ช่วงการเป็น ผบ.ทบ. ของ ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตลอด 4 ปีนั้น อยู่ในช่วงรอยต่อรัฐบาลอภิสิทธิ์-ยิ่งลักษณ์ ตั้งแต่ ต.ค.53 ถึง ต.ค.57 อีกทั้งเป็นช่วงรอยต่อทางการเมืองที่สำคัญ โดยในปี53 คือหลังเหตุการณ์ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง และปี56-57 การชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ที่เป็นการปูทางให้ ‘บิ๊กตู่’ ต้องเปลี่ยนบทบาทจาก ผบ.ทบ. มาสู่ ‘หัวหน้าคณะรัฐประหาร’ และ นายกฯ ถือเป็นปรากฏการณ์ที่สำคัญในการควบตำแหน่ง เพราะคนล่าสุด คือ จอมพลถนอม กิตติขจร และมีบทเรียนสำคัญจากเหตุการณ์ ‘พฤษภาทมิฬ 2535’ ด้วย หลัง ‘บิ๊กสุ’พล.อ.สุจินดา คราประยูร แกนนำรสช. ได้กล่าว ‘เสียสัตย์เพื่อชาติ’ นั่ง นายกฯ
.
โดย พล.อ.ประยุทธ์ เป็นที่สนใจของสังคมมาตั้งแต่เป็น ผบ.ทบ. ด้วยท่าทางการตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมา ดุดัน ตามสไตล์นายทหาร แต่ในรั้ว ทบ. ก็มีการจับตา พล.อ.ประยุทธ์ มาตั้งแต่สมัยเป็น ผบ.พัน ที่ ร.21 รอ. จนขึ้นเป็น ผู้การ ร.21 รอ. ซึ่งทุกยก้าวย่างได้เดินตาม ‘บิ๊กป๊อก’พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รุ่นพี่ ตท.10 ที่ห่างกัน 2 รุ่น สุดท้ายพี่น้องก็ได้เป็น ผบ.ทบ. ทั้งคู่

รวมกับ ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รุ่นพี่ ตท.6 ที่ก็ถูกให้จับตาตั้งแต่เป็น ‘ผู้การ’ ที่ ร.12 รอ. จนขึ้นเป็น ผบ.พล.ร.2 รอ. จึงเป็น ‘3ป.บูรพาพยัคฆ์’ ในตำนาน ที่ใครๆก็รู้จัก
.
ส่วน ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ ก็สร้างปรากฎการณ์ นายกฯหญิงคนแรก ซึ่งที่ผ่าน ‘ยิ่งลักษณ์’ ก็ปรากฏตัวในการไปช่วยงานพรรคและทำงานการเมืองมาก่อน แน่นอนว่า ‘เลือดข้นกว่าน้ำ’ เพราะ ‘ยิ่งลักษณ์’ เป็นน้องสาวที่ ‘ทักษิณ’ รักมากคนหนึ่ง ซึ่งสุดท้ายแล้วทั้ง 2 พี่น้อง ก็มีชะตากรรมทางการเมืองไม่ต่างกัน ทั้งถูก ‘รัฐประหาร’ และต้องหนีออกนอกประเทศ โดย ‘ยิ่งลักษณ์’ ถูกโจมตีหนัก ตั้งแต่ประกาศเป็น ‘แคนดิเดท นายกฯ’ ว่าเป็น ‘หุ่นเชิด – หนังตะลุง’ ของพี่ชาย ซึ่งยากจะลบเลือน
.
ช่วงที่ ‘ยิ่งลักษณ์’ เป็น นายกฯ ปี54 ประเทศไทยเจอน้ำท่วมใหญ่ จนรัฐบาลเสียเรตติ้งไปไม่น้อย แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่ ‘กองทัพ’ กับ ‘รัฐบาล’ ได้ทำงานใกล้ชิด ภาพ ‘ยิ่งลักษณ์ – บิ๊กตู่’ ลงพื้นที่ขึ้นรถทหาร ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ตรวจน้ำท่วมจึงมีจำนวนมาก รวมทั้งช่วง ‘ยิ่งลักษณ์’ เป็น นายกฯ ก็ควบเก้าอี้ ‘รมว.กลาโหม’ ด้วย ก็ได้ทำงานร่วมกับ ผบ.เหล่าทัพ มากขึ้น แม้ก่อนหน้านี้ ‘บิ๊กอ๊อด’พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา จะมานั่ง รมว.กลาโหม ไปพลางๆก่อน และตั้ง ‘บิ๊กโอ๋’พล.อ.สุกำพล สุวรรณทัต เพื่อนตท.10 กับทักษิณ มานั่งต่อ จัดทัพเข้มไม่ให้กองทัพไม่แตกแถว

จนแถวนิ่งจึงดัน ‘ยิ่งลักษณ์’ ขึ้นเป็น รมว.กลาโหม โดยมี ‘บิ๊กอ๊อด’ เป็น รมช.กลาโหม เคียงข้าง ซึ่งความสัมพันธ์ต่างๆกับ ‘กองทัพ’ ในภาพรวมก็ราบรื่น ท่ามกลาง ‘เบื้องลึก’ ที่สุดท้ายแล้ว ‘กองทัพ’ กับ ‘เพื่อไทย’ จะถึงฝั่งหรือไม่ ? เพราะมีกระแสข่าวถึงการผลักดัน ‘กฎหมายนิรโทษกรรม’ เกิดขึ้นตลอดช่วง 2 ปีของรัฐบาลยิ่งลักษณ์
.
ซึ่งสุดท้ายก็ไปไม่ถึงฝั่ง หลังมีการออก ‘พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย’ ปี56 ออกมา และเป็น ‘บาดแผลลึก’ ของเพื่อไทยและเครือข่ายมาถึงทุกวันนี้ ทำให้ กปปส. ชุมนุมใหญ่ และ นปช. ออกมาปกป้องรัฐบาล การเลือกตั้งที่เป็นโมฆะ การออกกฎอัยการศึก และการคุย 7 ฝ่าย ไร้ข้อยุติ จึงเป็นที่มาของ รัฐประหาร 22พ.ค.57
.
หลังเหตุการณ์ 22พ.ค.2557 ได้ไม่นาน ‘ยิ่งลักษณ์’ ก็กลับมาใช้ชีวิตปกติ เดินห้าง ทำบุญ พบแฟนคลับ และดูแล ‘น้องไปป์’ศุภเสกข์ อมรฉัตร บุตรชาย ไม่เล่นบท ‘ปะทะ’ กับ คสช.โดยตรงมากนัก และสู้คดีจำนำข้าว แน่นอนว่ามี ‘แรงกดดัน’ ต่างๆไม่น้อย จนงานวันเกิดปี60 ได้ร้องไห้ระบายความ ‘อัดอั้น’ ออกมา พร้อมกล่าวถึงอนาคตบางอย่างทั้งน้ำตา

“วันเกิดปีนี้รอโชคชะตาให้เจอแต่สิ่งที่ดีๆในชีวิต พร้อมหวังว่าหลังวันเกิดจะมีสิ่งที่ดีเข้ามาบ้าง และหวังให้ปีหน้า จะได้มีโอกาสกลับมาทำบุญที่นี่อีกครั้ง” น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว 21มิ.ย.60
.
หลัง ‘ยิ่งลักษณ์’ หายตัวไปตั้งแต่ค่ำ 23ส.ค.60 และไม่ได้ไปขึ้นศาลฟังคำพิพากษาคดีฯ 25ส.ค.60 และมาปรากฏตัวอีกครั้งในช่วงปลายธ.ค.60 ที่ กรุงลอนดอน ท่ามกลาง ‘ปี่กลองการเมือง’ ที่เริ่มดังขึ้นในปี61หลังหลายฝ่ายเชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งช่วงปี61-62แล้ว การออกมาของ ‘ยิ่งลักษณ์’ จึงถูกมองว่าเพื่อปลุกฐานเสียง และปรากฏตัวพร้อม ‘ทักษิณ’ ด้วย ท่ามกลางกระแสตี คสช. ว่างานนี้มี ‘เปิดทาง’ ให้หนีหรือไม่ ?
.
“เฮ้ย ใครจะไปปล่อย จะไปไปล่อยได้ยังไง ทำไมคิดแบบนี้” และ “คาดว่าจะไม่มีเรื่องนี้ เพราะตอนเช้ายังคิดว่าเขาจะไปศาลตามกระบวนการ ผมก็ให้เกียรติเขา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 28ส.ค.60
.
แต่ดูเหมือน ‘ยิ่งลักษณ์’ จะกลับมาเล่น ‘บทแซะ’ กับ คสช. มากขึ้น ในช่วงที่อยู่ต่างประเทศ เพราะ ‘บิ๊กตู่’ ไปเปิดช่องไว้หลายครั้ง โดยเฉพาะในปี61 หลัง ‘ยิ่งลักษณ์’ เปิดตัวต่อสาธารณะที่ต่างประเทศและสื่อต่างๆมากขึ้น และการกลับมาใช้โซเชียลฯมากขึ้น
.
หลัง พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่ จ.ระนอง ได้ทักทายผู้ร่วมงานหญิงคนหนึ่งว่า “ทำไมไม่โตสักที” ก่อนเห็นป้ายชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทันพิสิทธ์ เจ้าหน้าที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย
.
ทำให้ นายกฯ แซวว่า “เธอเรียนจบแล้วไม่ใช่หรือ ยิ่งลักษณ์ ชื่อดีโว้ย ชื่อเพราะดี เพราะชื่อนี้เป็นนายกฯด้วยไง” พร้อมกล่าวเน้นด้วยว่า “ยิ่งลักษณ์ ไอ้เราก็ตาไวซะด้วย แต่ไม่ได้ว่าอะไรใคร ทำให้ถูกก็แล้วกัน”
.
ทำให้ ‘ยิ่งลักษณ์’ ทวิตข้อความถึง “ทราบว่าท่านนายกฯ ไปพื้นที่ที่จังหวัดระนองพบคนชื่อ ยิ่งลักษณ์ และบอกว่าให้คนที่ชื่อ ยิ่งลักษณ์ ทำให้ถูกก็แล้วกัน เลยขอถามท่านอดีตผบ.ทบ.ว่ายังจำชื่อนี้ได้อยู่เหรอคะ”
.
ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ตอบกลับสั้นๆว่า “ผมไม่สนใจ ถ้าสนใจทุกเรื่อง ก็ตายหมดแหละ วุ่นวายกันไปหมด”
.
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่ จ.ชุมพร ร่วมกิจกรรมปล่อยลูกปูม้า10ล้านตัว ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “ผมก็เปรียบเหมือนพ่อปู ขอให้เดินตามพ่อปูต่อไป เพราะการเดินตามแม่ปู มันจะเลี้ยวไปเลี้ยวมานะ”
.
ต่อมา ‘ยิ่งลักษณ์’ โพสต์อินสตาแกรม สะพายกระเป๋ารูปปูสีดำ เขียนแคปชั่นว่า “ปูของแท้ค่ะ”

ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ ไปเปิดบีทีเอสส่วนต่อขยาย ‘แบริ่ง-สมุทรปราการ’ ได้ถามประชาชนว่ามาจากพื้นที่ใดบ้าง เมื่อทราบว่ามาจาก ‘บางปู’ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “มาจากบางปู แล้ววันนี้ยังมีปูอยู่หรือเปล่า พื้นที่นี้เคยไป”
.
ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะมีอะไร แต่ ‘ยิ่งลักษณ์’ ก็ใช้โอกาสนี้ทวีตข้อความว่า “วันนี้อากาศหนาว จามเป็นพิเศษ เหมือนมีคนถามถึง ปูคนนี้ยังสบายดี และอยู่ทุกแห่งค่ะ”
.
ทั้ง ‘ยิ่งลักษณ์ – บิ๊กตู่’ ต่างเป็น ‘ตัวแทน’ ของแต่ละขั้วทางการเมือง ช่วงปี54 ‘ยิ่งลักษณ์’ ถูกยกให้เป็น ‘นารีขี่ม้าขาว’ของมวลชน ส่วนช่วงปี57 ‘บิ๊กตู่’ ก็ถูกยกให้เป็น ‘วีรบุรุษ’ ของกองหนุน แต่สิ่งทั้งคู่ต่างเผชิญ คือ ‘ความคาดหวัง’ ที่นำมาสู่ ‘ความผิดหวัง’ ในหลายเรื่องๆ หลังผ่านมา 4-5 ปีที่ แน่นอนว่าศึกเลือกตั้ง 24ก.พ.62 ที่จะเกิดขึ้น จะชี้วัดอะไรหลายอย่างได้ไม่น้อย ที่แน่ๆงานนี้จะมี ‘เสียของ’ อีกหรือไม่ ?
.
ทั้ง ‘บิ๊กตู่ – ยิ่งลักษณ์’ จึงเปรียบเป็น ‘เส้นขนาน’ ที่ยากจะลืม !!