E-DUANG : แรงกระแทกอันทรงพลังจาก”เด็กปาก้อนหิน”

ต้องยอมรับว่า กรณี”เด็กปาก้อนหิน” ได้ก่อให้เกิด”แรงกระแทก”ที่ รุนแรงและลึกซึ้งในทางสังคม

เป็นแรงกระแทกไปยัง “ความคิด”

ขณะเดียวกัน ก็เป็นแรงกระแทกและส่งผลสะเทือนไปยังความรับรู้ ความเข้าใจต่อปัญหาในทาง “เทคโนโลยี”

เป็นเทคโนโลยีในทาง “คอมพิวเตอร์”

ยิ่งไปกว่านั้น ก็คือ ผลพวงจากผลิตภัณฑ์”คอมพิวเตอร์”อันแผ่และขยายไปยัง”โลกออนไลน์”

ทาง 1 จึงก่อให้เกิดสภาวะงุนงงและสงกา

งุนงงและสงกาว่าเหตุใด “ก้อนหิน” จึงปรากฏพร้อมกับอุป กรณ์อย่างที่เรียกว่า “F 5″

งุนงงในจุดต่างระหว่างผล”ปฏิบัติการ”

จากเป้าหมายเพื่อถล่มให้ “ล่ม” กระทั่งพัฒนาการไปสู่การเจาะและ”แฮก”

เป็นความงุนงงท่ามกลางความอยากรู้

 

ตัวอย่างแรกสุดที่ได้จากบรรยากาศ 2 บรรยากาศมาเปรียบเทียบกันโดยอัตโนมัติ

1 การแถลงของตำรวจเรื่องจับกุม”แฮกเกอร์”วัย 19

สัมผัสได้ในความคึกคักจาก “ของกลาง” ที่ไม่เพียงแต่มีหนังสือว่าด้วยคู่มือการแฮก หากแต่ยังมีกัญชา 3 แท่ง หากแต่ยังมีอาวุธปืน

พร้อมกับอุปกรณ์”คอมพิวเตอร์”

ขณะเดียวกัน 1 เมื่ออ่านจากเสียงสะท้อนอันมาจาก”พลเมืองต่อต้าน Single Gateway”ที่ไทยรัฐนำมารายงาน

ทันทีที่มีข่าวว่าตำรวจจับกุมแฮกเกอร์ในกลุ่มไป 1 ราย ใครอยู่ในกำแหงทีมแล้วยังต้องเปิดตำราเล่มนี้ ยกมือขึ้น ใครยังใช้ CD-Rom ในการลง Kali Linux บ้าง ใครพกปืนเอาไว้จัดการกับศัตรูแบบนี้บ้าง

เห็นของกลางแล้วเลอะเทอะใหญ่

เท่ากับสะท้อนภาพ 2 ภาพอันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และอยู่กันคนละโลกอย่างสิ้นเชิง

 

จากนี้จึงไม่เพียงแต่ “ทหาร”และ”ตำรวจ”ซึ่งมีภาระรับผิดชอบในการสกัดขัดขวางเท่านั้น

หากแม้แต่ “ชาวบ้าน” ก็ต้องให้ความสนใจ

เพราะหากไม่สนใจก็จะไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่า การกด F 5 รัว รัว ส่งผลอย่างไรต่อ “เว็บไซต์”

เพราะหากไม่สนใจก็จะแยกจำแนกไม่ได้ในความแตกต่างระหว่าง “เด็กปาก้อนหิน” กับการเจาะทะลวงอย่างต่อเนื่องโดยมือระดับโลกอย่าง ANONYMOUS

ที่สำคัญก็คือ จะต้องงุนงงสงกากับเสียงหัวเราะต่อความคึกคักในการนำเสนอ”ของกลาง”

ระหว่าง “ตำรวจ” กับ “กลุ่มป่วน”คล้ายกับนั่นคือ เงาสะท้อนแห่ง “ยุทธวิธี” ของแต่ละฝ่าย

แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นยังอยู่ที่ “ความเป็นจริง”