เสียงปรบมือสนั่นโรงละคร “พระองค์เจ้าโสมสวลี” ทรงทำกับข้าวกับปลา ละครเวที “ม่านประเพณีฯ”

ขอขอบคุณภาพจาก เนชั่น

โดย เจนวิทย์ เชื้อสาวะถี ([email protected])

เสียงปรบมือในละครเวที “ม่านประเพณี ประกาศิต อาญาสวรรค์” ดังกึกก้องโรงละครทุกครั้งเมื่อ “พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ” หรือที่คนไทยเรียกกันติดปากด้วยความจงรักภักดีว่า “พระองค์โสม” หรือ “พระองค์หญิง” ปรากฏพระวรกายต่อผู้ชมในฉากต่างๆ รวมแล้วนับสิบฉาก มากกว่าที่ปรากฏพระวรกายให้พสกนิกรได้ชื่นชมพระบารมีใน ละครเวที “ซูสีไทเฮา” ซึ่งจัดแสดงเมื่อปีที่แล้ว

ขอขอบคุณภาพจาก เนชั่น
ขอขอบคุณภาพจาก เนชั่น

ในซูสีไทเฮา ทรงรับบทเป็นหญิงม่ายไร้ทรัพย์นาม “นางนิวฮูลู่” ถ่ายทอดความความเป็นแม่ ผู้ส่งต่อความอัดอั้นตันใจจากการไร้ทรัพย์ให้ลูกสาวสุดที่รัก จนกลายเป็นแรงขับ แรงทะเยอทะยานให้ลูกสาวของเธอผลักดันตัวเองไปอยู่ในจุดสูงสุดของยอดพีระมิดผู้กุมชีวิตคนทั่วหล้า เป็นองค์มหาราชินีของแผ่นดินจีน นาม “ซูสีไทเฮา”

ในม่านประเพณีฯ ทรงรับบท “พระมหาเทวีสวรรค์” ตัวละครสำคัญซึ่งเปรียบประหนึ่ง “หัวใจ” ของละครเวทีเรื่องนี้ที่สร้างโดยThe musical Society of Bangkok

“พระองค์หญิง” ทรงรับแสดงเป็นองค์ศิลปินเกียรติยศในบทพระมหาเทวีสวรรค์ ซึ่งตามตำนานความเชื่อของคนจีน เชื่อกันว่าเป็นเทพที่มีอิทธิฤทธิ์มหาศาล ทรงปกครองเทพฝ่ายหญิงทั้งปวง ชาวจีนส่วนใหญ่นิยมบูชาพระองค์เพราะเชื่อว่าทรงเป็นเทพแห่งความเจริญอันยั่งยืนและความสุขนิรันดร์

ตามภาษาแวดวงละครเวที ต้องบอกว่า ใน” ซูสีไทเฮา” ทรงเป็นองค์ศิลปินเกียรติยศ หรือ นัยหนึ่งคือเป็น นักแสดงประกอบที่ช่วยเติมเต็มให้ละครเวทีเรื่องหนึ่งเกิดความสมบูรณ์แบบ แต่ในละครเวทีเรื่องนี้ ทรงเป็นเหมือน “นักแสดงนำ” หรือ“นักแสดงหลัก” หรือ “ตัวเดินเรื่อง” ที่กำหนดชะตาชีวิตของแทบทุกตัวละครในเรื่อง

ijbbj95ddaeg77agfeje65
ขอขอบคุณภาพจาก เนชั่น

ในฉากเปิด พระมหาเทวีสวรรค์นั่นเอง ที่ทรงมีบัญชา ลงโทษเทพธิดาอิงอิงและมานพสวรรค์ ซึ่งทำผิดจารีตสวรรค์ ให้มาเกิดในโลกมนุษย์อีกครั้ง

ไม่เพียงเท่านั้น ตลอดการดำเนินเรื่อง ทั้งองค์1 และองค์2 ด้วยความที่พระมหาเทวีสวรรค์ทรงเป็นห่วงเทพธิดาอิงอิงผู้เปรียบประหนึ่ง “ลูกสาว” พระองค์จึงได้ทรงเสด็จลงมายังโลกมนุษย์เพื่อเฝ้าติดตามโชคชะตาของเทพธิดาอิงอิงโดยตลอด

ส่วนในฉากจบ ก็เป็นพระมหาเทวีสวรรค์อีก ที่ได้เสด็จจากสุวรรณวิมานมารับเทพธิดาอิงอิงกลับสู่สวรรค์
ไม่เกินเลยไปนักที่จะบอกว่า “พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ” คือ หัวใจของละครเวทีเรื่องนี้

เหมือนที่ “สุรุจ ทิพากรเสนี” ผู้เขียนบทละคร ผู้ประพันธ์ทำนองและคำร้องของละครเวทีเรื่องนี้ ให้สัมภาษณ์ว่า ในบรรดาเพลงที่ประพันธ์ขึ้นใหม่กว่า 30 เพลงนั้น เพลง “อำนาจแห่งรัก” ที่ “พระองค์หญิง” ทรงขับร้องถือเป็นหัวใจสำคัญที่สุดของเรื่องและถือเป็นเพลงหลักของละครเรื่องนี้ เพราะรักบันดาลได้ทุกสิ่ง ชี้นำให้หัวใจเราทำตามได้ทุกอย่างแม้ตามข้ามภพไปหาคนรัก หาหัวใจอีกดวงที่รักกัน ผูกพันกัน ข้ามฟ้า ข้ามภพมาพบกัน ดังที่เนื้อเพลงบอกว่า “รักช่างมีฤทธา ข้ามผ่านภูผาท้องทะเลใหญ่ ข้ามภพมาตามหัวใจ อีกใจ…คู่กัน”

ละครเวทีของสุรุจขึ้นชื่อเรื่อง “เพลง” และ “บทร้อง” เป็นอย่างมาก เพราะไม่เพียงเปี่ยมไปด้วยทำนองเพลงที่แสนจะไพเราะ เร้าอารมณ์ ทรงพลัง ตามฉบับเพลงละครเวที แต่ยังเปี่ยมด้วยสำนวนการเปรียบเปรยในระดับที่ละครเพลงแบบไทยๆ หลายเรื่อง ยังไปไม่ถึง ทั้งหมดนี้ ก็ด้วยความที่เจ้าตัวคือนักร้อง นักดนตรี และครูดนตรี ทุกเพลงของ “ครู” จึงทั้งไพเราะ ทั้งมีชั้นเชิง

แต่ต้องบอกว่าในม่านประเพณีฯ นี้ เด่นเรื่อง “บทพูด” ไม่น้อยหน้า “บทร้อง”

2 ฉากในตัวอย่างนี้ต่อไปนี้ ซึ่งเป็นฉากที่ “พระองค์หญิง” ปรากฏพระวรกาย และเรียกเสียงปรบมือสนั่นโรงละครไม่ขาดสาย คงบอกความถึงโดดเด่นของทั้ง “บทพูด” และ “บทร้อง” ได้เป็นอย่างดี

ฉากแรกที่ขอกล่าวถึงคือฉากพระมหาเทวีสวรรค์ เสด็จลงมายังโลกมนุษย์พร้อมกับกระเรียนน้ำเงิน ทั้งคู่แปลงกายเป็นมนุษย์ เพื่อตามลงมาดูความเป็นอยู่ของเทพธิดาอิงอิง ที่สำนักหนีซาน

พระมหาเทวีสวรรค์ เอ่ยติดตลกทันทีที่อยู่ในร่างมนุษย์ ว่า “ไม่คุ้นจริงๆเลย นานๆทีได้เป็นมนุษย์ธรรมดา”
จากนั้น พระมหาเทวีสวรรค์ และกระเรียนน้ำเงินในร่างมนุษย์ ได้เข้ามาดูแลเรื่องการทำอาหารให้บรรดานักเรียนในสำนักหนีซาน ทั้งคู่สนทนากันก่อนเดินเข้าสู่สำนักหนีซาน

กระเรียนน้ำเงิน : เดี๋ยวท่านจะต้องเข้าไปทำอาหารให้นักเรียน ในสำนักหนีซาน
พระมหาเทวีฯ : นี่จะให้ข้าทำอาหารจริงๆ หรือ
กระเรียนน้ำเงิน : ก็เห็นว่าท่านชอบทำอาหาร
พระมหาเทวีฯ : รู้ใจจริงๆ ว่าแต่รู้ได้อย่างไรว่าข้าชอบทำอาหาร
กระเรียนน้ำเงิน (แซว “พระองค์หญิง” อยู่โดยนัย) : “ก็เมื่อใดที่สวรรค์ น้ำท่วม ก็เห็นท่านทำอาหารแจกเทพธิดาทั้งหลายอยู่มิได้ขาด”

อีกฉาก เป็นบทร้องในชื่อเพลง “ทำกับข้าวกับปลา” ขณะที่พระมหาเทวีสวรรค์ทรงประกอบอาหาร โดยมีกระเรียนน้ำเงินเป็นลูกมือ เพลงนี้ “พระองค์หญิง” ทรงขับร้องสดๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ โดยแสดงท่วงท่าการประกอบอาหารไปด้วย ทำเอาผู้ชมทั้งโรงละครเพลิดเพลินอย่างมาก

“ทำกับข้าวกับปลา ไม่ยากหรอกหนา มีเคล็ดวิชา จงจำเอาไว้
ส่วนผสมต้องดี วิธีต้องครวญใคร่ จะก่อนจะหลังอย่างไร ย่อมเป็นสิ่งที่สำคัญ
ทำกับข้าวกับปลาไม่ยากหรอกหนา มีเคล็ดวิชาจงจำเอาไว้
ต้องปรุงรสให้ดีค่อยชิมค่อยปรุงใหม่ จะเปรี้ยว เค็ม หวาน เท่าไหร่ย่อมเป็นสิ่งสำคัญ
ไฟ…จะแรงจะร้อนหรือรุมอ่อน จะผัดจะทอดตุ๋น ต้ม นึ่ง หุง อุ่น ย่อมใช้ไฟที่ต่างกัน
ทำกับข้าวกับปลาไม่ยากหรอกหนา มีเคล็ดวิชาจงจำเอาไว้
ต้องปรุงรสให้ดีค่อยชิมค่อยปรุงใหม่ จะเปรี้ยว เค็ม หวาน เท่าไหร่ย่อมเป็นสิ่งสำคัญ
ที่สุดคือใจ หากตั้งใจแล้วย่อมทำได้ เมื่อปรุงอาหาร ทำด้วยความใส่ใจย่อมอร่อยลือไปถึงฟ้า”

ฉากนี้ “เกรียงศักดิ์ ศิลากอง” ผู้กำกับละครเวที กล่าวด้วยความภูมิใจว่าเป็น “ฉากที่ดีที่สุดของละครเวทีเรื่องนี้!!” และก็เป็นตามคาด ฉากนี้เรียกเสียงปรบมือสนั่นโรงละคร

เสียงปรบมือนั้น มิใช่แค่ชื่นชมว่า ทรงแสดงได้ดี แต่เป็นเสียงปรบมือจากใจพสกนิกร เพราะได้หวนคิดถึงภาพอันคุ้นชินที่เคยได้รับชมทางโทรทัศน์อยู่ตลอดเกือบสี่ทศวรรษ

นั่นคือภาพ “พระองค์หญิง” ทรงประกอบอาหารด้วยพระองค์เอง และด้วยความ “ใส่ใจ” เพื่อประทานให้กับพสกนิกรผู้ประสบอุทกภัยหรือภัยธรรมชาติต่างๆ นอกเหนือจากสิ่งของ ถุงยังชีพแก่พสกนิกร รวมถึงทีมแพทย์ พยาบาลให้ช่วยตรวจรักษาประชาชนผู้ประสบภัย

อาหารที่ทรงปรุงประทานแก่พสกนิกร จึงมิใช่เพียงอิ่มท้อง แต่อิ่มใจ เพราะได้กำลังใจ เหมือนกับฉากทรงปรุงอาหารในละครเวทีเรื่องนี้ ที่มิใช่เพียงการแสดงหรือบทละคร แต่คือพระจริยวัตรที่ทรงปฏิบัติด้วยความใส่ใจมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน

ijbbj95ddaeg77agfeje62
ขอขอบคุณภาพจาก เนชั่น

ละครเวทีเรื่องนี้ ยังขนทัพนักแสดงมืออาชีพ อย่าง กัญภัส ศรีณรงค์ ชยานุวัฒน์ (ป่าน วง VieTrio) และ ณัฎฐ์ ทิวไผ่งาม พร้อมนักแสดงกิตติมศักดิ์รับเชิญ ขึ้นเวทีอย่างพร้อมเพรียงอีกหลายชีวิต เช่น บท “อาจารย์หลี่” แสดงโดย หม่อมราชวงศ์สมลาภ กิติยากร” (เลขานุการใน พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ),บท “เหลียงฮูหยิน” แสดงโดยคุณวิสาขา หงสนันทน์” (พระญาติ) ,บท “สะใภ้รอง” แสดงโดย สิรพัชรา โสพัชรมณี หรือคุณใบพลู (พระธิดาบุญธรรมของ พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ) ,บท “อาจารย์หวาง” แสดงโดย ฐิติวัฒน์ ว่องวรรณกุล ผู้จัดการร้านค้าส่วนพระองค์ฯ (ร้านเพื่อนพึ่งภาฯ)และบท “อาผิง” แสดงโดยหม่อมหลวงภัทรสุดา กิติยากร” (ธิดาของ หม่อมราชวงศ์สมลาภ กิติยากร) พร้อมนักแสดงหมู่มวลชั้นเยี่ยมอีกหลาย 10 ชีวิต

และยังนับเป็นพระกรุณาอย่างหาที่สุดมิได้ที่ “พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ” ได้ทรงประทานพระวโรกาสฉายพระรูปร่วมกับผู้มาชมละครเวทีอย่างไม่ถือพระองค์ ทั้งยังทรงซักถามผู้ชมด้วยว่า “ละครสนุกไหมคะ” ยังความสร้างความซาบซึ้งใจแก่พสกนิกรเป็นล้นพ้น

ผู้สนใจ ซื้อบัตรละครเวทีได้ที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา โดยยังคงเหลืออีก 11 รอบการแสดง จนถึงวันที่ 16 ตุลาคม 2559 บัตรราคา 5,000 / 4,000 / 3,500 / 3,000 / 2,500 / 2,000 / 1,500 บาท