‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่ควบตำแหน่ง หัวหน้าคณะรัฐประหาร คสช. นั่งในตำแหน่ง นายกฯ ยาว 4 ปีเต็ม ยืนยันไม่ลืมสัญญาที่ให้ไว้ ว่าจะประกาศจุดยืนและอนาคตทางการเมืองในช่วงเดือนก.ย.61
.
เหตุผลที่เป็น ก.ย.61 เพราะเป็นช่วงที่กฎหมายลูกที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งจะประกาศลงราชกิจจานุเบกษาครบ 4 ฉบับ แต่ พ.ร.ป.ว่าด้วย ส.ส. จะบังคับใช้อีก 90 วัน หลังลงราชกิจจานุเบกษา นั่นคือราวเดือน ธ.ค.นี้ การประกาศจุดยืนของ ‘บิ๊กตู่’ จึงเป็นหมุดหมายสำคัญของ คสช. และ องคาพยพที่จะต้องทำหน้าที่กองหนุน
.
ก่อนหน้านี้ ‘ทักษิณ’ ออกมาประกาศให้ลูกพรรคเพื่อไทยและมวลชนคนเสื้อแดงสู้อีกครั้ง โดยย้ำถึงคำว่าแพ้มีอยู่ 2 ทาง คือ แพ้เพราะตาย กับ แพ้เพราะยอมไปเอง อีกทั้งออกมาย้ำว่าเลือกตั้งชนะแน่แบบ ‘แลนด์สไลด์’ เกิน 250 ที่นั่งแน่นอน แต่อีกมุมก็มองกันว่า นายทักษิณแค่ต้องการสะกิดเตือนลูกพรรคที่กำลังจะย้ายพรรคหรือโดนพลังดูด และเพื่อปลุกใจฐานเสียงเท่านั้น
.
ส่วนการที่ ‘บิ๊กตู่’ ออกมาระบุจะประกาศจุดยืนในเดือนก.ย.นี้ ในแง่หนึ่งก็มีการมองว่าเป็นการชิงพื้นที่สื่อ และสร้างกำลังต่อรองให้เกิดขึ้น แน่นอนว่าหากคำตอบ ‘บิ๊กตู่’ ลงการเมืองต่อนั้น ถือว่าเป็นการเปิดไพ่สู้ทันที
.
แต่สิ่งที่น่าสนใจอีก คือ ทำไม ‘ทักษิณ’ ถึงออกมาในช่วงนี้มากเป็นพิเศษ ? จึงถูกตีความไปว่าต้องการจะ ‘ต่อรอง’ อะไรหรือไม่ แน่นอนว่า ‘ทักษิณ’ ยังมีอำนาจในการต่อรองอยู่ เพราะไม่เช่นนั้นปรากฏการณ์พลังดูดอดีตส.ส.คงไม่เกิดขึ้น โดยเหตุผลในการใช้ ‘ดูด’ นั้น ว่ากันว่าเป็นเหตุผลที่ยากจะปฏิเสธ

แต่อำนาจในการ ‘ต่อรอง’ ของนายทักษิณ อาจยากในกติกาที่ทุกคนก็ทราบดีว่าใครได้เปรียบ ที่เห็นได้ชัดคือการที่พรรคการเมืองถูกแช่แข็งมา 4 ปีกว่า ห้ามทำกิจกรรมทางการเมือง จนถึงวันนี้ คสช. ก็ยังไม่ปลดล็อคพรรค แต่จะแค่ ‘คลายล็อค’ หรือ ‘ปลดล็อคอย่างมีเงื่อนไข’ เท่านั้น โดย ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่คสช. เคยระบุว่า การผ่อนคลายจะมีขึ้น แต่การหาเสียงอาจยังทำไม่ได้
.
ซึ่ง ‘บิ๊กต๊อก’พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผบ.สูงสุด เปิดเผยว่า จะมีการผ่อนคลายในช่วงปลายเดือนก.ย.นี้
.
ซึ่งจะสอดรับกับกฎหมายลูกเกี่บวกับการเลือกตั้งที่จะลงราชกิจจานุเบกษาครบ 4 ฉบับ และ ‘บิ๊กตู่’ ประกาศจุดยืนทางการเมืองพอดี
.
ที่น่าสนใจอีกคือ เป็นไม่กี่ครั้งที่ ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร ออกมาตอบโต้ ‘ทักษิณ’ เรื่องที่ปลุกให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงออกมาต่อสู้ โดย ‘บิ๊กป้อม’ ออกมาเตือนในฐานะผู้สูงวัย ที่ผ่านอะไรมามาก
.
“อยากเตือนสติว่า ใครก็ตามที่พูดอะไรออกมา ต้องรู้จักคิดให้มาก และรับผิดชอบในคำพูดของตนเองบ้าง ว่าการปลุกให้มีการต่อสู้ คนที่จะได้รับผลกระทบคือใคร ใครต้องเสียชีวิต ใครต้องบาดเจ็บ ใครต้องติดคุก และประเทศชาติจะได้รับผล กระทบอย่างไร ขอให้คิดทบทวนเรื่องนี้ให้ดี” พล.อ.ประวิตร กล่าว
.
อย่าลืมว่า ‘บิ๊กป้อม’ ได้ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. สมัยรัฐบาลทักษิณ ถึงขั้นโยก ‘บิ๊กตุ้ย’พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ผบ.ทบ.ตอนนั้น ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องไปเป็น ผบ.สูงสุด ก่อนเกษียณฯแทน เพื่อเปิดทางให้ ‘บิ๊กป้อม’ ขึ้นเป็น ผบ.ทบ.
.
ดังนั้นทั้ง ‘บิ๊กป้อม – ทักษิณ’ ย่อมมีสายสัมพันธ์ที่ดีกันไม่น้อย ซึ่งที่ผ่านมา ‘บิ๊กป้อม’ มักจะไม่เผชิญหน้ากับการตอบคำถามถึง ‘ทักษิณ’ มากนัก หรือที่มองกันว่ายังมีความ ‘เกรงใจ’ กันอยู่นั่นเอง
.
แต่อย่าลืมว่า ‘บิ๊กป้อม’ เคยเป็น รมว.กลาโหม สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ด้วย และทำงานร่วมกับ ‘สุเทพ เทือกสุบรรณ’ อดีตรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง จนทำให้ ‘บิ๊กป้อม’ ได้ชื่อว่าเป็น ‘Mr.ดีล’

แม้ ‘บิ๊กป้อม’ จะเป็นรุ่นพี่ ตท.6 และนายทักษิณ เป็นรุ่นน้อง ตท.10 ก็ใช้ว่าจะเตือนกันได้ โดย ‘บิ๊กป้อม’ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “ตอนนี้ท่านไม่ฟังแล้ว รุ่นพี่รุ่นน้อง”
.
แต่สิ่งที่ ‘บิ๊กตู่’ พูดถึง ‘ทักษิณ’ ที่ทำเอาหนาวเลย คือ การออกมาพูดปลุกระดมจะเข้าข่าย ‘คนนอก’ มาครอบงำพรรคหรือไม่ ? เพราะจะเข้าข่ายผิดกฎหมายพรรคการเมืองทันที ที่ถึงขั้นโดนยุบพรรคได้เลย
.
“ขณะนี้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีความผิดตามกฎหมายอะไรหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ผมเคยเตือนไปแล้วไม่ใช่หรือ ก็เป็นเรื่อง กกต. จะพิจารณากันต่อไป ส่วนการสนับสนุนพรรคการเมืองต่างๆของคนนอก เรื่องนี้ต้องไปดูกฎหมายอีกครั้ง ไม่ใช่พอถึงเวลา พอมีการบังคับใช้กฎหมายก็กลายเป็นว่า ไม่มีความเป็นธรรมกันขึ้นมาอีก” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
.
ถือเป็น ‘คำกล่าว’ ที่คล้าย ‘คำขู่’ ที่ทำให้พรรคเพื่อไทยและนายทักษิณ ต้องหาวิธีรับมือต่อไป เพราะเคยมีบทเรียนมาแล้วในอดีต ตั้งแต่พรรคไทยรักไทยมาถึงพรรคพลังประชาชน แต่ คสช. ก็อย่าได้ชะล่าใจ เพราะจากประวัติศาสตร์ ทั้ง 2 พรรคก็ล้วนชนะการเลือกตั้งมาตลอด
.
แต่ผ่านมาแล้วกว่า 10 ปี ‘ตัวแปร’ หลายอย่างเปลี่ยนไป ‘ประวัติศาสตร์’ อาจเปลี่ยนแปลงก็ได้ แต่ประวัติศาสตร์ จะเขียนได้ อยู่ที่ว่าเมื่อไหร่จะมีเลือกตั้ง ?