องค์กรบรรเทาทุกข์ร้องรัฐบาลพม่าเปิดทางให้เข้าช่วยเหลือในรัฐยะไข่

วันที่ 28 กันยายน สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า องค์กรบรรเทาทุกข์ระหว่างประเทศที่อยู่ในพม่าได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลพม่าเปิดทางให้สามารถเข้าถึงพื้นที่ขัดแย้งในรัฐยะไข่ ซึ่งเกิดการสู้รบระหว่างกองทัพพม่าและกลุ่มติดอาวุธในชื่อกองกำลังปลดปล่อยโรฮิงญาแห่งรัฐอาระกันหรืออาซาร์ จนไฟแห่งความขัดแย้งเผาผลาญบ้านเรือนหลายแห่งและทำให้ชาวโรฮิงญาเกือบ 5 แสนคนต้องลี้ภัยไปชายแดนบังคลาเทศ แต่เชื่อว่ายังมีผู้คนในพื้นที่อีกและกำลังขาดน้ำและอาหาร ที่พักอาศัยและการรักษาพยาบาล

ข้อเรียกร้องดังกล่าวขององค์กรบรรเทาทุกข์ มีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลไม่อนุญาตให้องค์กรต่างๆ เช่นเดียวกับหน่วยงานบรรเทาทุกข์ขององค์การสหประชาชาติเข้าไปในรัฐยะไข่ โดยอ้างเรื่องความปลอดภัย

“องค์กรบรรเทาทุกข์ระหว่างประเทศในพม่าต่างมีความกังวลเพิ่มขึ้นต่อข้อห้ามที่เข้มงวดในการเข้าถึงและอุปสรรคทางมนุษยธรรมที่จะส่งความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมที่ต้องการอย่างเร่งด่วนเข้าไปในรัฐยะไข่” องค์กรบรรเทาทุกข์แถลงและว่า เราขอเรียกร้องต่อรัฐบาลพม่าและหน่วยงานของรัฐให้การรับประกันได้ว่าทุกคนในรัฐยะไข่ต้องได้รับการเข้าถึงความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมที่ช่วยชีวิตพวกเขาตามที่ต้องการอย่างเต็มที่ อิสระและไม่มีข้อจำกัด

รายงานระบุว่า รัฐบาลพม่าได้ส่งหน่วยกาชาดพม่าเข้าไปทำหน้าที่ในรัฐยะไข่ด้วยความช่วยเหลือขององค์กรกาชาดสากล อย่างไรก็ตาม องค์กรบรรเทาทุกข์ต่างหวั่นเกรงว่าการเข้าถึงนั้นจะไม่เพียงพอต่อความต้องการทางมนุษยธรรมที่มีในจำนวนมหาศาล

ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรบรรเทาทุกข์กับรัฐบาลพม่า เป็นไปด้วยความยากลำบากมาเดือนกว่า โดยหน่วยงานรัฐบางส่วนกล่าวหาองค์กรบรรเทาทุกข์ว่า ให้ความช่วยเหลือกับกลุ่มติดอาวุธ ซึ่งองค์กรบรรเทาทุกข์ได้ปฏิเสธข้อหาดังกล่าว และพวกเขากล่าวว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวได้จุดไฟแห่งความโกรธพุ่งไปยังเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ที่อยู่ท่ามกลางชาวพุทธในชุมชนที่แตกแยก อีกทั้งภัยคุกคาม ข้อกล่าวหาและข้อมูลที่ผิดเหล่านี้ นำไปสู่ความกลัวที่แท้จริงในหมู่เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ จึงขอเรียกร้องให้ยุติการปล่อยข้อมูลที่ผิดและข้อกล่าวหาอันเลื่อนลอยและขอให้รัฐบาลพม่ารับประกันความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ด้วย