เกิดอะไรขึ้นบ้างกับกระแส #กูจะเปิดมึงจะทำไม : ถึงรองนายกฯ ถามว่าเยียวยาแล้วจะเอาอะไรอีก ?

#กูจะเปิดมึงจะทำไม อารยะขัดขืน! ผู้ประกอบการประท้วงมาตรการล็อกดาวน์รัฐบาล ประวิตรโต้ เยียวยาทุกอย่างแล้วเอาไรอีก โว้ะ !

หลังราชกิจจาเผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 25) ที่ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันนี้ (27 มิ.ย.) สาระสำคัญคือ ปิดแคมป์คนงานก่อสร้างใน กทม.-ปริมณฑล อย่างน้อย 30 วัน รวมทั้งให้ร้านอาหารบริการแบบ Take Home เท่านั้น  ทำให้บรรดาผู้ประกอบการโดยเฉพาะกลุ่มร้านอาหาร ได้รับผลกระทบอีกครั้ง นำไปสู่กระแสวิพากษ์วิจารณ์มาตรการดังกล่าว และเกิดแฮชแท็กร้อน #ประยุทธ์ออกไป และ #ล็อกดาวน์กรุงเทพ พุ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์

ผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่เรียกร้องให้บรรดาร้านอาหารแสดงอารยะขัดขืนต่อมาตรการดังกล่าว โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความระบุว่า ร้านไหนอยากร่วมแคมเปญ #กูจะเปิดมึงจะทำไม ลงชื่อกันไว้ก่อนได้เลย โดยกิจกรรมมี 3 ระยะ ดังนี้

* กิจกรรมระยะแรก : Flashmob ดาวกระจาย
จะชวนเปิดขายอาหาร+เครื่องดื่มกลับบ้าน และจัด event เปิดเวทีปราศรัย เล่นดนตรี unplugged ในร้าน ให้เข้าฟังร้านละ 20 คน จัดทีละเขต (ถ้าดูในฟอร์มจะเห็นว่าเราให้ระบุพื้นที่ สน.ไว้) เขตละ 5-10 ร้านในวันเดียวกัน ใครใคร่ไปร้านไหนไป แล้วก็เปลี่ยนไปจัดเขตอื่นต่อ ไอเดียมาจากงานคืนกลางคืน ของศิลปิน ปชต. กับร้าน Junk House Music Bar

* กิจกรรมระยะสอง : Open
เปิดร้านให้นั่ง ขายเหล้าเบียร์ เล่นดนตรีสด แบบมีมาตรการ รักษาระยะห่าง ไม่ต้องประชาสัมพันธ์ ไม่ต้องเอิกเกริก แต่เปิดโอกาสให้ลูกค้าประจำและเพื่อนฝูงได้มาสนับสนุนคุณ ถ้ามีการมาจับกุม เราก็รวมพลังกันด่าและสู้ ถึงตอนนั้น เครือข่ายเราก็จะแข็งแรงแล้ว

* กิจกรรมระยะสาม : Market Place + Mob
ถ้าทำขนาดนี้แล้วยังไม่เกิดอะไร ลงถนนกันเถอะ ออกร้านขายอาหารบนถนนกันค่ะ เปิดลานเบียร์ ตั้งเวทีเล่นดนตรี แล้วก็ปราศรัยใหญ่ด่าพวกมัน เชื่อว่าคนเอาแน่ ลูกค้าคุณจะตามมาซื้อ มวลชนจะมากินมา support แน่ๆ

ศบค. วอนผู้ประกอบการให้ความร่วมมือ

โดยล่าสุด พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีผู้ประกอบการร้านอาหารร่วมกันผุดแคมเปญ “#กูจะเปิดมึงจะทำไม” ในโซเชียลมีเดีย เพื่อแสดงอารยะขัดขืนต่อมาตรการของ ศบค. ที่ไม่ให้นั่งรับประทานอาหารในร้าน ว่า รับทราบแล้วและขอความร่วมมือ เพราะถ้าทำอย่างนั้นมีโอกาสเสี่ยงทั้งตัวผู้ประกอบการและผู้บริโภค
โดยขั้นต้นอยากขอความร่วมมือทุกฝ่าย โดยในส่วนรัฐบาลและศบค.จะขอดูสถานการณ์เมื่อผ่านไป 15 วัน ถ้าคลี่คลายก็จะพิจารณาผ่อนคลายให้ ขอประเมินก่อน และในวันนี้ยังเห็นว่าตัวเลขทรงตัวอยู่ ทั้งที่มีมาตรการออกมาแล้ว

ประวิตรโต้ รัฐเยียวยาทุกอย่าง จะเอาอะไรอีก โว้ะ!

เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 30 มิ.ย. ในฟากของรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการป้องกันโควิด-19 โดย ผู้สื่อข่าวถามถึงผู้ประกอบการอาหารขออารยะขัดขืนมาตรการห้ามนั่งทานในร้านอาหาร แคมเปญ #กูจะเปิดมึงจะทำไม เพราะทนไม่ไหวกับสภาพเศรษฐกิจ พล.อ.ประวิตร กล่าว รัฐบาลได้ช่วยทุกอย่าง ทั้งร้านอาหาร คนที่ได้รับผลกระทบ กรรมกรทั้งหมด รวมถึงคนที่ทำงานทั้งหมดทุกส่วน
โดย พล.อ.ประวิตร ย้อนถามสื่อมวลชนว่า รัฐบาลออกมาช่วยแล้วใช่หรือไม่ ที่ออกมาช่วยจ่ายเยียวยา ร้อยละ 50 ของเงินเดือนช่วยทั้งหมดแล้ว จะเอาอะไรอีก โว้ะ เมื่อถามว่ารัฐบาลยังไปไหวใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไปสิ ไปได้ รัฐบาลทำงานเต็มที่

#กูจะเปิดมึงจะทำไม สะท้อนปัญหานโยบายภาครัฐ

มาตรการของรัฐในการแก้ไขปัญหาที่ซ้ำซ้อนไม่เด็ดขาด เจ็บมานาน ไม่จบสักที ไม่เข้าใจเข้าถึงหัวอกประชาชน ส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการชาวบ้านผู้หาเช้ากินค่ำขาดรายได้ต่อเนื่อง
เนื่องจาก จากการที่ผู้ขาย ผู้ประกอบการ ไม่สามารถให้ลูกค้าสามารถนั่งรับประทานในร้านได้ โดยผู้ประกอบการปรับตัว จนไม่สามารถจะถอยได้แล้ว การประกาศแบบไร้แผนการ ผลักภาระให้ประชาชนเฉกเช่นนี้ สะท้อนความล้มเหลวในการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดนี้ในสถาณการณ์วิกฤตของประเทศอย่างแท้จริง