เชิงบันไดทำเนียบ : ‘บิ๊กลภ’ ศิษย์วงษ์สุวรรณ ‘สมช.ทหาร’ สัปดาห์ตีฆ้อง “ละครชีวิต” จัดโผ ‘บิ๊กทหาร’

‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ยื่นเรื่องเสนอ ครม. เห็นชอบตั้ง ‘บิ๊กลภ’พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ ผอ.สำนักนโยบายและแผนกลาโหม ตท.18 เป็น “เลขาธิการ สมช.” คนใหม่ แทน ‘บิ๊กแอ๊ว’พล.อ.ทวีป เนตรนิยม ที่จะเกษียณปีนี้
.
ส่วน ‘รองเกลี้ยงฯ’นายสมเกียรติ ศรีประเสริฐ รองเลขาฯสมช. ที่เป็นแคนดิเดท ปลอบใจ นั่ง “ผู้ทรงคุณวุฒิด้านความมั่นคง” ติดยศ “C-11” หลัง นายกฯลงนาม คำสั่งหัวหน้าคสช. ตาม ม.44 เพิ่มอัตรา C-11 และ C-10 ในตำแหน่ง “ผู้ทรงคุณวุฒิ” อย่างละ 5 ตำแหน่ง รองรับข้าราชการที่ไม่สามารถขึ้นตำแหน่งในหน่วยงานเดิม

โดยทั้ง ‘บิ๊กลภ-รองเกลี้ยง’ เกษียณอายุราชการพร้อมกันปี2562 จึงเท่ากับว่า “ปิดทาง” ‘รองเกลี้ยง’ ไปเรียบร้อย แต่ความเป็นเพื่อนร่วมรุ่นวปอ. ก็สามารถทำงานร่วมกันได้ เพราะถือเป็นตำแหน่งที่ใกล้เคียงกับตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษด้านยุทธศาสตร์ความมั่นคง ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เคยมีการแต่งตั้ง นางกนกทิพย์ รชตะนันทน์ อดีตรองเลขาฯ สมช. ปี2558 ที่พลาดเก้าอี้ ให้ ‘บิ๊กแอ๊ว’ มาแล้ว
.
“การทำงานต้องคุยกับ พล.อ.วัลลภ ที่จะเริ่มงานในวันที่ 1ต.ค.นี้ เบื้องต้นได้คุยกันบ้างแล้ว เพราะเป็นเพื่อนกัน ทำงานด้วยกันได้ ไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม สภาพจิตใจของตนตอนนี้เข้มแข็ง ไม่ได้น้อยใจอะไร อาจจะสบายใจขึ้นด้วย” นายสมเกียรติ์ กล่าวด้วยรอยยิ้ม
.
ด้วยดีกรี ‘บิ๊กลภ’ สู่ ‘เลขาฯสมช.ลายพราง’ เป็นทหารเหล่า ‘ปืนใหญ่’ เคยผ่านหลักสูตรปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน หลักสูตรชั้นนายพันเหล่าทหารปืนใหญ่และค้นหาเป้าหมาย จากสหรัฐฯ เคยผ่านงาน ผู้บังคับหมวดทหารปืนใหญ่ ปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ด้านกองทัพภาคที่ 3 (ยุทธการสุริยพงษ์) ผู้บังคับกองร้อยทหารปืนใหญ่ค้นหาเป้าหมาย ป้องกันประเทศ ด้านกองทัพภาคที่ 2 (ยุทธการช่องบก,ช่องโอบก) อีกทั้งเคยดำรงตำแหน่งผู้บังคับกองร้อยกองพันทหารปืนใหญ่ที่104 รองผู้บังคับกองร้อยทหารปืนใหญ่ค้นหาเป้าหมาย กองพลทหารปืนใหญ่
.
ก่อนมาเติบโตสายยุทธการ เริ่มจากหัวหน้าแผนกกรมยุทธการทหารบก อาจารย์โรงเรียนเสนาธิการทหารบก ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารบกไทย รักษาราชการผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารไทย ประจำกรุงพนมเปญราชอาณาจักรกัมพูชา ผอ.สำนักนโยบายและแผน กรมยุทธการทหาร รองเจ้ากรมยุทธการทหาร เจ้ากรมยุทธการทหาร
.
“ผมดูการทำงานมา 1 ปี สนใจและแอคทีฟในงานความมั่นคงและใช้ภาษาต่างประเทศได้ดี เพราะเคยเป็นผู้ช่วยทูตทหารฝ่ายทหารบกไทยมาก่อน” พล.อ.ประวิตร กล่าวมั่นใจ พล.อ.วัลลภ
.
ซึ่งนายกฯก็ยอมรับการไม่สามารถทำตามนโยบายได้ ให้มีการ “ข้ามห้วย” ตั้งคนที่มาจาก “คนนอก” ไม่ได้มาจาก “คนใน” หรือ “ลูกหม้อ” แต่เดิม ที่ต้องเติบโตตามลำดับขึ้นจริงๆ
.
“ไม่ใช่ ผมบอกว่าไม่อยากให้มีการข้ามห้วย สื่อจำไม่ครบ ผมจำได้ว่าพูดว่าก็ไม่อยากให้มีการข้ามห้วยโดยไม่จำเป็น หรือไม่มีเหตุผล” นายกฯ กล่าว
.
ส่วนเหตุผลที่ ‘บิ๊กตู่’ ตัดสินใจครั้งนี้ ก็ไม่ต่างจาก พล.อ.ประวิตร มากนักที่มองถึงสถานการณ์ปัจจุบันที่ไม่ปกติจึงต้องให้ทหารมารับตำแหน่งนี้ ซึ่งจะต้องมีความรู้ด้านความมั่นคงแบบ 360 องศา

“ในช่วงนี้จะต้องมีผู้ที่รู้เรื่องเกี่ยวกับงานด้านความมั่นคงและการทหารที่จะเข้ามาดูแลส่วนนี้ ซึ่งเราต้องดูแลคนเก่าไม่ให้เขาเสียกำลังใจด้วย ในช่วงนี้ก็ขอให้คนใหม่ได้เข้าไปทำงานระยะหนึ่ง” นายกฯ กล่าว
.
การเลือกครั้งนี้ ถือว่า นายกฯให้อำนาจ ‘บิ๊กป้อม’ อย่างเต็มที่เพราะเป็นหน่วยงานด้านความมั่นคงในกำกับโดยตรง และมีการมองว่าเพื่อเคลียร์ทางให้ ‘บิ๊กณัฐ’พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ หัวหน้าฝ่ายเสนาธิการประจำรมว.กลาโหม ที่ได้รับตำแหน่งนี้เมื่อกลางปี2560 จ่อนั่งตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงกลาโหม เพื่อปูทางเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม ถือเป็นตท.20 น้องรัก ‘บิ๊กป้อม’ ที่แยกกันโตกับเพื่อนๆ ตท.20 จึงทำให้ชื่อ ‘บิ๊กณัฐ’ เป็นที่เพ่งเล็งทันที และพยายามโลว์โปร์ไฟล์ จนต้องออกมาคอนเฟิร์มว่าไม่ได้หลบสื่อ อย่างที่มองกัน แต่ในเก้าอี้ก็ยังไม่แน่นอนเพราะ ‘บิ๊กณัฐ’ เกษียณปี64 จึงยังมีเวลาอยู่
.
อีกทั้งชื่อของ ‘บิ๊กอ้อม’พล.ท.วีรชัย อินทุโศภน ผบ.หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน มีชื่อเข้านั่ง 5 เสือทบ. อีกครั้ง หลังปีที่แล้วก็มีเช่นกัน ซึ่ง “นรด.” เปรียบได้ว่าเป็นกองทัพภาคที่7 ของ ทบ.
.
แต่ถือว่ามีกำลังหรือการจัดหน่วยที่ยังไม่เทียบเท่ากองทัพภาคที่1-4 ซึ่งจุดนี้เองจึงทำให้ “น้ำหนัก” ที่ พล.ท.วีรชัย จะชิงนั่ง 5 เสือ ทบ. ต้อง “ออกแรง” พอสมควร เพราะเป็นที่รองรับนายทหารระดับ “แม่ทัพภาค” ก่อน
.
ในส่วนของ บก.กองทัพไทย ที่มีข่าว “เสียบยอด” ไม่หยุด ครั้งนี้ตกไปที่ ‘บิ๊กกบ’พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี รองเสธ.ทหาร ที่จ่อขึ้น เสธ.ทหาร หลัง ‘บิ๊กต๊อก’พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ จ่อขึ้นเป็น ผบ.สส.คนต่อไป ตามสูตรนี้อาจสะดุด เพราะเจอการ “ข้ามห้วย” มา “เสียบยอด” แทน จากนายทหารที่ติดยศ “พลเอก”
.
แต่แผงอำนาจแห่ง ‘ทัพแจ้งวัฒนะ’ ก็มีความชัดเจน ถึงการรวมกลุ่มและเดินตามไลน์ที่วางไว้ ‘บิ๊กปุย’พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผบ.สส. มักจะออกงานพร้อมกับ พล.อ.ธารไชยยันต์ พล.อ.พรพิพัฒน์ และ พล.อ.ธงชัย สาระสุข หัวหน้านายทหารฝ่ายเสธ.ประจำผบ.สส. ที่ต้องจับตาให้ดี เพราะอาจไปคุม “นักรบสีน้ำเงิน” เป็น ผบ.หน่วยทหารพัฒนา
เพราะ บก.กองทัพไทย มีการวางไลน์รองรับระยะยาว มาตั้งแต่ครั้ง ‘บิ๊กเจี๊ยบ’พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร เป็นผบ.สส.แล้ว
.
ส่วนโค้ทลับ “ม้าหรือเสือ ?” ในกระทรวงกลาโหม ก็ยังมีต่อเนื่อง ใครจะขึ้นเป็น “ปลัดกลาโหม” ต่อจาก ‘บิ๊กช้าง’พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปลัดกลาโหม สายทหารม้า ทั้ง ‘บิ๊กต้อ’พล.อ.สสิน ทองภักดี เสธ.ทบ. สายทหารม้า เติบโตงานยุทธการ กับ ‘บิ๊กเข้’พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ผู้ช่วยผบ.ทบ. สายทหารเสือฯ เติบโตสายคอนแมนด์
.
แม้ชื่อ ‘บิ๊กเข้’ จะเคยเต็งหนึ่ง “ปลัดกลาโหม” แต่วันนี้ชื่อ ‘บิ๊กต้อ’ ก็กลับมาอีกครั้ง เพราะเติบโตสายยุทธการมา อีกทั้งเป็นทหารม้า ที่มีแรงหนุนให้ขึ้นนั่งตำแหน่งใหญ่เทียบเท่า ผบ.เหล่าทัพ ในกระทรวง”ปืนใหญ่” ทำงานข้างกาย ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร ในยุคปรองดองของกองทัพ หรือจะคืนความสุขให้ ‘บิ๊กเข้’ ก็ได้เช่นกัน หลังพลาดเก้าอี้ ผบ.ทบ. มาแล้ว จึงเกิดคำถามขึ้นว่า สุดท้ายแล้ว “ม้าหรือเสือ?” จะเกษียณที่ ทบ.
.
ทั้งหมดนี้อยู่กับ ‘บิ๊กป้อม’ ได้นัดประชุมคณะกรรมการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพล ในสัปดาห์นี้ หลังให้ ผบ.เหล่าทัพ ส่งบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายตั้งแต่ 31ก.ค.ที่ผ่านมา ใครจะ ‘สมหวัง’ หรือ ‘อกหัก’ บ้าง โค้งสุดท้ายใกล้เข้ามาทุกขณะ

.
ละครชีวิต ‘ลายพราง’ ไม่เคยอวสาน !!