เชิงบันไดทำเนียบ : รู้ทันกล ‘บิ๊กตู่’ แก้เกมสภา – โฟกัส ‘บิ๊กเหล่าทัพ’ ยืดอก เข้าสภา

กองทัพยังคงเป็นเป้านิ่งทางการเมือง แม้พ้นยุค คสช. มาแล้ว เพราะ นายกฯ ยังคงเป็น ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ควบเก้าอี้ รมว.กลาโหม ด้วย และกลไกสภาตามปกติได้กลับมาแล้ว หลังเว้นวรรคยุค คสช. มา 5 ปี โดยเฉพาะคู่ ‘2ตู่’ ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย ที่ยังไม่จบเรื่อง ครม. ถวายสัตย์ไม่ครบถ้วน
.
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังคงยืนยันให้ พล.อ.ประยุทธ์ มาชี้แจงด้วยตนเอง แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะให้ ‘ดิสทัต โหตระกิตย์’เลขาธิการนายกฯ ส่งหนังสือสอบถามและชี้แจงไปยัง กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาผู้แทนราษฎร หรือ ‘กมธ.ป.ป.ช.’ ที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นประธาน หลังให้เหตุผลว่าการถวายสัตย์ฯไม่ครบถ้วน ทำให้ความเป็น ครม. ยังไม่สมบูรณ์ จึงทำให้การจัดทำ พ.ร.บ.งบประมาณปี63 นั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ได้ ‘ปิดประตู’ ตัวเอง ว่าจะไม่ไปชี้แจงหรือไม่ แต่ขอเวลาตัดสินใจ หลัง กมธ. เชิญไปอีกครั้ง 6 พ.ย.นี้
.
“วันนี้ก็พูดกันมาหลายทาง ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบกันอยู่ของฝ่ายกฎหมาย ส่วนตัวไม่มีข้อขัดข้องอะไร เพียงแต่ต้องไปดูว่าประเด็นที่สอบถามและเรียกไปชี้แจงนั้นเป็นอย่างไร รวมทั้งที่ได้มีหนังสือสอบถามไป อะไรที่ซ้ำซ้อนกับของเดิม ควรจะต้องหากันใหม่หรือไม่ ก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกัน ส่วนผมเองนั้นไม่มีปัญหาอะไร และเมื่อถึงเวลาผมก็จะตัดสินใจของผมเองได้ อย่าเพิ่งมาถามกันทุกวันเลย เวลาก็ยังมีอยู่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
.
ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกมาตอบโต้กรณีที่ ‘ดิสทัต’ ส่งหนังสือมาสอบถามถึงอำนาจของ กมธ.ชุดดังกล่าว ในการเชิญ ‘บิ๊กตู่’ มาชี้แจง และสอบถามประเด็นที่จะสอบถาม โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ย้ำถึงการใช้อำนาจตาม รธน. มาตรา 129 วรรค 4 ในการเชิญมาชี้แจง ซึ่งการออกหนังสือเชิญนั้นเป็นมติคณะ กมธ. ไม่ใช่ความเห็นของประธาน กมธ.ฯ เพียงคนเดียว พร้อมย้ำว่าเป็นเรื่องของ กมธ. กับผู้ถูกเชิญเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่ 3 การให้บุคคลอื่นมาสอบถามแทน จึงเป็นเรื่องที่เสียมารยาท

นอกจาก พล.อ.ประยุทธ์ ที่ถูก กมธ. เชิญไปสภาแล้ว ฝั่งกองทัพทั้ง ‘ปลัดกลาโหม – ผบ.เหล่าทัพ’ ก็ถูกเชิญเข้าพบ กมธ. เช่นกัน โดยถูกเชิญให้พบ กมธ.ทหาร โดยเมื่อ 31ต.ค.ที่ผ่านมา ‘ปลัดณัฐ’พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกลาโหม ได้นำเสนาธิการ 3 เหล่าทัพ มาชี้แจงแทน พล.อ.ประยุทธ์ ถึงการเสนองบประมาณปี63 ของกระทรวงกลาโหม 2.33 แสนล้านบาท โดยเฉพาะในส่วนของการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์และการซ่อมบำรุง ซึ่ง กมธ.ทหาร ยังคงไม่พอใจการมาชี้แจงครั้งที่ผ่านมา หลัง ‘ประเสริฐ จันทรรวงทอง’ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ในฐานะที่ปรึกษา กมธ.ทหาร ออกมาระบุว่า เหมือนมีสัญญาณบอกมาว่าไม่ให้พูด
.
“หลายรายการไม่ได้แจกแจงรายละเอียดการใช้งบประมาณ โดยเฉพาะงบเกี่ยวกับการจัดซื้ออาวุธ งบการปรับปรุงสมรรถนะกองทัพที่เขียนแค่บรรทัดเดียว แต่จากการที่ กมธ. สอบถามเสนาธิการทุกเหล่าทัพที่มาชี้แจง ต่างไม่ยอมชี้แจงให้กมธ.ทหาร รับทราบ เหมือนมีสัญญาณบอกมาว่า ไม่ให้พูด บอกเพียงสั้นๆว่า เป็นเรื่องความมั่นคง และจะไปชี้แจงรายละเอียดต่างๆต่อคณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ เท่านั้น ทั้งที่ความจริงแล้ว กมธ.ทหาร มีสิทธิรับรู้ข้อมูล ดังนั้น กมธ.ทหาร จึงแทบไม่ได้ข้อมูลอะไรเลยในการเชิญกองทัพมาชี้แจงในครั้งนี้ แต่ผมจะนำเรื่องงบกองทัพไปแปรญัตติอภิปรายในร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย วาระ 2 ต่อไป” นายประเสริฐ กล่าว
.
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ 1 วัน (30ต.ค.) ‘บิ๊กตู่’ ได้นำประชุมสภากลาโหม ในฐานะ รมว.กลาโหม โดยมี ‘ปลัดกลาโหม – ผบ.เหล่าทัพ’ ร่วมประชุม ซึ่งได้กล่าวถึงการไปชี้แจงเรื่องต่างๆต่อ กมธ.ของสภา โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้กำชับว่าต้องพิจารณาตรวจสอบในข้อกฎหมายและวิธีปฏิบัติ อันไหนที่เป็นข้อกฎหมายที่จำเป็นก็ต้องไป ส่วนไหนเกี่ยวข้องกับวิธีปฏิบัติที่ส่งตัวแทน

ส่วนของการชี้แจงงบประมาณกองทัพปี63 ต่อ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ปี2563 พล.อ.ประยุทธ์ สั่งการที่ประชุมว่า เรื่องงบประมาณเป็นวาระการทำงานของสภา ให้ ผบ.เหล่าทัพ ชี้แจงความจำเป็น และเหตุผล ต่อกลไกสภาและกรรมาธิการต่างๆเพื่อทำความเข้าใจ โดยไม่ต้องพูดผ่านสื่อ ทั้งในเรื่องข้อสังเกต ถ้าตอบกันไปมา ข้อมูลอาจคลาดเคลื่อน ทำให้ประชาชนอาจเข้าใจไม่ถูกต้อง จึงให้ใช้กลไกของสภา ตามระบอบประชาธิปไตย
.
ทั้งนี้หากสังเกตจะพบว่า พล.อ.ประยุทธ์ ก็ ‘ไฟเขียว’ ให้ ‘ผู้นำเหล่าทัพ’ ไปชี้แจงต่อ กมธ.ชุดต่างๆได้ ที่นอกเหนือ กมธ.งบประมาณปี63 แต่สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กำชับให้ดูคือเรื่อง ‘ข้อกฎหมาย’ และ ‘ข้อปฏิบัติ’ เพราะไม่ใช่ว่าจะต้องไปชี้แจงเองทั้งหมดและทุกเรื่อง
.
แต่กรณีที่ ผบ.เหล่าทัพ จะต้องเข้าไปชี้แจงต่อ กมธ. ที่สภานั้น ก็ถูกยกเป็น ‘มาตรฐาน’ หลังจาก ‘บิ๊กแดง’พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ได้เข้าชี้แจง กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ ที่มี ‘เสธ.โหน่ง’พล.ท.พงศกร รอดชมภู (ตท.14) ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ เป็นประธานกมธ.ฯ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านความมั่นคง หลัง พล.อ.อภิรัชต์ จัดทอล์กแผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง ซึ่งตอนแรก ‘บิ๊กแดง’ ได้ส่ง ‘บิ๊กนัย’พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ ผู้ช่วยผบ.ทบ. ไปชี้แจงแทน หลังติดภารกิจตรวจหน่วย พล.ร.9 กาญจนบุรี แต่ กมธ. ไม่ยินยอม เป็นเรื่องที่ ผบ.ทบ. จะต้องชี้แจงด้วยตัวเอง เพราะเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ทำให้ พล.อ.อภิรัชต์ ต้องรับขึ้น ฮ.บินด่วนกลับมา กทม. ทันที เพื่อเข้าสภา และยกเลิกภารกิจช่วงบ่ายทั้งหมด

หลังการกลับสู่สภาวะปกติทางการเมือง กองทัพก็ต้องเดินเข้าสู่ระบบรัฐสภาในฐานะหน่วยงานของรัฐ อีกทั้งเป็นสถาบันทางการเมืองที่สำคัญ แต่เพราะการเป็น ‘กองทัพ’ นี้เอง เมื่อเดินเข้าสู่สภา จึงถูกสายตาจับจ้อง รวมทั้งถูกตีไปเป็นประเด็นทางการเมือง มากกว่าเรื่องกลไกของสภา โดยเฉพาะจากฟากฝั่งฝ่ายค้านที่มองว่า ‘กองทัพ’ เป็นคู่ตรงข้ามทางการเมืองมาตลอด โดยเฉพาะ พล.อ.อภิรัชต์ ที่ถูกจับตามานานกว่าสิบปี ตั้งแต่ยุคการชุมนุมของคนเสื้อแดงปี2552-53 ส่วนปลัดกลาโหมและผบ.เหล่าทัพคนอื่นๆ ก็หลีกเลี่ยงการให้สัมภาษณ์สื่อเรื่องการเมือง

แม้แต่การจัดประชุม ผบ.เหล่าทัพ ที่ตามธรรมเนียมแล้วจะมีการตั้งแถว ผบ.เหล่าทัพ เพื่อแถลงข่าว ‘บิ๊กกบ’พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.ทหารสูงสุด ก็ได้ยกเลิกไป โดยเปลี่ยนมาให้ ‘ทีมโฆษก บก.กองทัพไทย’ ทำหน้าที่ชี้แจงแทน
.
ซึ่ง ‘กองทัพ’ ก็ทราบดีว่า แม้หมดยุค คสช. ไปแล้ว แต่กองทัพยังตกเป็นเป้า เพราะมีนายกฯชื่อ ‘พล.อ.ประยุทธ์’ นั่นเอง