เผยแพร่ |
---|
การจับกุม 5 “ผู้ต้องสงสัย”ในกรณีการแฮกเข้าไปยังเว็บไซต์ของ”หน่วยราชการ”เป็นจุดหักเลี้ยวอย่างสำคัญ
ในสถานการณ์ “เด็กปาก้อนหิน”
นี่เป็น “เรื่องจริง” โดยได้รับการยืนยันจาก พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.
เป็นการจับกุมตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม
เท่ากับแสดงให้เห็นว่า การจับกุมนี้อยู่ในความรับรู้ของหลาย หน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง
นั่นก็คือ กระทรวงการคลัง
นั่นก็คือ กระทรวงดีอีเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
แม้ “ข้อมูล” 1 ซึ่งมาจากปากของ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ใน ฐานะเลขาธิการคสช.
ต้องรอผล”การสอบสวน”
แต่การสอบสวนเบื้องต้นจากวันที่ 22-29 ธันวาคม สำคัญยิ่งต่อขบวนการ”แฮกเกอร์”ในประเทศไทย
นี่คือการเจาะเข้าไปยัง”โครงสร้าง”
ท่ามกลางความงุนงงสงสัย เพราะไม่มีใครรู้ว่า 5 “ผู้ต้องสงสัย”เป็นใคร
นอกจากข่าวลอยๆมาว่า “เป็นเด็กคะนอง”
นอกจากปรากฏผ่านผลสำรวจ “สงครามไซเบอร์”ของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ว่า
เป็นเรื่องของ”เด็กเกรียน” ต้องการแสดง”ศักยภาพ”
เสียงเตือนจากแฮกเกอร์ระดับโลก ANONYMOUS มากด้วยความสุขุม
เป็นการเตือนไปยัง”ผู้ที่เคลื่อนไหว”
“ให้คิดให้ดีก่อนตัดสินใจเจาะระบบและต้องมั่นใจว่าสามารถกลบร่องรอยได้อย่างหมดจดจริงๆ”
เป็น “การเตือน” จากรุ่นพี่ผู้มากด้วย”ความจัดเจน”
หากมองด้วยสายตาของ “เด็กเกรียน” ก็อาจดำเนินไปอย่างที่มีบทสรุปจาก “คสช.”
นั่นก็คือ เป็นเรื่องของ”เด็กคะนอง”
เพราะเป้าหมายในการจับกุม 5 ผู้ต้องสงสัยของ”คสช.”เป็นเรื่องจริงจัง
จริงจังเหมือนเสียงสำทับจากบรรดา”โฆษก”
ไม่ว่าจะเป็นโฆษกจาก”ทำเนียบรัฐบาล” ไม่ว่าจะเป็นโฆษกจาก “คสช.” ไม่ว่าจะเป็นโฆษกจาก”กลาโหม”
ทั้งหมดนี้มีจุดเริ่มต้น”ก้าวที่ 1″ มาจาก”ทหาร”
หากพลาดพลั้งหมายถึง “คุก” เพราะมีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ค้ำคออยู่อย่างเต็มเปี่ยม
นั่นหมายถึง “โครงสร้าง”ของ”แฮกเกอร์”จะถูก”เจาะ”
เพราะมีแต่ต้องทะลวงเข้าไปในขบวนการ”แฮกเกอร์”เท่านั้นจึงจะยับยั้ง”ปฏิบัติการ”ได้อย่างทรงพลานุภาพ
โดยเฉพาะปฏิบัติการ”เด็กปาก้อนหิน”