ธงทอง จันทรางศุ : ห้าธันวาปีนี้หรือปีใด ทรงความหมายไม่ลบเลือนเหมือนเก่าเอย

เช้าวันนี้วันที่ 5 ธันวาคมพุทธศักราช 2559 Facebook ของผมนำภาพย้อนอดีตมาให้ดูมากมาย ทุกปีที่ผ่านมาตลอดชีวิตวันที่ 5 ธันวาคมมีความหมายมากสำหรับคนไทยทุกคน นอกจากความปิติยินดีเฉกเช่นเดียวกันกับคนไทยทั้งหลายแล้ว ตำแหน่งหน้าที่การงานและโชควาสนาอำนวยให้ผมมีโอกาสได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในงานบำเพ็ญพระราชกุศลที่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยบ้าง ในการเสด็จออกมหาสมาคมที่ในพระบรมมหาราชวัง ไม่ว่าจะเป็นในพระที่นั่งอมรินทรฯหรือที่สีหบัญชรพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท สีหบัญชรพระที่นั่งอนันตสมาคม หรือแม้แต่กระทั่งที่พระราชวังไกลกังวล

ภาพในอดีตที่ย้อนมาสู่ความทรงจำในวันนี้มีแต่รอยยิ้มบนใบหน้าของผม พร้อมเพรียงกับรอยยิ้มบนใบหน้าของทุกคนที่ได้พบเห็นกันในวันเวลาแห่งความสุขเหล่านั้น บางคราวเมื่อเสร็จงานพระราชพิธีจากพระบรมมหาราชวังแล้ว ระหว่างทางเดินกลับไปขึ้นรถที่จอดอยู่ไกลพอสมควร ผมเดินผ่านโรงทานที่มีพี่น้องไทยจัดให้บริการสำหรับประชาชนทั่วไปด้วยน้ำใจอันงดงาม ยังได้อาศัยข้าวปลาอาหารและน้ำดื่มให้มีเรี่ยวแรงได้เดินต่อไป ทุกหน้ามีแต่รอยยิ้มที่มอบให้แก่กัน เสื้อสีชมพูบ้างเสื้อสีเหลืองบ้าง เป็นเสื้อที่ต้องเตรียมให้พร้อมสำหรับสวมใส่ในวันพิเศษวันนี้

ยังจำได้ดีว่าเมื่อวันที่ 5 ธันวาคมพุทธศักราช 2548 เป็นบุญตัวยิ่งนักที่ได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์มหาปรมาภรณ์ช้างเผือกซึ่งเป็นสายสะพายชั้นสูงสุดของชีวิตความเป็นข้าราชการ จากพระหัตถ์ของพระผู้เป็นเจ้า ในท้องพระโรงพระที่นั่งอมรินทรฯ

ในงานเฉลิมพระชนมพรรษา เจ็ดรอบเมื่อพุทธศักราช 2554 เป็นมงคลแก่ชีวิตล้นเหลือที่ทำหน้าที่เชิญพระเต้าปทุมนิมิตทองในกระบวนจากวัดพระเชตุพนเพื่อไปประดิษฐานที่บุษบกหน้าสีหบัญชรพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท

รุ่งขึ้นอีกปีหนึ่ง ได้ร่วมปฎิบัติหน้าที่ประสานและอำนวยการอำนวยความสะดวกกับทุกฝ่ายในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาและการเสด็จออกมหาสมาคมที่พระที่นั่งอนันตสมาคม และปีถัดมาในพุทธศักราช 2556 ก็ได้ทำหน้าที่อย่างเดียวกันในการเสด็จออกมหาสมาคมที่หัวหิน เป็นงานที่เหนื่อยแต่มีความสุขในหัวใจเป็นที่สุด

มาถึงปีนี้ วันที่ 5 ธันวาคมพุทธศักราช 2559 “วันที่ 5 ธันวาคม”ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป บ่ายวันนี้ผมจะไปที่พระที่นั่งอมรินทรฯ โดยแต่งตัวเต็มยศไว้ทุกข์ สวมสายสะพายเส้นที่ได้รับพระราชทานจากพระหัตถ์ เพื่อไปทำหน้าที่สนองพระเดชพระคุณ บรรยายประกอบการถ่ายทอดของโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ด้วยสมองและหัวใจที่นึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพ้นที่จะรำพัน

“เฝ้าฯครั้งแรกเปนเด็กน้อยคอยริมถนน
พระจอมคนนิวัติประเทศสู่เขตสถาน
หลังหลายเดือนเสด็จฯยุโรปโอบเอาภาร
พร้อมอเมริกาสืบสานสมานไมตรี
เพียงแวบเดียวที่พระเสด็จผ่าน
ซาบซ่านในจิตตนเปนพ้นที่
สายเลือดโยงใยใจภักดี
จากบรรพชนสู่คนนี้มีได้จริง
ครั้นเติบใหญ่โชคดีมีวาสนา
ได้รองพระบาทาเปนเกียรติยิ่ง
และเหมือนไทยทั้งหลายได้พักพิง
อุ่นอิงพระบารมีกู้ชีวิต
ทุกครั้งที่ได้เฝ้าทูลละออง
แห่งธุลีพระบาททองอันศักดิ์สิทธิ์
ย่อมถือว่าเปนมงคลเกินพ้นคิด
พระทรงฤทธิ์ทรงครองห้องหัวใจ
ยิ่งทวนยิ่งทบให้ครบภาพ
พระเดชพระคุณยิ่งเอิบอาบเกินคำไข
วันเฉลิมฯชวนฉลองร่วมผองไทย
ขอพระภูวนัยจงชัยชโย”

กลอนนี้เขียนไว้เมื่อหลายปีก่อน มาถึงปีนี้ ขอปรับบทสุดท้ายเสียใหม่ว่า

“ยิ่งทวนยิ่งทบให้ครบภาพ
พระเดชพระคุณยิ่งเอิบอาบเกินคำไข
ห้าธันวาปีนี้หรือปีใด
ทรงความหมายไม่ลบเลือนเหมือนเก่าเอย”

กราบถวายบังคมด้วยความภักดี