รอยร้าวระดับมหากาพย์ภายในพรรคพลังประชารัฐ เป็นพล็อตเรื่องเดิมๆที่เพิ่มเติมคือตัวละครที่เข้ามาใหม่ พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคที่รวมกลุ่มก๊กต่างๆทางการเมืองเข้าด้วยกัน ซึ่งแต่ละก๊กก็สถาปนาตัวเองเป็น ‘รัฐอิสระ’ ของกันและกัน อีกทั้งมี ‘นาย’ เป็นของตัวเอง ตามแต่ละกลุ่มก๊กและเน็ตเวิร์ก แต่รอยร้าวครั้งนี้เป็นระดับ ‘แผ่นดินไหว’ ไปทั้งพรรคและสะเทือนไปถึงรัฐบาล โดยเฉพาะ ‘เจ้าของพรรคตัวจริง’ อย่าง ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะ ปธ.กรรมการยุทธศาสตร์พรรค กับปฏิบัติการหวังยึดพรรคคืน
.
นับตั้งแต่ตั้งพรรคพลังประชารัฐ เปรียบเป็นร่างทรง คสช. ก็ได้ ‘สี่กุมาร’ ในการเดินทัพเดิมเกมทั้งหมด นำโดย ‘อุตตม สาวนายน’หน.พรรค ‘สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์’เลขาธิการพรรค ซึ่งทั้งหมดเป็นอดีตรัฐมนตรีในยุค คสช. ซึ่งทัพ ‘สี่กุมาร’ ก็มี ‘แม่ทัพตัวจริง’ คือ ‘สมคิด จาตุศรีพิทักษ์’รองนายกฯ นั่นเอง

จึงทำให้ ‘สมคิด’ ซัดกลับฝ่ายที่ออกมาปูดข่าวว่า “นาทีนี้ต้องช่วยกันทำงานให้ประเทศรอดพ้นไปให้ได้ ไม่ใช่เวลามาพูดถึงอำนาจ จะเอาอำนาจไปทำอะไร ไม่เข้าใจ” แต่ รองนายกฯสมคิด ก็ได้ออกตัวทิ้งท้ายว่า ตนไม่รู้เรื่อง เพราะไม่ได้อยู่ในพรรค
.
การเดินเกมครั้งนี้มีชื่อตัวละครใหม่เข้ามา หนึ่งในนั้นคือ ‘เสธ.อ.’ ก็คือ ‘เสธ.อ้น’พล.อ.กนิษฐ์ ชาญปรีชญา สมาชิก ส.ว. ที่ถูกพาดพิงว่าเป็นคนไปคุยกับ ‘อุตตม’ ให้ลาออกจาก ‘หัวหน้าพรรค’ เพื่อเปิดทางให้ ‘บิ๊กป้อม’ ขึ้นแทน แต่ก็ไม่เป็นผล โดย ‘เสธ.อ้น’ ทำงานให้ ‘2ป.ประวิตร-ประยุทธ์’ มานานแล้ว ตั้งแต่เป็นนายทหารในกองทัพ โดย เสธ.อ้น โตมาจาก ร.21 รอ. สายทหารเสือฯ เป็นรุ่นน้อง ตท.19-จปร.30 แม้วันนี้จะเป็น ส.ว. แต่ยังคงติดปากเรียก ‘2ป.’ ว่า ‘นาย’ อยู่ พร้อมยอมรับผ่านสื่อว่ามาช่วยงานการเมือง พล.อ.ประวิตร ด้วย
.
ชื่อ ‘เสธ.อ้น’ ไม่ได้พึ่งมาปรากฏเป็นข่าวในช่วงนี้ แต่หากย้อยไปปีที่แล้ว ก็มีชื่อ ‘เสธ.อ้น’ ปรากฏผ่านสื่อ หลังเคยมีข่าวว่า ‘วิรัช รัตนเศรษฐ’ และ ‘สุชาติ ตันเจริญ’ เคยจัดเลี้ยงวันเกิดให้ ‘เสธ.อ้น’ เมื่อเดือน พ.ค.62 โดย ‘เสธ.อ้น’ เกิดวันที่ 3พ.ค.2503 ซึ่งปีนี้อายุครบ 60 ปีพอดี โดยงานเลี้ยงวันเกิดปีที่แล้วเกิดขึ้นก่อนมีการเลือกตำแหน่งสำคัญในสภา อีกชื่อที่เป็นตัวละครใหม่ในรอยร้าวครั้งนี้ คือ ‘เสี่ยเฮ้ง-สุชาติ ชมกลิ่น’ประธาน ส.ส.พรรค หลังมีเหตุการณ์ไลน์หลุดของ ‘24ส.ส.ภาคกลาง’ ที่มี ‘เสี่ยเฮ้ง’ สนทนาในกรุ๊ปด้วย ที่ตอกย้ำถึงการทำงานของ ‘อุตตม-สนธิรัตน์’ ที่ดูแล ‘ลูกพรรค’ ไม่ทั่วถึงในช่วงโควิด ที่ลูกพรรคต้องลงพื้นที่

.
ที่สำคัญ ‘เสธ.อ้น’ ก็รู้ดีถึงปัญหาในพรรค โดยเฉพาะการออกมาให้สัมภาษณ์สื่อ พุ่งเป้าตอกย้ำไปที่เรื่องการทำงานของ ‘อุตตม-สนธิรัตน์’ ที่ดูแลลูกพรรคไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะการยกตัวอย่างเรื่องไลน์ 24ส.ส.ภาคกลาง ที่หลุดออกมาด้วย ยิ่งตอกย้ำกระแสข่าวว่า ‘เสธ.อ้น’ มีรู้จักมักคุ้นกับ ส.ส.กลุ่มนี้
.
ทว่าคำถามที่เกิดขึ้นอีกก็คือ ‘บิ๊กตู่’ รู้เห็นกับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือไม่ เพราะ ‘เสธ.อ้น’ เป็นรุ่นน้องที่โตมาจาก ร.21 รอ. ด้วยกัน ทำงานให้ พล.อ.ประยุทธ์ มานาน อีกทั้ง ‘บิ๊กป้อม’ ก็เป็น ‘พี่ที่เคารพ’ ผ่านสายสัมพันธ์ 3ป.บูรพาพยัคฆ์ ที่ยาวนานกว่า 40 ปี การตั้งพรรคพลังประชารัฐ ที่เปรียบเป็น ‘พรรคทหาร’ ถือเป็นความตั้งใจของทั้ง 2ป.ประวิตร-ประยุทธ์ อยู่แล้ว ในการอยู่ในอำนาจต่อ ผ่านการเลือกตั้ง เพราะงานนี้จะเสียของอีกไม่ได้ ในสถานการณ์ที่ ‘บิ๊กป้อม’ กำลังกรำศึกเช่นนี้ แม้ ‘บิ๊กตู่’ ยังนิ่งอยู่ จึงต้องจับตาว่าจะแสดงท่าทีใดออกมา ต่อจากนี้ เพื่อรักษาพรรคในภาพรวมไว้ ไม่ให้สะเทือนถึงรัฐบาล

ซึ่งในอดีต ‘บิ๊กตู่’ ก็เคยคำราม ‘แสดงบทบาทนำ’ สยบความเคลื่อนไหวในพรรคมาแล้ว เมื่อ 1ก.ค.62 พล.อ.ประยุทธ์ ออก ‘สารจากนายกรัฐมนตรี’ เพื่อชี้แจงปัญหาความขัดแย้งภายใน พปชร. ในการจัดตั้ง ครม. พร้อมขอโทษประชาชน ปมความขัดแย้งแย่งตำแหน่งรัฐมนตรีภายในพรรค พร้อมยอมรับว่าคนในพรรคมาจากหลายกลุ่มหลายสาขา แต่ขอให้มั่นใจสามารถบริหารงานได้
.
ทว่าการที่ เสธ.อ้น มีชื่อมาเกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชารัฐ ก็มีการถามถึง ‘ความเหมาะสม’ ท่ามกลางกระแสในหมู่คนรุ่นใหม่ หลังโควิดซาก็กลับมาขยับอีกครั้ง โดยเฉพาะการให้ยกเลิก 250 ส.ว. เพราะมาจาก คสช. ที่เปรียบเป็นการสืบทอดอำนาจ การที่ ‘เสธ.อ้น’ ตกเป็นข่าวเช่นนี้ ยิ่งทำให้ ส.ว. ถูกตั้งคำถามมากขึ้น ถึงความอิสระจากฝ่ายบริหาร ตามหลักการ ‘ถ่วงดุลอำนาจ’ อีกทั้ง ‘พรรคเพื่อไทย’ โดย ‘เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ’ ก็ใช้เวลานี้ส่งคำร้องไปยัง กกต. ขอให้ตรวจสอบกรณี ‘เสธ.อ้น’ ว่าเข้าข่ายฐาน ‘คนนอกครอบงำพรรค’ หรือไม่ ซึ่งมีบทลงโทษถึงขั้นยุบพรรคเลยทีเดียว
.
แซยิด ‘เสธ.อ้น’ สะเทือน ‘2ป.’