มหากาพย์ยิงรถ ‘บิ๊กโจ๊ก’พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษสำนักนายกฯ มีเอฟเฟ็กต์ตามหลายเรื่อง ล่าสุด ‘บิ๊กโจ๊ก’ เลือกเข้าสู่ทางธรรม บวชเพื่อทดแทนคุณบุพการี 9 วัน ที่วัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย โดยได้รับฉายาว่า “สุรเชฏฺฐโพธิ” แปลว่า ผู้มีปัญญาเครื่องตรัสรู้ซึ่งเจริญที่สุดด้วยความกล้าหาญ หลัง ‘บิ๊กโจ๊ก’ เจอหลายมรสุมพัดผ่าน โดยเฉพาะคำสั่งเตือนจากนายกฯ ไม่ให้กระทำผิดวินัยและจรรยาข้าราชการ โดยเฉพาะคำว่า ‘ประพฤติชั่วร้ายแรง’ ที่ระบุในคำสั่งนั่นเอง
.
แน่นอนว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ได้ใช้ไม้แข็งกับ ‘บิ๊กโจ๊ก’ เพราะเป็นเพียงคำสั่งเตือนเท่านั้น ดังนั้นการบวชของ ‘บิ๊กโจ๊ก’ จึงถูกมองว่าเพื่อ ‘หยุดเคลื่อนไหว’ หรือไม่ เพราะก่อนที่ ‘บิ๊กโจ๊ก’ จะบวชก็เงียบหายไป หลังท้าชน ‘บิ๊กแป๊ะ’พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. อย่างตรงเปรี้ยง เอฟเฟ็กต์แรกๆที่ตามมาคือคำสั่งเด้งฟ้าผ่า ‘บิ๊กต้อย’พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เข้ากรุประจำสำนักนายกฯ เซ่นพิษคลิปเสียงลับที่หลุดออกมา โดยเป็นบทสนทนาระหว่าง ‘บิ๊กต้อย-บิ๊กแป๊ะ’
.
นอกจากนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยังลงนามคำสั่งเด้ง ‘บิ๊กช้าง’พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รองผบ.ตร. เข้ากรุศูนย์ปฎิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่ง ‘บิ๊กแป๊ะ’ ให้เหตุผลสั้นๆเพื่อ ‘ความเหมาะสม’

นอกจากนี้ พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ และ พล.ต.อ.วิระชัย ยังพ้นจากการเป็น ‘นายตำรวจราชองครักษ์’ ด้วย
.
ในสถานการณ์เช่นนี้จึงมีการมองถึงชะตากรรม ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เพราะทั้ง ‘บิ๊กโจ๊ก-บิ๊กช้าง’ ต่างเป็นน้องรักทั้งสิ้น ส่วน พล.ต.อ.วิระชัย ก็ถูกเหมารวมว่าอยู่ฝั่งเดียวกับ ‘บิ๊กโจ๊ก’ หลังถูกเด้งปมคลิปเสียงหลุด แถมเกิดกระแสข่าวรอยร้าวระหว่าง ‘2ป.ประยุทธ์-ประวิตร’ ออกมาทันที ว่างานนี้ ‘บิ๊กตู่’ คุม ตร.เบ็ดเสร็จ แต่ทุกอย่างก็ถูกสยบลงไป หลัง ‘บิ๊กป้อม’ ยอมรับว่าได้มีการพูดคุยกันก่อนออกคำสั่งเตือน ‘บิ๊กโจ๊ก’ พร้อมสยบกระแสรอยร้าวพี่น้อง ‘2ป.’ ทั้งหมด ถึงสายสัมพันธ์ที่ยาวนานตั้งแต่รั้ว ร.21 รอ.
.
“เลิกพูดได้เลย ผมกับนายกฯไม่มีขัดแย้ง เพราะอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ สมัยเป็นร้อยเอก-ร้อยตรี อยู่ด้วยกันมาตลอด จนเกษียณอายุ แล้วจะเอาอะไรกันอีก” พล.อ.ประวิตร แจง พร้อมย้ำว่าตนกับนายกฯ คุยกันทุกเรื่อง
.
แต่กระแสเสี้ยมให้เกิดรอยร้าวระหว่าง ‘2ป.’ ยังไม่จบ หลังฝั่งต่อต้านรัฐบาลออกมาปูดข่าวว่า ‘บิ๊กป้อม’ จะหลุด ครม. แล้ว ‘บิ๊กแป๊ะ’ จะเข้าสู่ ครม. หลังเกษียณฯก.ย.นี้แทน โดยต่างเชื่อกันว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ จะเป็น ผบ.ตร. จนเกษียณฯ หลังดำรงตำแหน่งมา 4 ปีกว่าแล้ว ท่ามกลางกระแสข่าวถูกเลื่อยขาเก้าอี้ที่มีมาตลอด ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ก็มีกระแสข่าวหลุด ครม. มาตั้งแต่ยุค คสช. แล้ว แต่ยังคงอยู่ใน ครม. เรือยมา จนได้ชื่อว่า ‘รัฐมนตรีเก้าอี้เหนียว’ แม้จะต้องเจอกับมรสุมต่างๆ
.
ทว่าในความเป็นจริง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ไม่สามารถมาเป็นรัฐมนตรีได้ เพราะยังเป็น ส.ว.ตามตำแหน่งโควต้าผบ.เหล่าทัพ จึงขาดคุณสมบัติในการเป็นรัฐมนตรี รวมทั้งขาดคุณสมบัติในการเป็น ส.ส.และตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆด้วย เพราะจะต้องพ้นจากตำแหน่ง ส.ว.ไปแล้ว 2 ปี นั่นคือ ต.ค.65 นั่นเอง ถือเป็นกรณีเดียวกับ ‘บิ๊กแดง’พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ที่ฝ่ายค้านเคยปูดข่าวต่อคิวเป็น นายกฯ ต่อจาก พล.อ.ประยุทธ์
.
แต่สุดท้าย พล.อ.ประวิตร ก็เหลือเพียงเก้าอี้ รองนายกฯ และไม่ได้คุมตร.เช่นเดิม หลัง พล.อ.ประยุทธ์ นั่ง ประธาน ก.ตร. ด้วยตนเอง ด้วยเหตุผลที่ให้กันในเวลานั้นคือเรื่องสุขภาพของ พล.อ.ประวิตร อีกทั้งท้ายที่สุดพล.อ.ประวิตร ก็ไปรับตำแหน่งคุมพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะ ปธ.กรรมการยุทธศาสตร์พรรค นั่นเอง จึงเป็นเรื่องยากที่ พล.อ.ประวิตร จะหลุดจาก ครม. เพราะถือเป็นแกนหลักของรัฐบาลมาตั้งแต่ยุค คสช. ในนาม ‘3ป.บูรพาพยัคฆ์’ ที่กอดคอกันถูกกอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ด้วย

หลังฝ่ายค้านเปิดรายชื่อ 6 รัฐมนตรีที่จะถูกซักฟอก ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ‘บิ๊กป๊อก’พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายดอน ปรมัตถวินัย และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์
.
เพราะฝ่ายค้านมองว่าทั้ง ‘3ป.’ คือแกนหลักของรัฐบาล โดยเฉพาะชื่อ พล.อ.ประวิตร ที่เป็นประเด็นมาก่อนหน้านี้ หลังพรรคเพื่อไทยเปิดชื่อมาครั้งแรกไม่มีชื่อ พล.อ.ประวิตร ท่ามกลางกระแสข่าวมีการ ‘ดีล’ เกิดขึ้น ทำให้ทั้ง พล.อ.ประวิตร และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ปธ.คณะกรรมการกิจการพิเศษ พรรคเพื่อไทย ที่รับหน้าที่มาจัดขุนพล-เตรียมประเด็นศึกซักฟอก ต้องออกมาปฏิเสธทั้งคู่ว่าไม่มีการดีลใดๆทั้งสิ้น จนสุดท้ายแล้วฝ่ายค้านก็มีมติซักฟอก 6 รัฐมนตรีออกมานั่นเอง
.
ถือเป็นชะตาร่วมกันของ 4ป. ‘บิ๊กป้อม-บิ๊กป๊อก-บิ๊กแป๊ะ-ประยุทธ์’ !