เผยแพร่ |
---|
กรณีอันเกี่ยวกับ “วัดพระธรรมกาย” กรณีอันเกี่ยวกับ พระเทพญาณมหามุนี นำเสนอ”บทเรียน”อย่างใหญ่หลวง
เป็นบทเรียนในเรื่องของ “อำนาจ”
ทั้งๆที่ดีเอสไอมีทั้ง “หมายจับ” มีทั้ง “หมายค้น”อยู่ในมือ ทำไมจนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถทำอะไรได้
เห็นกันมาตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายนแล้ว
“หมายจับ”ก็ออกมาตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคม และมิได้มีเพียง 1 ใบ หากรวมกับที่ตำรวจมีอยู่ในมือก็เท่ากับ 3 ใบ
แต่จนแล้วจนรอดก็เข้า”วัดพระธรรมกาย”ไม่ได้
แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้ตัว พระเทพญาณมหามุนี มาตามคำสั่งของสำนักงานอัยการสูงสุดตามความต้องการ
ถามว่า”หมายจับ”ถูกต้องหรือไม่ ถามว่า”หมายค้น”ถูกต้องหรือไม่
ตอบได้เลยว่าถูกต้อง และถูกต้องอย่างยิ่ง
แต่สถานการณ์เมื่อเดือนมิถุนายนก็ต่อเนื่องมายังสถานการณ์ในเดือนธันวาคม
เท่ากับสะท้อนว่าในตัวของ”อำนาจ”ก็มี”ปัญหา”
ไม่เพียงแต่จากกรณีของวัดพระธรรมกาย ไม่เพียงแต่จากกรณีของ พระเทพญาณมหามุนี
ขอให้ดูกรณีเกี่ยวกับร่างพรบ.”คอมพิวเตอร์”
ขอให้ดูกรณีเกี่ยวกับร่างพรบ.”พรรคการเมือง”
เหมือนกับเมื่อออกมาจาก “รัฐบาล” เดินหน้าไปยัง “สนช.”ก็สามารถผ่านฉลุย
แต่ “สภาพ”ที่เห็นบ่งบอกว่าไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น
เหมือนกับเมื่อคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)ฟันธงออกมาเช่นนี้ก็สามารถผ่านฉลุย
แต่”สภาพ”ที่เห็นบ่งบอกว่าไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น
ไม่ว่าร่างพรบ.”คอมพิวเตอร์” ไม่ว่าร่างพรบ.”พรรคการเมือง”ก็เช่นเดียวกับกรณีของ พระเทพญาณมหามุนี
“อำนาจ”อยู่ในมือแน่นอน
เป็น”อำนาจ”อันมีกฎหมายรองรับอย่างเต็มเปี่ยม โดยเฉพาะกฎหมาย”รัฐธรรมนูญ”
แต่ “อำนาจ” ก็ไม่สามารถ”สำแดง”ตัวออกมา
ต่อร่างพรบ.”คอมพิวเตอร์”ก็มีพลเมืองล่าลายเซ็นจำนวนเป็นแสนออกมาต่อต้าน
ต่อร่างพรบ.”พรรคการเมือง”ก็สร้างความหงุดหงิดอย่างสูง
แม้จะมีเทียบเชิญให้เข้าร่วมเสวนา แต่บางพรรคการเมืองก็ประกาศเด่นชัดไม่เข้าร่วม
และหลายพรรคส่งแต่”ความเห็น”
“อำนาจ” จึงมิได้หมายความว่าจะสามารถทำอะไรก็ได้ตามแต่ใจปรารถนา เพราะยังมีองค์ประกอบอื่นอีกมากเข้ามาเป็นเหตุและปัจจัย
กระบวนการบริหาร”อำนาจ”จึงสำคัญและทรงความหมาย
มี”อำนาจ”แล้วยังต้องเข้าใจ”อำนาจ”และบริหาร”อำนาจ”เป็น