นับจากเสียงปรามของ ‘บิ๊กแดง’พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.และ เลขาธิการ คสช. ที่ได้ส่งไปยังกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ได้ย้ำว่า ‘อย่าล้ำเส้น’ พร้อมทิ้งท้ายปมปริศนาที่ทำให้เกิดการตีความไปถึงขั้น ‘ปฏิวัติซ้ำ – รัฐประหารซ้อน’ อย่าลืมว่า ‘บิ๊กแดง’ เคยกล่าวช่วงหลังรับตำแหน่ง ผบ.ทบ. ใหม่ๆ ที่ไม่รับประกันว่าจะมีการ ‘รัฐประหาร’ อีกหรือไม่ โดยชี้ว่าสาเหตุมาจาก ‘การเมือง’ และ ‘การจลาจล’ ขึ้นมาแทน
.
“เมื่อท่านมาขีดเส้นไว้ว่าคนนั้นต้องทำอย่างนั้น ท่านก็ต้องขีดเส้นตัวเองด้วย ไม่ใช่มาขีดเส้นให้คนโน้น คนนี้เดินอย่างเดียว เอาเส้นขาวหรือเส้นอะไรมาวางให้เขาเดิน ท่านก็ต้องขีดเส้นที่ตัวท่าน อย่ามาล้ำเส้นกัน ฝ่ายการเมืองก็เดินไป ฝ่ายความมั่นคงทำงานไป ก็จะเป็นระบบสอดคล้องกัน” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว
.
“จากประสบการณ์ตั้งแต่ปี47 ผมเชื่อว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้น เพราะฉะนั้น ขอให้ท่านอย่า… ไม่พูดดีกว่า” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว

แต่กระแสนี้ก็ถูกสยบลงด้วย ‘บิ๊กกบ’พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.ทหารสูงสุด รุ่นพี่ ตท.18 ที่ชี้แจงปมการตีความหากมี ‘การล้ำเส้น’ เกิดขึ้นว่า อย่าไปคิดไกลขนาดนั้น โดยก่อนหน้านี้ ‘บิ๊กกบ’ ก็เคยออกมาสยบกระแส ‘รัฐประหาร’ หลัง ‘บิ๊กแดง’ ไม่รับประกันด้วย โดยชี้ว่าเป็นเพียง ‘แผนเผชิญเหตุสุดท้าย’ เท่านั้น
.
อีกทั้งได้กล่าวรับลูก ‘แนวคิด’ ของ พล.อ.อภิรัชต์ ที่ขอกลุ่มผู้ชุมนุมอย่าล้ำเส้นด้วย พร้อมสยบกระแสข่าว ‘เลือกตั้งโมฆะ’ ที่ย้ำว่าการเลือกตั้งยังคงอยู่ในกรอบเวลาต่างๆ ซึ่ง ‘วิษณุ เครืองาม’ รองนายกฯ ก็ได้ปักธง 24มี.ค.นี้ ไว้เรียบร้อยแล้วว่าเหมาะสมที่สุด
.
“อู้ อย่าคิดไปไกลขนาดนั้น ท่านไม่ได้คิดไปถึงเรื่องปฏิวัติ ท่านเพียงย้ำว่าทุกอย่างเป็นไปตามกติกา ท่านพูดได้เป็นกลางอย่างรัดกุมแล้ว ถ้ายื่นเรื่องขออนุญาต(ชุมนุม) ในเวลาที่กำหนด เรื่องที่ประสงค์ ก็จบ” พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าว
.
“พล.อ.อภิรัชต์ ได้ระบุไปแล้ว ขอให้แต่ละกลุ่มที่อยากจะแสดงออกทางด้านการเมืองและความเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ อยู่ในเส้นของตัวเอง ผมคิดว่าควรจะเป็นเช่นนั้น เพราะว่ากติกาเท่านั้นที่จะทำให้ทุกอย่างเกิดความเรียบร้อย ซึ่งกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย ที่กังวลว่าจะไม่เกิดการเลือกตั้ง อาจจะไม่เห็นด้วย เราไปห้ามความคิดใครไม่ได้ แต่ในเมื่อส่วนที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงจนไม่มีข้อสงสัยแล้ว กิจกรรมที่คิดว่าจะทำให้เกิดความไม่สงบหรือทำให้สังคมตื่นกลัว ควรจะงด ลด หรือ เลิกไป” พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าว

ในเวลานี้ภาพการเคลื่อนไหวถูกแบ่งเป็น 2 ฝ่ายชัดเจน ระหว่างกลุ่มที่หนุนและต้านการออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่ามาหลังจาก ‘บิ๊กแดง’ ออกมา ‘เปิดประตู’ วิจารณ์การออกมาของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง
.
“ต่างคนต่างความคิด คนบางคนคิดอย่างนี้และโดนสั่งให้มาทำอย่างนี้ ก็คิดอยู่ในโหมดนี้อย่างเดียว ไม่ได้มององค์ประกอบต่างๆว่าจะมีผลอย่างไร ไม่ได้มองถึงรัฐธรรมนูญและกรอบเวลาที่ทาง กกต.ได้กำหนดไว้แล้ว มันก็มีคนประเภทนี้ในสังคมไทย ผมก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร ถ้าอยากให้เป็นอย่างนี้ อยากจะให้เกิดความวุ่นวาย ก็เป็นหน้าที่ของฉันที่จะต้องทำให้เกิดความวุ่นวายอยู่อย่างนี้ ผมคิดว่าคนที่เขาเข้าใจคงจะรำคาญ” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว
.
“ผมมีประสบการณ์อยู่กับกลุ่มผู้ชุมนุมมาหลายปี เพราะฉะนั้นผมพอที่จะอ่านเกมออก เขาอยากจะพูดอะไรถือเป็นสิทธิ ผมคงไม่ไปโต้ตอบ” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว
.
หากย้อนกลับไป ‘บิ๊กแดง’ ถือว่ามีประสบการณ์ทางการเมือง เพราะผ่านเหตุการณ์รัฐประหารมา 2 ครั้ง ซึ่ง พล.อ.อภิรัชต์ มีบทบาทโดดเด่นช่วงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ผ่านปฏิบัติการยึดคืนสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมไทยคม จ.ปทุมธานี เมื่อปี52 สมัยเป็นผู้การ ร.11 รอ. ทำให้ชื่อติด ‘แบล็คลิสต์’ ของคนเสื้อแดงทันที
.
ส่งผลให้ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ‘บิ๊กแดง’ ถูกโยกไปเป็น ผบ.พล.ร.11 ฉะเชิงเทรา และ ผบ.มทบ.15 เพชรบุรี เกือบหลุดไลน์เส้นทางเหล็ก ก่อนจะได้กลับเข้าไลน์เป็น ผบ.พล.1 รอ. ก่อนรัฐประหาร 22พ.ค.57 เพียง 1 เดือน โดยมี ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ขณะนั้นเป็นผู้ผลักดัน ซึ่ง พล.1 รอ. คุมพื้นที่ กทม. ด้วย จึงแสดงถึงความไว้วางใจที่ ‘บิ๊กตู่’ มีให้ ‘บิ๊กแดง’
.
แต่ด้วยสถานะของ ‘บิ๊กแดง’ ที่มีตำแหน่งสำคัญ จึงทำให้การกล่าวสิ่งใดออกมาในเวลานี้ จึงมี ‘น้ำหนัก’ มาก อีกทั้งเป็นเหล่าทัพที่คุมกำลังรบใหญ่ที่สุด แน่นอนว่าการที่ ‘กองทัพ’ ทั้ง พล.อ.พรพิพัฒน์ และ พล.อ.อภิรัชต์ ออกมาปรามกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง รวมทั้ง ‘โฆษกทหาร’ ที่ต่างออกมาให้ข่าวการเมืองมากขึ้น ถือเป็นการ ‘ขยับ’ ที่สำคัญ ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่จะเข้มข้นขึ้น

ทั้งนี้ พล.อ.พรพิพัฒน์ เองก็ได้กล่าวถึงรูปแบบการเมืองในอนาคตที่น่าสนใจว่า “ขอให้เลือกคนที่เหมาะสมเลือกพรรคที่ถูกต้อง อยากให้การเลือกตั้งของไทยเป็นแบบผู้ใหญ่ สนใจสาระ นโยบาย มากกว่าใส่ร้ายกัน” รวมทั้งก่อนหน้านี้ พล.อ.อภิรัชต์ ก็เคยออกมาระบุถึงสถานการณ์หลังการเลือกตั้ง ว่า “ขอให้รอดูผลการเลือกตั้ง เรามี กกต.ทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง และจะกลั่นกรองข้อร้องเรียนต่างๆ เราเป็นคนไทยด้วยกันต้องยอมรับกติกา การเลือกตั้งต้องมีแพ้มีชนะ หลังจากการเลือกตั้งแล้วอยากให้ไปสู้กันในสภา อย่ามาสู้นอกเวที”
.
ทั้งหมดนี้จึงเป็น ‘ห้วงเวลา’ ที่กองทัพกำลังเฝ้าติดตามสถานการณ์ต่างๆ ทั้งกลุ่มที่เคลื่อนไหวทางการเมือง และท่าทีของ ‘บิ๊กตู่’ และเครือข่าย ‘พลังประชารัฐ’ ทั้งกระแสความนิยมและผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร เพราะสุดท้ายแล้ว ‘กองทัพ’ ก็จะต้องทำงานร่วมกับ ‘รัฐบาลใหม่’ ไม่ว่า ‘บิ๊กตู่’ จะได้เป็น นายกฯ อีกครั้งหรือไม่ ซึ่งทั้ง พล.อ.พรพิพัฒน์ และ พล.อ.อภิรัชต์ เกษียณฯพร้อมกันปี63 จึงจะต้องคุมกองทัพไปอีก 2 ปี
.
สัญญาณต่างๆของ ‘บิ๊กแดง’ ในเวลานี้จึงสำคัญและต้องต่อจิ๊กซอว์ไปเรื่อยๆ โดยมี ‘บิ๊กกบ’ นำทัพคุมเหล่าทัพทั้งหมดในฐานะ ผบ.ทหารสูงสุด ด้วย ที่ต่างฝ่ายมีบทบาทของตัวเองทั้ง ‘บทบู๊’ และ ‘บทบุ๋น’ โดยประสานสอดคล้องกัน การกรำศึกในอนาคตไม่เกินมือ ผบ.เหล่าทัพ ชุดนี้แน่นอน