“ป” ตัวใหญ่ โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

ไม่รู้จะด่า หรือขอบคุณ 2 นักวิชาการฝรั่ง ที่เขียนบทความวิเคราะห์ในวอชิงตันโพสต์ ระบุไทยมีโอกาสที่จะเกิดรัฐประหารเป็นที่ 2 ของ 161 ประเทศดี

ด่า ก็เพราะยังไม่ได้ “สิทธิ” คืนจากคณะรัฐประหารเลย ยังมีหน้ามาบอกจะเจอการรัฐประหารอีก อะไรกันนักกันหนา

ขอบคุณ ก็เพราะช่วยกระตุก ว่าอย่า “เพ้อเจ้อ” เกินไปว่าจะได้ประชาธิปไตยกลับคืนตามโรดแมปที่

ใครบอก “จะทำตามสัญญา”

ด้วยเงื่อนไข ที่จะทำให้เกิดรัฐประหารอย่างไม่น่าประหลาดใจยังมียุ่บยั่บ

พูดตามสำนวนของ นายวิษณุ เครืองาม ก็ต้องว่า ยังมี “ตัวแปร” อีกมาก

ชั่งน้ำหนักไป น้ำหนักมา เลือก “ด่า” ฝรั่ง ดีกว่า–แฮ่ม

เพราะตอนนี้ อยากให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ รัฐบาล แม่น้ำ 5 สาย รวมถึง “ป.ย.ป.” มีสมาธิกับการทำงานที่เหลืออีกปีกว่าให้ลุล่วงไป จะได้มีประชาธิปไตย มีเลือกตั้ง อย่างที่วางโรดแมปไว้

ไม่ควรมีอะไรมาทำให้วอกแวก

โดยเฉพาะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ควรใช้คุณสมบัติพิเศษที่ทุกคนยอมรับคือ Mr.ดีล ดึงเอาทุกฝ่ายมาหารือเพื่อให้เกิดความปรองดองให้ได้

จะเป็นบุญคุณต่อแผ่นดินมหาศาล

แต่ก็นั่นแหละ อย่างที่เรารู้กันดีว่า เรื่องปรองดอง ยากแค่ไหน

แค่ขยับตัวเท่านั้น Mr.ดีล เจอทั้ง “ดักคอ” เจอทั้ง “ตีปลาหน้าไซ”

โดยปูดว่า พล.อ.ประวิตรจะไปดีลกับบางฝ่าย เพื่อตั้งรัฐบาลแห่งชาติ แล้วเปิดเก้าอี้ใหญ่ 2 เก้าอี้ ทั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหมเพื่อรอใครบางคน

ข้อมูลนี้ทำเอา พล.อ.ประวิตรเดือดปุดๆ ภาพลักษณ์เสียหายหมด ฐานจะปรองดองเพื่อประโยชน์แห่งตน

และตอนนี้ยัง และเลเพลาดพาดไปถึงขนาด จะมีคนลอบสังหารอีกด้วย

แรงกดดันจึงมหาศาล

“ตัวแปร” ต่างๆ เข้ามารบกวนอยู่ตลอดเวลา

และว่ากันตามตรง เพราะการปรองดอง ไม่รู้ว่าจะออกมาในรูปแบบไหน จะคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งได้ขนาดใดนี้เอง

อาจจะมีใครหรือกลุ่มใดแวบกลับไปคะนึงหา “ไม้ตาย” เดิม

แบบ “เมื่อพวกคุณตกลงกันไม่ได้ ผมขอยึดอำนาจ” อะไรทำนองนั้น

ยิ่งพูดจบและออกแอ๊กชั่นแล้ว เสียงปรบมือเชียร์จากชาวบ้านจำนวนมากดังกระหึ่ม

ทำเอาคนที่มองโลกสวยว่า เขาไม่กล้าทำหรอก เพราะโลกจะไม่ยอมรับ ยืนมองตาปริบๆ

และต้องทำใจยอมรับกับข้ออ้าง ทำนองว่า “พวกเราทำปฏิวัติไม่ได้หรอก หากประชาชนไม่สนับสนุน”

นี่เองที่เป็น “ท่าไม้ตาย” ซึ่งทำให้เราอยู่ในกลุ่ม “รักรัฐประหาร” มาอย่างยาวนาน

ส่วนจะถึงขนาดฝัง “ในสันดาน” เลยหรือไม่ ก็ลองไปพิจารณากันดูก็แล้วกัน

แต่สรุปง่ายๆ เชื้อรัฐประหาร ไม่เคยตาย

ยิ่งฝรั่งมาวิเคราะห์ เป็นหลักวิชาการเสียด้วยว่า ประเทศไทยยังมีปัจจัยเอื้อที่จะทำให้เกิดการรัฐประหาร สูงเป็นที่ 2 ของโลกเข้าไปอีก

คนที่ไม่คิด หรือเข็ดไม่อยากทำอีก อยากกลับบ้าน ก็ชักเริ่มชะงัก

เมื่อรัฐประหารถูกทำให้ ถูกโฉลกกับนิสัยคนไทย

ถูกทำให้ “เป็นทางออกสุดท้าย” ของบ้านเมือง

เมื่อมี “ตัวแปร” มาเย้ายวน จากที่ไม่คิดทำ ก็เริ่มคิด

จากไม่อยาก ก็เริ่มอยาก เพราะมีโอกาสสำเร็จสูง

เพราะอย่างนี้ถึงได้บอก อยาก “ด่า” ฝรั่งให้เช็ด ที่มาวิเคราะห์ว่า การรัฐประหารมีโอกาสเกิดขึ้นในไทยซ้ำเข้าไปอีก

ไอ ยังไม่ได้เลือกตั้งเลย ยู มาพูดเรื่องรัฐประหาร ยั่วอีก รู้ก็รู้ว่าประเทศนี้ภูมิต้าน “ป”-ปฏิวัติ ต่ำขนาดไหน