บอกไว้ก่อนว่าหนังเรื่องนี้มีฉากหวือหวาเปิดเผยหมดจด! (นี่ก็เพิ่งรู้ว่าเขาแต๊ปกันแบบนี้) นอกนั้นมีฉากที่คนดูทั้งโรงต้องร้องโอยยยยด้วยความกลัวเจ็บกลัวทรมานแทนก็มี!
.
#Girl บอกเล่าเรื่องราวของ ลาฮา ที่เตรียมผ่าตัดแปลงเพศ โดยที่บิดาคอยสนับสนุนเป็นกำลังใจ พาไปพบแพทย์ทุกนัด
.
จะมีหนังสักกี่เรื่อง? ที่จะพาเราไปรับรู้ถึง “ความรู้สึกลึกๆ” ของคนที่ถูกสังคมมองด้วยการเหยียดเพศสภาพแตกต่างจากตัวเอง โดยที่ไม่ได้ด่า ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย แต่มันกลับทำลายลึกลงไปถึงความรู้สึกข้างใน!

.
“ลาฮา” เป็นคนที่มีหน้าสวยมาก หากดูทั้งเรื่องเราจะไม่รู้สึกเลยว่าเธอคือคนที่มีเพศสภาพตอนกำเนิดคือ “ชาย” แล้วความฝันของเธอการแสดงบัลเล่ต์ ด้วยการฝึกฝนอย่างหนัก มีความทะเยอทะยาน ต้องการที่จะเอาชนะท่ายากๆของการเต้นไปให้ได้ แต่เพราะร่างกายและรูปเท้าของเธอที่ไม่ได้ฝึกมาตั้งแต่เด็กๆทำให้แตกต่างจากเด็กผู้หญิงคนอื่นๆในการปรับตัว
.
หนังพาเราไปคิดถึงจุดที่ว่า แม้ว่าวิทยาการของโลกจะ “ล้ำหน้า”ก้าวไปไกลขนาดไหน แต่หนังเรื่องนี้สะท้อนสังคมที่เป็นจริงๆ คือความคิดคนก็ยังไม่ได้เปิดกว้างอย่างที่ควรจะเป็น หรือแม้แต่การไม่ยอมรับกดดันตัวเองของลาฮาเองก็ตามที่อาจจะคิดมากไปใจร้อนไป เครียดมากไป
.
ส่งผลต่อฮอร์โมนและเป็นอุปสรรคต่อการปรับสภาพร่างกายเพื่อเตรียมพร้อมสู่การแปลงเพศ ความเครียดกดดันจากสังคมที่เธอแบบเอาไว้ จนบางครั้งเกิดคำถามในใจของคนดูอย่างเราว่า สังคมก้าวหน้า เท่าเทียมกันมากขึ้นแล้ว มันเป็นเรื่องจริง เท่าเทียมเปิดกว้างจริง หรือเป็นเพียง”สิ่งที่โฆษณา”กันเฉยๆ
.
ก็ไม่อยากพลาดหนังดีๆเรื่องนี้ กำกับโดย Lukas Dhont และได้ฉายในคานส์
.
เข้าแล้ววันนี้ ไปพิสูจน์ความเรียลกันเลย ดูได้ทุกเพศ คุณพ่อคุณแม่คุณเพื่อน ที่อยากมีคนใกล้ตัวอยากเปลี่ยนแปลง พากันมาดู และ “โอบอุ้มบทเรียน” นี้ไปพร้อมๆกัน