ดูแล้วมาเล่า : เอาใจเขาใส่ใจเรา ผ่านการเล่าของหนังที่ควรดู “Green book” กับ มิตรภาพดีๆ และการเดินทาง

ดูแล้วมาเล่า : เอาใจเขาใส่ใจเรา ผ่านการเล่าของหนังที่ควรดูส่งท้ายปีนี้ กับ มิตรภาพดีๆใน “Green book”

ทันทีที่ดูหนังจบ รู้สึกอิ่มเอมใจในมิตรภาพของ “นักดนตรีชาวผิวสี” กับ “คนขับรถ”ที่ผันตัวมาจากพนักงานในบาร์ที่ถูกปิด แต่ชีวิตปากท้องต้องหากินเลยต้องรับงานนี้

ฉากหลังในหนังยังคงอยู่ในยุคที่ “การเหยียด” ยังคงรุนแรง ชัดเจน ไม่ต้องเกรงใจกัน ใส่กันไม่ยั้ง ตั้งแต่การใช้ชีวิตปกติ รวมไปถึงผู้พิทักษ์กฎหมายก็ยัง “ไม่ยอมรับ” ความหลากหลายนี้

คนผิวสี ที่ต้องการพิสูจน์ตัวเองด้วยการเดินทางไปแสดงดนตรี(ชั้นเยี่ยม) หลายรัฐเป็นเวลา2เดือนกว่า โดยต้องหา ผู้ช่วย(คนขับรถ) ที่จะสามารถทำภารกิจนี้ให้สำเร็จแล้วรับค่าจ้างก้อนใหญ่ไปให้ได้

ตัวหนังสนุกเพลินเล่าเรื่องราวมิตรภาพได้ดี เคมีของนักแสดงนำทั้งสอง เข้ากัน ทั้งคู่คงมีชื่อเข้าชิงรางวัลกับเขาแน่ๆ แต่ทว่าสิ่งที่อยากให้ไปดูนอกจากความอิ่มเอมใจ ไดชมการแสดงที่ดีแล้ว

“การเอาใจเขาใส่ใจเรา” คือสิ่งที่ตอบโจทย์มากที่สุด หนังได้พาเราไปสู่จุดนั้น ที่ผ่านมาอาจจะมีหนังที่เล่นประเด็นคนผิวสี พอสมควรแล้ว แต่เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้ประเด็นเหล่านี้ดูเก่าไปเลย ทุกวันนี้สังคมเรายังต้องการความเข้าใจ เพื่ออยู่ร่วมกันในสังคมให้ได้จริงๆ

เอาเป็นว่าตอนนี้หนังเข้าแล้ว (รอบสนีคพรีวิว ฉายจริงต้นปีหน้า) ใครที่หาหนังดีๆสักเรื่องส่งท้ายปีนี้ นี่ก็ไม่ควรมองข้าม