นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดงาน “120 ปี วันท้องถิ่นไทย” ที่จังหวัดสมุทรสาคร ประกาศนโยบายปฏิรูปการกระจายอำนาจครั้งสำคัญ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สามารถเสนอของบประมาณตรงไปยังสำนักงบประมาณโดยไม่ต้องผ่านกระทรวงมหาดไทย พร้อมมอบรางวัลข้าราชการท้องถิ่นดีเด่น และย้ำความสำคัญของ อปท. ที่เป็นรากฐานการพัฒนาประเทศเพราะใกล้ชิดประชาชน สามารถลดขั้นตอนการบริการและตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างรวดเร็ว มุ่งมั่นขับเคลื่อนการกระจายอำนาจให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน

ในพิธีเปิดงาน “120 ปี วันท้องถิ่นไทย” จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ วัดสุทธิวาตวราราม (วัดช่องลม) พระอารามหลวง ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมืองสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2568 มีผู้ร่วมงานคับคั่ง นำโดย น.ส.ธนนนท์ นิรามิษ ภริยารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น รวมทั้งผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจากทั่วประเทศ

นายอนุทินได้กล่าวในโอกาสสำคัญนี้ว่า วันนี้ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ที่ทุกคนได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ได้ทรงมีพระบรมราชโองการให้ยกฐานะตำบลท่าฉลอมขึ้นเป็น “สุขาภิบาลท่าฉลอม” เมื่อปี พ.ศ. 2448 อันเป็นการถือกำเนิดการปกครองส่วนท้องถิ่นครั้งแรกในประเทศไทย

“นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ เป็นเวลา 120 ปีแล้วที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้กลายเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศ เพราะเป็นกลไกที่ใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนมากที่สุด สามารถรับฟังปัญหา เข้าใจความต้องการ และขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงได้อย่างแท้จริง” รองนายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

ในระหว่างพิธี นายอนุทินได้เป็นประธานมอบรางวัล “ข้าราชการท้องถิ่นดีเด่น ประจำปี 2567” ให้แก่บุคลากรที่มีผลงานโดดเด่นจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ จากนั้นได้ร่วมชมการแสดงระบำนาเกลือ อันเป็นศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านที่สะท้อนวิถีชีวิตชาวสมุทรสาคร โดยนักเรียนจากโรงเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดสมุทรสาคร ตามด้วยการแสดงแสง สี เสียง “สุขาภิบาลท่าฉลอม” ที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์การกระจายอำนาจการปกครองสู่ท้องถิ่นไทย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงความสำคัญของการกระจายอำนาจในบริบทประเทศไทย ว่าเป็นพื้นฐานของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปกครองตนเอง ซึ่งสอดคล้องกับหลักการสำคัญของรัฐธรรมนูญที่มุ่งเน้นการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและการกระจายอำนาจนั้น ยังผลให้ประชาชนสามารถเลือกผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของตนเองได้ เกิดความใกล้ชิดระหว่างผู้บริหารท้องถิ่นกับประชาชน โดยประชาชนสามารถเลือกใช้บริการจาก คนกันเองที่ตนเองรู้จักในพื้นที่ มาบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ทำให้เกิดการอำนวยความสะดวก ลดขั้นตอนทางราชการ และประชาชนสามารถรับบริการของภาครัฐได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยมุ่งมั่นส่งเสริมนโยบายกระจายอำนาจให้เกิดความสำเร็จมากที่สุด เพราะการกระจายอำนาจได้แผ่กระจายไปยังทุกชุมชน ทุกระดับ ทำให้การบริหารราชการแผ่นดินสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง เราไม่หยุดแค่นี้ แต่จะพัฒนาระบบการบริหารงานท้องถิ่นให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อไป

นายอนุทิน กล่าวว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะสามารถตั้งโครงการเพื่อของบประมาณได้ด้วยตนเองไปยังสำนักงบประมาณโดยไม่ต้องเสนอผ่านกระทรวงมหาดไทยดั่งที่ผ่านมาอีกแล้ว ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นตั้งใจของกระทรวงมหาดไทยในการลดขั้นตอนการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

“กระทรวงมหาดไทยทำงานแบบ 24 ชั่วโมงด้วยความตั้งใจสนับสนุนบทบาทองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้บริการรับใช้พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน และเราจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาระบบการบริหารงานท้องถิ่นให้ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง” นายอนุทิน กล่าวทิ้งท้าย

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า งาน “120 ปี วันท้องถิ่นไทย” ครั้งนี้มีความพิเศษ เพราะจัดขึ้น ณ สถานที่ประวัติศาสตร์อันเป็นจุดกำเนิดแห่งการปกครองท้องถิ่นไทย และยังเป็นโอกาสอันดีที่ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจากทั่วประเทศจะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และเรียนรู้แนวทางการพัฒนาท้องถิ่นร่วมกันอีกด้วย •