เชิงบันไดทำเนียบ ‘ป๋าเปรม’ ทวงสัญญา ‘บิ๊กตู่’ วัน ‘บิ๊กแอ๊ด’แซงโค้ง ‘ป๋าป้อม’ กลับที่มั่น

“ท่านจะทำให้ความเหนื่อยของเราสิ้นสุดโดยเร็ว”

‘ป๋าเปรม’พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ปธ.องคมนตรีและรัฐบุรุษ กล่าวอวยพร ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่นำทัพ ครม.ทหาร ผบ.เหล่าทัพ เข้าอวยพรวันปีใหม่ ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์

สปีช ‘ป๋าเปรม’ครั้งนี้มาในใจความว่า “เหนื่อย” จะมีคำนี้ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบท้าย ว่า รู้ว่ารัฐบาลและทุกคนเหนื่อย แต่ชะโลมหัวใจด้วยว่า “ยิ่งเหนื่อยเท่าไหร่ ความสำเร็จจะมีมากขึ้นเท่านั้น”

แต่มีจุดสำคัญคือ “ความเหนื่อยสิ้นสุดโดยเร็ว” ทำให้เกิดการตีความกันหนาหู ว่า ‘ป๋าเปรม’ จะส่งสัญญาณอะไรสะกิดใจ ‘บิ๊กตู่’ ผู้นำทัพคสช. เพราะปี2560 ถือว่าเป็นโค้งสุดท้ายตาม Roadmap คสช.

ที่จะต้องเตรียมการเลือกตั้งอย่างเร็วคือปลายปี2560 หรือจะต้องขยับไปต้นปี2561 ที่คำว่า “โดยเร็ว” นี้เองก็มีการตีความว่า “ป๋าเปรมเร่ง” ให้นายกฯรีบขับเคลื่อนภารกิจงานตาม Roadmap หรือไม่

หลังเลื่อน Roadmap ออกไปแล้ว 1 ครั้ง เพราะร่างรัฐธรรมนูญ ของนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ไม่ผ่านมือสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) จนต้องมาถึงมือนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ร่างเองจนผ่านประชามติไปแบบสบายๆ

แต่ ‘ป๋าเปรม’ ก็ทิ้งข้อคิดให้ ‘บิ๊กตู่’ ครม.ทหาร ผบ.เหล่าทัพ ที่ล้วนเป็น “คสช.” ต้องกลับไปคิดหนักพอสมควร เรื่องของ “สัญญา” ที่ให้ไว้ สะท้อนว่าหากไม่เป็นไปตาม “สัญญา” กระแสต่อคสช. แรงเคลื่อนไหว คงไม่ธรรมดา

“ผมดีใจที่พวกเราร่วมมือกันด้วยความปรารถนาดีต่อชาติบ้านเมือง ที่ยอมเหนื่อยให้คนไทยมีความสุข แม้ว่าเป็นคำไม่สวยงาม แต่เป็นสัญญาที่มีต่อตนเอง มีต่อชาติ และทุกคนในประเทศ” พล.อ.เปรม กล่าว

สปีชของ ‘ป๋าเปรม’ ที่ทั้ง “เร่ง” ทั้งทวง “สัญญา” ต่อ “คสช.” เป็นสารที่ไม่ธรรมดาตั้งแต่เปิดบ้านปี2557 หลัง ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ ทำการรัฐประหาร เรื่อยมาถึงนั่งนายกรัฐมนตรีด้วยตนเอง เป็นสัญญาณ “เตือน” ให้ต้องตระหนักถึงอนาคตที่ “คสช.” หากไม่ทำตามสัญญา จะต้องเจอกับอะไร ก็เป็นได้

“สัญญาณ” นี้ไม่ธรรมดาเพราะการเปิดของ “บ้านสี่เสาเทเวศร์” ครั้งนี้ คือการกลับมาเป็น ปธ.องคมนตรีอีกครั้งของ ‘ป๋าเปรม’ สะท้อน ‘บารมี’ พล.อ.เปรม ที่เป็นมนต์ขลังยากจะอับแสง ที่กลับมาจรัสแสงอีกครั้ง
.
ผิดกับบ้าน “ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด” ใน ร.1 รอ. ของ ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ แม้จะเปิดบ้านรับอวยพรปีใหม่ แต่ขอทำแบบเงียบๆ ห้ามสื่อเข้าทำทำข่าวแบบที่ผ่านมา ที่สำคัญไม่มีการตั้งแถวของ ผบ.เหล่าทัพ เช่นที่เคยปฏิบัติ

หากมองย้อนกลับไปอีก ก็ตรงกับกระแส ‘บิ๊กป้อม’ หลุดครม. จนสุดท้ายก็ยังมีชื่ออยู่ใน ‘ครม.ประยุทธ์4’ ตามเดิม ที่ผิดปกติ คือ พล.อ.ประวิตร ขอเป็นข่าวน้อยลง ทำงานเงียบๆมากขึ้น งดให้สัมภาษณ์สื่อไป 1 สัปดาห์ เมื่อกลับมาให้สัมภาษณ์ ยึดหลัก ‘บิ๊กตู่โมเดล’

จะต้องแจ้งประเด็นกับทีมโฆษกกลาโหมก่อน และจะเลือกตอบเท่าที่จะเป็น ที่สำคัญไม่เปิดให้สื่อซักถามเช่นที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลตัวเองตกเป็นเป้าใหญ่ถูกโจมตี เพราะมองว่าตนทำงานมาก หรือมีอำนาจมากไป

หากย้อนไทม์ไลน์กลับไปอีกกระแส ‘บิ๊กป้อม’ หลุดครม.มาจากนายตำรวจคนสนิท ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในวงการสีกากีด้วยกัน และแรงกดดันจาก ‘นอกครม.’ จนทำให้ ‘บิ๊กป้อม’ ต้อง ‘โลว์โปร์ไฟล์’ ทันทีที่โผ ‘ครม.ประยุทธ์4’ ออก

กระนั้นมาด้วยกระแส ‘บิ๊กป๊อก’พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา พี่รองบูรพาพยัคฆ์ ของ 3ป. ที่ถูกมีชื่อนั่ง รมว.กลาโหม แทน พล.อ.ประวิตร แต่ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะครั้งนายกฯจัดทัพ ‘ครม.ประยุทธ์1’ ชื่อ ‘บิ๊กป๊อก’นั่งตำแหน่งนี้มาแต่แรก

ด้วย ‘พี่ป้อม’ อาสามามาช่วยงาน ‘น้องตู่’ ทำให้ได้ รมว.กลาโหมไป และ ‘พี่ป๊อก’นั่งรมว.มหาดไทยแทน เรียกได้ว่า 3ป. คุมทั้งกำลังกองทัพและฝ่ายปกครอง เบ็ดเสร็จ

ล่าสุด คสช. ได้ตั้ง ‘บิ๊กป๊อก’ นั่งสมาชิดคสช. แทน ‘บิ๊กต๊อก’พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ที่ไปเป็นองคมนตรี ก็เป็นสิ่งที่นายกฯคิดดีแล้ว เพราะ ‘บิ๊กป๊อก’ ถือเป็นคีย์แมนสำคัญของ 3ป. เลยทีเดียว สามารถรับไม่ต่อ ‘บิ๊กต๊อก’ แม้จะมีกระแสอีกว่า ‘บิ๊กป๊อก’ ไม่อยากเป็นคสช.ตั้งแต่แรก เพราะไม่อยากตกเป็นเป้า

แต่กระแสที่สูสี คือ ‘บิ๊กป้อม’ มานั่งแล้ว เลยหมดโควตาให้ ‘บิ๊กป๊อก’

ยังไม่หมด การให้ ‘บิ๊กป๊อก’ มานั้งในสมาชิกคสช. เท่ากับว่าจะเป็นการปูทางไปเป็น รมว.กลาโหม ในอนาคตหรือไม่ หลังนายกฯบอกว่าจะมีการปรับครม.อีก ที่สำคัญกระแส ‘บิ๊กป้อม’ หลุด ‘ครม.ประยุทธ์5’ หรือ ลาออก ยังไม่จบง่ายๆ สะเทือนเก้าอี้พี่ใหญ่ป้อม ไปอีกนาน

อีกบ้านที่เปิดและโดดเด่นไม่แพ้กัน คือ มูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ของ ‘บิ๊กแอ๊ด’พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ที่เปิดให้นายสายรบพิเศษเข้าอวยพรปีใหม่

‘บิ๊กเจี๊ยบ’พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. รุ่นน้องรบพิเศษ ก็ตบเท้าเข้าอวยพรด้วย เมื่อเป็นยุครบพิเศษผงาดรอบ 10 ปี งานนี้ไม่ธรรมดา ทำให้สายตาต่างโฟกัสไปมากขึ้น เพราะ ‘บิ๊กแอ๊ด’ เป็นลูกป๋า ทำให้ ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ น้องรัก พล.อ.สุรยุทธ์ ได้เป็นลูกป๋าไปอีกคนด้วย

เช่น ที่ ‘ป๋าเปรม’ ทักหลังนายกฯอวยพรปีใหม่ว่า “ไงเจี๊ยบ” แบบเป็นกันเอง สั้นๆ แต่กินใจความทั้งหมด

การเข้าอวยพรครั้งนี้ มีความสำคัญเพราะมีการแจ้งสื่ออย่างเป็นทางการ แม้จะไม่ให้เข้าไปในห้องก็ตาม เพราะก่อนหน้านี้ ‘บิ๊กแอ๊ด’ จะเปิดมูลนิธิเงียบๆให้เข้าอวยพรเฉพาะคนสนิท-ใกล้ชิดเท่านั้น

พล.อ.สุรยุทธ์ อวยพรทหารรบพิเศษเพียงสั้นๆว่า ขอให้ทำเพื่อประเทศชาติ แม้สื่อจะถาม ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ ว่า ‘บิ๊กแอ๊ด’ อวยพรว่าอะไร ก็ขอไม่ตอบ ก่อนขึ้นรถ สื่อจึงทักว่า “แค่มองตาก็รู้ใจแล้ว” ทำเอา ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ ยิ้มและโบกมือให้ คงเป็นเซนต์ของ ‘รบพิเศษ’ ด้วยกัน

หากย้อยกลับไปช่วง พล.อ.สุรยุทธ์ เป็น ผบ.ทบ. ก็เคยมีเรื่องที่วิพากษ์วิจารณ์กันว่า โยก ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร เข้ากรุ ไปนั่ง ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทบ. และ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบก ฝ่ายยุทธการ มาแล้ว

ทั้งที่ควรจะได้ขึ้นเป็น แม่ทัพภาคที่1 ก่อนขึ้น5เสือ ทบ. ชิงเป็น ผบ.ทบ. เป็นเรื่องที่ยังคงค้างคากันมา

การเปิดบ้าน 3 หลังครั้งนี้ จึงไม่ธรรมดา เพราะวัด “อำนาจ – บารมี” ของขั้ว “บ้านป่ารอยต่อ” ของ ‘บิ๊กป้อม’ กับ “บ้านสี่เสาฯ – มูลนิธิรัฐบุรษฯ ของ ‘ป๋าเปรม – บิ๊กแอ๊ด’ ทั้งบ้านปิดเงียบ บ้านเปิดกว้าง และบ้านที่เริ่มเปิด

หากพิจารณาจากที่ ‘บิ๊กตู่’ ถึงกับขอ ‘บิ๊กป้อม’ ล้วงลูกโผทหาร ดัน ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ เป็นผบ.ทบ. แล้วนั้น ก็วัดได้ว่านายกฯให้ความสำคัญกับสิ่งใดและมองอนาคตไกลขนาดไหน

บ้านสี่เสาฯ ไม่ธรรมดาจริงๆ !!