การถวายพระพรชัยมงคลของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต่อ พระมหากษัตริย์ องค์พระประมุข

การถวายพระพรชัยมงคล ของ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ภายหลังนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทำหน้าที่ประธานรัฐสภา กราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ในฐานะองค์พระรัชทายาทขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ พร้อมด้วยสักขีพยาน ได้แก่ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายวีระพล ตั้งสุวรรณ ประธานศาลฎีกา ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ นั้น

54

ผลในทางกฎหมายรัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้นและมีความสำคัญประการหนึ่ง คือ ความเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ตั้งแต่วันที่ ๑๓ ตุลาคม ถึงวันที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ย่อมสิ้นสุดลงโดยปริยาย และเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องกล่าวถวายพระพรชัยมงคลแด่พระมหากษัตริย์ เพื่อความเจริญรุ่งเรืองแห่งรัชสมัย และเป็นนิมิตหมายว่าพระมหากษัตริย์จะทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจและรับพระราชภาระ ตามรัฐธรรมนูญสืบไป

ตามประวัติศาสตร์การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กรณีตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ได้สิ้นสุดลง ภายหลังถวายพระพรชัยมงคลแด่พระมหากษัตริย์

มีขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๘ ณ สถานีรถไฟสวนจิตรลดา เมื่อพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ได้เสด็จนิวัติพระนครครั้งที่ ๒ นายปรีดี พนมยงค์ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ กราบบังคมทูลถวายพระราชกรณียกิจเพื่อทรงปฏิบัติพระราชภาระตามรัฐธรรมนูญ และกล่าวถวายพระพรชัยมงคล ความตอนหนึ่งว่า “…ข้าพระพุทธเจ้าขอถวายพระพรชัยให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท เสด็จอยู่ในราชสมบัติวัฒนาสถาพร เป็นมิ่งขวัญของประชาชน และประเทศชาติในระบอบประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญชั่วกัลปาวสาน…”

ครั้งที่สอง คราวพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จนิวัติประเทศไทยเป็นการถาวร เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ ณ พระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย ท่าราชวรดิษฐ์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ กราบบังคมทูลถวายพระราชกรณียกิจเพื่อทรงปฏิบัติพระราชภาระ ตามรัฐธรรมนูญ และกล่าวถวายพระพรชัยมงคล

สำหรับการกล่าวถวายพระพรชัยมงคลของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ นับเป็นครั้งที่ ๓ ในรอบ ๖๖ ปี อนุโลมคราวนายปรีดี พนมยงค์ และสมเด็จ ฯ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ สิ้นสุดความเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ภายหลังกล่าวถวายพระพรชัยมงคล เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๘ และวันที่ ๒๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ ตามลำดับ

img_1149

อนึ่ง ในวันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๓ หรือ ๑๐๖ ปีก่อน เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมหาราชเสด็จสวรรคต สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ได้คุกพระชงฆ์ (เข่า) อัญเชิญสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร ขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ ๖ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ณ ห้องแป๊ะต๋ง พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ดังนั้น พระที่นั่งอัมพรสถานแห่งนี้ จึงเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และมีความเกี่ยวข้องกับ การอัญเชิญขึ้นทรงราชย์ของพระมหากษัตริย์แห่งจักรีบรมราชวงศ์ถึง ๒ พระองค์

ขอสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ทรงพระเจริญ!