“เสธแมว” ชม น.ศ.จัดม็อบรอบนี้ มีกลยุทธ์ รู้จังหวะรุกเคลื่อน เชื่อ ดึงคนเหลืออด ไล่ รบ.ได้เพิ่ม

เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการ พรรคเพื่อไทย (พท.) อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงการชุมนุมขับไล่รัฐบาลของนิสิตนักศึกษาเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า ต้องยอมรับว่า เป็นการเดินงานแบบมีกลยุทธ์ รู้จังหวะการรุก ผสานเข้ากับวิกฤตโควิดที่ จ.ระยอง กระแทกใส่หน้ารัฐบาลที่เสียท่าการ์ดตกเสียเอง จนสื่อยังร่วมประโคมข่าวให้ ถือเป็นหัวหอกที่จะชักกลุ่มคนซึ่งเหลืออดกับรัฐบาล ก้าวข้ามความกลัวออกมาเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีสืบทอดอำนาจออกไป ที่ขณะนี้ไม่เหลือภาวะผู้นำต่อการแก้ไขวิกฤติการณ์ของประเทศอีกแล้ว จนเป็นเหตุให้เสถียรภาพของรัฐบาลง่อนแง่น หมดเครดิตในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศ สอดรับกับการเคลื่อนไหวที่ปีกรัฐบาล โดยพรรคใหญ่อยากได้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ เตรียมเป็นมือไม้สู้การเลือกตั้ง กลุ่มก๊วนแย่งชิงเป็นรัฐมนตรีเพื่อสะสมทุน ประจวบกับห้วงเวลานี้ที่มีการประชุมใหญ่ของพรรคการเมือง พรรคร่วมรัฐบาลถึงกับเร่งปฏิรูปพรรค กู้ภาพพจน์กันยกใหญ่ พรรคเล็กพรรคน้อยยุบพรรค แล้ว ส.ส.ไหลไปสังกัดพรรคใหญ่แทน

พล.ท.ภราดรกล่าวว่า ขณะที่ปีกประชาธิปไตยพรรคร่วมฝ่ายค้าน ต่างก็จัดประชุมใหญ่เปลี่ยนแปลงองคาพยพกันใหม่เช่นกัน ในส่วนของพรรคเพื่อไทยจะจัดประชุมใหญ่ในวันที่ 21 กรกฎาคมนี้ แต่การจัดองคาพยพยังต้องใช้เวลา เพราะเป็นพรรคใหญ่ไม่คล่องตัว สำหรับพรรคการเมืองน้องใหม่ อย่างพรรคกลางได้จัดประชุมใหญ่ เปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคคนใหม่ เป็นนายปิติพงศ์ เต็มเจริญ คนการเมืองปีกประชาธิปไตย เข้ามาแทนที่นายชุมพล ครุฑแก้ว ซึ่งเปลี่ยนไปเป็นเลขาธิการพรรค พรรคนี้ยึดจุดยืนประชาธิปไตย พร้อมเป็นทางเลือกใหม่ให้กับประชาชน นับแต่นี้ไปสถานการณ์ม็อบเคลื่อนไหวเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีสืบทอดอำนาจ จะยกระดับจำนวนคนมากขึ้นเรื่อย จนยากที่จะหยุดยั้ง เป็นเหตุให้ทุกฝ่ายเชื่อว่า การยุบสภาเพื่อการเลือกตั้งใหม่จะตามมา เพราะผู้นำสืบทอดอำนาจคนนี้ คงไม่ยอมเสียสละลาออกไปตายเดี่ยวอย่างแน่นอน