เผยแพร่ |
---|
ในบางช่วงของชีวิต การจัดการค่าใช้จ่ายอาจกลายเป็นเรื่องท้าทายสำหรับพนักงานประจำที่ต้องการความมั่นคงทางการเงิน “สินเชื่อ” จึงเป็นทางเลือกที่ช่วยเสริมสภาพคล่องเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่จำเป็น เช่น ค่ารักษาพยาบาล การดูแลครอบครัว หรือการพัฒนาตนเองควบคู่ไปกับงานประจำ แต่ก่อนตัดสินใจใช้สินเชื่อ การทำความเข้าความรู้เกี่ยวกับสินเชื่อเบื้องต้นว่า สินเชื่อ คืออะไร และสินเชื่อมีกี่ประเภท จะช่วยให้คุณวางแผนและเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมที่สุด
ทำความรู้จัก สินเชื่อ คืออะไร
เมื่อพูดถึงสินเชื่อ หลายคนอาจจะเกิดความสงสัยว่าสินเชื่อ คืออะไร? สินเชื่อแปลว่าอะไร? สินเชื่อ คือ รูปแบบการให้ยืมเงินจากสถาบันการเงินหรือผู้ให้บริการทางการเงิน เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องในสถานการณ์จำเป็น โดยผู้ขอสินเชื่อจะต้องชำระคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ องค์ประกอบสำคัญของระบบสินเชื่อคือ ผู้ให้กู้ ผู้กู้ วงเงินสินเชื่อ อัตราดอกเบี้ย และระยะเวลาผ่อนชำระ
ประเภทสินเชื่อในแต่ละรูปแบบมีอะไรบ้าง แบบไหนที่เหมาะกับคุณ?
หลังจากรู้แล้วว่าสินเชื่อ คืออะไร? อีกสิ่งที่ควรรู้ก็คือประเภทสินเชื่อ สินเชื่อมีหลายประเภทที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของผู้กู้ การเลือกสินเชื่อที่เหมาะสมจึงขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และความจำเป็น เช่น การใช้จ่ายส่วนตัว การศึกษา หรือที่อยู่อาศัย ในหัวข้อต่อไป เราจะพาคุณทำความรู้จักว่าสินเชื่อมีประเภทอะไรบ้าง เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
สินเชื่อแบ่งตามระยะเวลา
ระยะเวลาในการชำระหนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขการกู้ยืม โดยสามารถแบ่งสินเชื่อออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก มีสินเชื่ออะไรบ้าง? ตามมาดูกัน
• สินเชื่อระยะยาว: มีระยะเวลาการชำระคืนมากกว่า 5 ปี มักใช้สำหรับการลงทุนระยะยาว เช่น ซื้อบ้าน ซื้อที่ดิน หรือลงทุนในธุรกิจขนาดใหญ่ อัตราดอกเบี้ยอาจต่ำกว่าสินเชื่อประเภทอื่น แต่ผู้กู้ต้องวางแผนการเงินระยะยาวให้ดี
• สินเชื่อระยะกลาง: มีระยะเวลาการชำระคืนระหว่าง 1-5 ปี มักใช้สำหรับการลงทุนขนาดกลาง เช่น ซื้อรถยนต์ หรือปรับปรุงบ้าน อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ระดับกลาง
• สินเชื่อระยะสั้น: มีระยะเวลาการชำระคืนไม่เกิน 1 ปี มักใช้สำหรับเป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ หรือใช้จ่ายส่วนตัวในระยะสั้น อัตราดอกเบี้ยอาจสูงกว่าสินเชื่อระยะยาวและระยะกลาง
สินเชื่อแบ่งตามประเภทสินทรัพย์
สินเชื่อบางประเภทถูกออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสมกับการซื้อสินทรัพย์ประเภทใดประเภทหนึ่งโดยเฉพาะ
• สินเชื่อรถยนต์มือหนึ่ง และรถยนต์มือสอง: เป็นสินเชื่อที่ใช้สำหรับซื้อรถยนต์ โดยเงื่อนไขและอัตราดอกเบี้ยจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าเป็นรถยนต์มือหนึ่งหรือมือสอง
• สินเชื่อบ้านใหม่ และบ้านมือสอง: สินเชื่อบ้าน คือสินเชื่อที่ออกแบบมาเพื่อช่วยผู้กู้ในการซื้อหรือสร้างบ้านใหม่ โดยการให้เงินกู้เพื่อนำไปชำระค่าสินทรัพย์ที่อยู่อาศัย ผู้กู้จะต้องชำระคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยในระยะเวลาที่กำหนดเป็นสินเชื่อที่ใช้สำหรับซื้อบ้านหรือคอนโด เงื่อนไขและอัตราดอกเบี้ยจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าเป็นบ้านใหม่หรือบ้านมือสอง
สินเชื่อแบ่งตามหลักประกัน
หลักประกันเป็นสิ่งที่ผู้กู้ยืมนำมาค้ำประกันในการกู้เงิน หากผู้กู้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ สถาบันการเงินสามารถยึดหลักประกันไปขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ได้
• สินเชื่อแบบไม่มีหลักประกัน: เป็นสินเชื่อที่ผู้กู้ไม่ต้องนำทรัพย์สินมาค้ำประกัน แต่ผู้กู้ต้องมีรายได้ที่มั่นคงและประวัติเครดิตที่ดี
• สินเชื่อแบบมีหลักประกัน: เป็นสินเชื่อที่ผู้กู้ต้องนำทรัพย์สินมาค้ำประกัน เช่น บ้าน รถยนต์ หรือทองคำ ซึ่งจะทำให้ได้รับวงเงินกู้ที่สูงขึ้นและอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง
สินเชื่อแบ่งตามลักษณะผู้ขอสินเชื่อ
• สินเชื่อส่วนบุคคล: หลายคนอาจสงสัยว่า p-loan คืออะไร? Personal Loan หรือ P-Loan คือ สินเชื่อส่วนบุคคลที่ให้แก่บุคคลธรรมดาเพื่อนำไปใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ซื้อของใช้ส่วนตัว จ่ายค่ารักษาพยาบาล หรือใช้ในกรณีฉุกเฉิน
• สินเชื่อธุรกิจ: เป็นสินเชื่อที่ให้แก่นิติบุคคล เช่น บริษัท ห้างหุ้นส่วน เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินธุรกิจ เช่น การลงทุนขยายกิจการ หรือเป็นเงินทุนหมุนเวียน
เลือกสินเชื่อเบื้องต้นอย่างไรให้ตรงจุด ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทางการเงิน
นอกจากต้องทราบความหมายของสินเชื่อว่าสินเชื่อ คืออะไร การเลือกสินเชื่อที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และความต้องการทางการเงินของเราเป็นเรื่องสำคัญ เพราะสินเชื่อแต่ละประเภทถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน การทำความเข้าใจในเป้าหมายของเรา และเงื่อนไขของสินเชื่อจะช่วยให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้ตามที่ตั้งใจไว้ สามารถเลือกสินเชื่อโดยพิจารณาจากข้อแนะนำเบื้องต้น ดังนี้
• กำหนดเป้าหมายการใช้เงิน: เช่น ใช้เงินฉุกเฉิน ซ่อมแซมบ้าน หรือเริ่มต้นธุรกิจ เพื่อเลือกสินเชื่อที่เหมาะสมกับจุดประสงค์
• ตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร: ศึกษาเงื่อนไขของธนาคาร เช่น รายได้ขั้นต่ำ อายุ และประเภทอาชีพ
• เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย: ตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อแต่ละประเภท ทั้งแบบคงที่และแบบลอยตัว เพื่อคำนวณค่าใช้จ่ายระยะยาว
• พิจารณาระยะเวลาชำระหนี้: เลือกระยะเวลาผ่อนชำระที่สอดคล้องกับความสามารถทางการเงิน เช่น ผ่อนสั้นจบไว หรือผ่อนยาวลดภาระรายเดือน
• ดูค่าธรรมเนียมและเงื่อนไขเพิ่มเติม: เช่น ค่าปรับกรณีปิดบัญชีก่อนกำหนด หรือค่าธรรมเนียมการกู้
การยื่นขอสินเชื่อมีเอกสารจำเป็นอะไรบ้างที่ควรเตรียม?
เมื่อรู้แล้วว่าสินเชื่อคืออะไร อีกสิ่งที่ควรทำคือการเตรียมตัวสมัครสินเชื่อ เนื่องจากการสมัครสินเชื่อจำเป็นต้องเตรียมเอกสารต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ให้กู้สามารถพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ได้อย่างครบถ้วน การเตรียมเอกสารที่ถูกต้องและครบถ้วนจะช่วยลดระยะเวลาการดำเนินการ และเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อได้รวดเร็วขึ้น
เอกสารที่จำเป็นในการสมัครสินเชื่อ
• บัตรประชาชนตัวจริง
ใช้ยืนยันตัวตนของผู้สมัคร ตรวจสอบว่าข้อมูลถูกต้องและยังไม่หมดอายุ
• สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือนตัวจริง
ควรเป็นเอกสารล่าสุด อายุไม่เกิน 60 วัน เพื่อแสดงรายได้และความสามารถในการชำระหนี้
• รายการเดินบัญชี (Statement)
แสดงรายได้เข้าและรายจ่ายในบัญชีย้อนหลัง 3-6 เดือน (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร)
• สำเนาทะเบียนบ้าน
อาจจำเป็นในบางกรณีเพื่อยืนยันที่อยู่ปัจจุบัน
• เอกสารเพิ่มเติมสำหรับเจ้าของกิจการ
เช่น หนังสือรับรองบริษัท หรือรายการเสียภาษี
สมัครสินเชื่อส่วนบุคคลพรอมิส
• ใช้เอกสารเพียง 2 อย่าง
1. บัตรประชาชนตัวจริง
2. สลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองเงินเดือนตัวจริง อายุไม่เกิน 60 วัน
• เอกสารมีผลต่อการอนุมัติ แนะนำสลิปเงินเดือน 2 เดือนล่าสุด
• กรณีที่มีเพียง 1 เดือนก็สามารถยื่นได้
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
ดอกเบี้ย 15%-25% ต่อปี
*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนการสมัครที่ promise.co.th
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
สินเชื่อ คืออะไร แบบไหนที่เหมาะกับคุณ?
หลายคนคงเข้าใจแล้วว่าสินเชื่อคืออะไร สินเชื่อหมายถึงเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยให้เราสามารถเข้าถึงเงินทุนตามความต้องการเมื่อเกิดปัญหาฉุกเฉิน การเลือกประเภทของสินเชื่อที่เหมาะสมเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้กู้ผ่านการอนุมัติสินเชื่อและใช้สินเชื่ออย่างมีประสิทธิภาพ สินเชื่อจึงไม่ใช่เพียงแค่เงินกู้ แต่เป็นโอกาสในการสร้างความมั่นคงทางการเงินที่ดีขึ้น •