปทำไม ยืนยันว่าไม่มีจัดฉาก เจ้าหน้าที่ทำทุกอย่างตรงไปตรงมา มีแต่ผู้สื่อข่าวที่บอกว่าจัดฉาก” พล.อ.ประวิตร แย้ง
.
ทั้งหมดจึงเป็นสภาวะ ‘นิ่ง’ แต่ ‘ไม่สงบ’ หากมองยาวๆ จึงเกิดคำถามว่าจะมีการ ‘เลือกตั้ง’ ตามโรดแมปหรือไม่ ตามที่นายกฯประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ว่าจะมีการเลือกตั้งช่วงพ.ย.2561 หากไม่มีอุปสรรคใดๆ แต่ล่าสุดดูเหมือนโรดแมปนี้จะเลื่อนไปอีก

“ผมไม่รู้ ก็ทำตามโรดแมป” พล.อ.ประวิตร กล่าวสั้นๆ
.
“การเลือกตั้งต้องมี ก็ขึ้นกับสถานการณ์ กฎหมายที่เกี่ยวข้องจะเสร็จหรือไม่ ขออย่ามากดดันตนเรื่องนี้ ผมไม่บิดพลิ้วอะไรทั้งสิ้น” นายกฯ กล่าว
.
ระวังต้อง ‘ลงหลังเสือ’ ก่อนจบโรดแมป !!