กรมควบคุมโรค แนะ 7 วิธีขับขี่ช่วงฝนตกลมแรง ให้ปลอดภัยในช่วงขากลับกรุงเทพฯ หลังเทศกาลสงกรานต์นี้

กรมควบคุมโรค แนะ 7 วิธีขับขี่ช่วงฝนตกลมแรง ให้ปลอดภัยในช่วงขากลับกรุงเทพฯ หลังเทศกาลสงกรานต์นี้
            กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แนะประชาชนที่ต้องขับขี่รถขากลับกรุงเทพฯ หลังเทศกาลสงกรานต์ อาจต้องเจอกับฝนตก ลมกระโชกแรง ทัศนวิสัยไม่ดี ถนนเปียกลื่นและอาจมีน้ำขัง เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุทางถนนได้  พร้อมแนะ 7 วิธีขับขี่ให้ปลอดภัย เน้นลดความเร็ว หลีกเลี่ยงการแซง และประเมินสถานการณ์ก่อนขับรถผ่านจุดที่มีน้ำท่วมขัง
            วันนี้ (16 เมษายน 2561) นายแพทย์สุวรรณชัย  วัฒนายิ่งเจริญชัย  อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ตามที่ท่านปลัดกระทรวงสาธารณสุข (นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข) เป็นห่วงและมีนโยบายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานร่วมกันในการดูแลประชาชนที่เดินทางไปและกลับในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ รณรงค์ให้มีการเตรียมคนและรถให้พร้อมก่อนเดินทางทุกครั้ง และระหว่างเดินทางอาจมีฝนตกหรือลมพายุได้ โดยให้ทุกหน่วยงานดำเนินการมาตรการด้านการป้องกันอย่างเข้มข้น มีการเตรียมพร้อมของสถานพยาบาลตามแผนรองรับ เพื่อลดการบาดเจ็บจากการจราจร ป้องกันผลกระทบของพายุต่อสถานพยาบาลและการให้บริการ
จากรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าในช่วง 16-18 เมษายนนี้ หลายพื้นที่ในประเทศไทยจะเกิดพายุฤดูร้อนขึ้น ซึ่งจะมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง มีฟ้าผ่า และมีลูกเห็บตกในบางพื้นที่  กรมควบคุมโรค จึงขอเตือนประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องขับขี่รถเพื่อกลับเข้ามายังกรุงเทพฯ หลังเทศกาลสงกรานต์  ให้ระมัดระวังอันตรายในช่วงฝนตกลมแรงนี้ ซึ่งจะทำให้ถนนเปียกลื่น และทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ดี รวมถึงฝนที่ตกหนักอาจทำให้ถนนและในบางพื้นที่มีน้ำท่วมขังได้
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า กรมควบคุมโรค ขอแนะนำผู้ขับขี่ควรปฏิบัติ 7 วิธีขับขี่ให้ปลอดภัยในช่วงฝนตกลมแรง ดังนี้ 1.เปิดไฟหน้ารถเสมอ โดยเปิดไฟต่ำ เพื่อช่วยให้มองเห็นสิ่งต่างๆ บนถนนได้ชัดเจนขึ้น และให้รถคันอื่นมองเห็นรถได้จากระยะไกล  2.เปิดใบปัดน้ำฝน โดยปรับระดับความเร็วของใบปัดน้ำฝนให้สัมพันธ์กับความแรงและปริมาณฝนตก  3.ลดความเร็ว เพื่อเพิ่มความระมัดระวังให้มากเป็นพิเศษ  4.ให้ทิ้งระยะห่างจากคันหน้า เพราะสภาพถนนที่เปียกลื่น ต้องใช้ระยะทางในการหยุดรถเพิ่มขึ้น 5.หลีกเลี่ยงการแซง แต่หากจำเป็นต้องประเมินสถานการณ์ ระยะทางข้างหน้า 6.รถลื่นไถลหรือเหินน้ำ ห้ามเหยียบเบรกจนล้อหยุดหมุนในทันที เพราะอาจทำให้รถพลิกคว่ำได้ ควรลดความเร็ว ใช้เกียร์ต่ำ จนกว่ารถจะทรงตัวได้ แล้วจึงค่อยเหยียบเบรกเพื่อหยุดรถ และ 7.เมื่อต้องขับรถผ่านน้ำท่วมขัง ให้หยุดประเมินสถานการณ์ หากระดับน้ำลึกสูงกว่าขอบประตูรถ ไม่ควรขับฝ่าไป ควรเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น ทั้งนี้ หากพบเห็นผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ขอให้โทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพทันที โทร.1669  
            นอกจากนี้ ช่วงที่มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ มีความเสี่ยงที่จะเกิดฟ้าผ่าได้ สำหรับการป้องกันอันตรายจากการถูกฟ้าผ่า โดยขอให้หลีกเลี่ยงอยู่กลางแจ้ง ควรหลบในตัวอาคารที่ติดตั้งสายล่อฟ้า ไม่ควรใช้โทรศัพท์ เปิดคอมพิวเตอร์ เล่นอินเตอร์เน็ต ดูโทรทัศน์ ฟังวิทยุ เป็นต้น และหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด เพราะกระแสไฟจากฟ้าผ่าอาจไหลผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้า  สำหรับการช่วยเหลือผู้ถูกฟ้าผ่าต้องช่วยอย่างรวดเร็ว โดยประเมินความปลอดภัยของที่เกิดเหตุ และโทรขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพ โทร.1669 โดยแจ้งข้อมูลผู้ถูกฟ้าผ่าและสถานที่เกิดเหตุ อาจเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากสถานที่โดนฟ้าผ่าไปยังที่ปลอดภัย  ทั้งนี้ ประชาชนสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422