มาถึงวันที่ ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร ได้คลายสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจมากว่า 1 ปี หลัง ป.ป.ช. ตีตกปม ‘นาฬิกาหรู-แหวนคุณพ่อ’ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาเพียบ แต่ ‘บิ๊กป้อม’ ก็พยายามเก็บอารมณ์ ไม่แสดงออกถึง ‘ความสบายใจ’ หรือ ‘โล่งใจ’ และย้ำชัดสิ่งเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในใจมาแต่ต้น
.
“ไม่มี ไม่เคยอยู่ในใจเลย ถ้าเขาสอบออกมาว่าไม่ดีก็คือไม่ดี ถ้าดีก็คือดี เราก็ไม่ได้อะไร เพราะได้ให้ข้อเท็จจริงไปหมดแล้ว” พล.อ.ประวิตร กล่าว

ซึ่ง ‘บิ๊กป้อม’ ยืนยันตั้งแต่หลังเกิดเรื่องใหม่ๆ ว่า ‘นาฬิกาหรู’ เป็นสิ่งที่ ‘เพื่อนรัก’ ให้ยืมมา โดยเป็นเพื่อนสมัยเรียน ร.ร.เซนต์คาเบรียล นั่นคือ ‘เสี่ยคราม’ปัฐวาท สุขศรีวงศ์ เจ้าสัวคอมลิงค์ ที่ได้เสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่ ก.พ.60 ซึ่งทั้ง 3ป.บูรพาพยัคฆ์ ‘บิ๊กป๊อก’พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็รู้จัก ‘เสี่ยคราม’ ด้วย

โดย ‘เสี่ยคราม’ เคยเป็น ‘กรรมการ’ มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดฯ ด้วย จึงทำให้ต้องทำงานใกล้ชิด ‘บิ๊กป้อม’ และเข้าออกมูลนิธิฯ ใน ร.1 รอ. เป็นประจำ โดย ‘เสี่ยคราม’ เป็นเพื่อนร่วมรุ่น ‘เซนต์คาเบรียล’ กับ พล.อ.ประวิตร มาตั้งแต่ชั้นประถม และเคยเรียนห้องเดียวกันด้วย อีกทั้งทำให้ ‘เสี่ยคราม’ ถูกมองเป็น ‘กลุ่มทุน’ สำคัญของ ‘บิ๊กป้อม’ ด้วย และในกรรมการ มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ก็มี ‘ตระกูลกลุ่มทุนใหญ่’ คนอื่นๆอยู่ด้วย
.
แน่นอนว่า ‘ความซี้ปึก-สนิทสนม’นี้ ก็ไปอยู่ใน ‘คำแถลง’ ของ ป.ป.ช. เรื่อง ‘นาฬิกาหรู’ ด้วย
.
ความเป็น ‘เซนต์คาเบรียล’ ยังไม่จบ กลายเป็น ‘ศึกศิษย์เซนต์คาเบรียล’ ระหว่าง ‘บิ๊กป้อม’ กับ ‘หม่อมอุ๋ย’ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกฯ หลังออกมาระบุ 8 ข้อที่ ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่สมควรเป็น นายกฯ ต่อ แต่ในความเป็น ‘ศึก’ ก็ต้องทำหน้าที่ ‘กาวใจ’ ไปด้วย
.
เพราะ ‘หม่อมอุ๋ย’ เป็นหนึ่งใน ‘กรรมการ’ มูลนิธิป่ารอยต่อฯ และ ‘บิ๊กตู่’ ก็เป็น ‘ปธ.กิตติมศักดิ์’ จึงเป็นทั้ง ‘เพื่อนรัก’ เซนต์คาเบรียลคอนเนคชั่น และ ‘น้องรักบูรพาพยัคฆ์’ ของ ‘บิ๊กป้อม’ ทำให้ต้องมาเป็น ‘กาวใจ’ ตรงกลาง ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ก็ทราบดีถึง ‘รอยร้าว’ ของทั้ง ‘บิ๊กตู่ – หม่อมอุ๋ย’ จึงได้เผยถึงการที่ ‘หม่อมอุ๋ย’ ออกมาวิจารณ์หนัก เพราะเป็นเรื่องของคนที่ไม่ชอบกัน เพราะ ‘หม่อมอุ๋ย’ เคยหลุด ‘ครม.ประยุทธ์’ ไปนั่นเอง

ทั้งนี้การที่ ‘หม่อมอุ๋ย’ ได้เข้ามา ‘ครม.ประยุทธ์’ ส่วนหนึ่งมาจากแรงผลักดันของ ‘บิ๊กป้อม’ เพราะเป็น ‘เพื่อนร่วมรุ่นเซนต์คาเบรียล’ ในเวลานั้น ทำให้ชื่อ ‘สมคิด จาตุศรีพิทักษ์’ ถูกแขวนไว้ก่อน ซึ่งว่ากันว่าชื่อ ‘สมคิด’ เป็นชื่อที่ ‘บิ๊กตู่’ ตั้งใจดันเข้า ‘ครม.ประยุทธ์’ ตั้งแต่แรกแล้ว เห็นได้จากชื่อที่เป็น ที่ปรึกษา คสช. ตั้งแต่ต้น
.
ดังนั้นจึงทำให้ ‘บิ๊กป้อม’ ไม่เกรงใจที่จะตอบโต้ ‘หม่อมอุ๋ย’ แบบตรงไปตรงมา ด้วยความสนิทสนมกัน หลังสื่อถาม พล.อ.ประวิตร ว่าได้วิเคราะห์หรือไม่ เหตุใด ม.ร.ว.ปรีดิยาธร จึงออกมาช่วงนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวเพียงสั้นๆว่า “ไปถามตัวมันดูสิ”
.
แต่ ‘บิ๊กป้อม’ ก็ขอสยบศึกนี้ลง ย้ำชัดไม่ต้องไปคุยกับ ‘หม่อมอุ๋ย’ เรื่องนี้ ว่า “ในเมื่อคนคิดอย่างนั้น จะไปคุยอะไร ต่างก็แก่ด้วยกันแล้ว ไม่ทราบสาเหตุที่ออกมาพูด ต้องไปถามเขาเอาเอง” ซึ่ง ‘บิ๊กตู่’ ก็เลี่ยงการตอบโต้ ‘หม่อมอุ๋ย’ ด้วย เพราะสุดท้ายก็คือ ‘คนกันเอง’ ทั้งนั้น

อีกทั้ง นายกฯ มีท่าทีที่ลดการพูดเรื่องการเมือง ด้วยเหตุผลต้อง ‘ระวัง’ เรื่องการพูดและการวางตัว เพราะใกล้เลือกตั้งแล้ว จึงทำให้ ‘ศึกนี้’ สงบลงไป รวมทั้งสอดรับกับสิ่งที่ ‘ป๋าเปรม’พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ปธ.องคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้สะกิดเตือน ‘บิ๊กตู่’ ให้มองคนเห็นต่างอย่างเป็นมิตรด้วย
.
ทั้งหมดนี้สะท้อนภาพ ‘เซนต์คาเบรียล คอนเนคชั่น’ และ ‘ป่านรอยต่อฯ เน็ตเวิร์ค’ ของ พล.อ.ประวิตร ได้เป็นอย่างดี ทั้งเป็น ‘เพื่อนดูแลเพื่อน’ ระหว่าง ‘บิ๊กป้อม – เสี่ยคราม และ ‘เพื่อนเตือนเพื่อน’ ระหว่าง ‘บิ๊กป้อม – หม่อมอุ๋ย’ เป็นเรื่องราวของ ‘คนรวยเพื่อน’ อย่าง ‘บิ๊กป้อม’ ที่ต้องเผชิญ