รู้ก่อนตัดสินใจติดตั้ง! ฟิล์มรถยนต์ 40 60 80 เลือกแบบไหนดี?

เชื่อว่า คนมีรถยนต์ทุกคนรู้ว่าการติดตั้งฟิล์มรถยนต์มีส่วนช่วยสำคัญในการป้องกันแสงแดด ความร้อน และลดแสงสะท้อนจากภายนอกที่เข้าสู่ภายในรถ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย ซึ่งส่งผลต่อทัศนวิสัยการขับขี่และความเป็นส่วนตัว ซึ่งในปัจจุบันฟิล์มกรองแสงมีให้เลือกหลายระดับความเข้ม ตั้งแต่ 40%, 60% และ 80% ซึ่งแต่ละระดับก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป แล้วเราควรจะเลือกติดตั้งระดับไหนดี จึงจะปกป้องรถยนต์จากความร้อนได้ดีที่สุด? ในบทความนี้ มีคำตอบ! เราขอพาคุณไปทำความรู้จักกับฟิล์มรถยนต์ 40%, 60% และ 80% แต่ละระดับความเข้มแตกต่างกันอย่างไร พร้อมคำแนะนำในการเลือกติดตั้งให้เหมาะสมกับความต้องการและไลฟ์สไตล์การใช้งานของแต่ละคน ตามไปดูเลย!

 

ฟิล์มรถยนต์ 40 60 80 ต่างกันยังไง?

ฟิล์มรถยนต์ 40%, 60%, และ 80% มีความแตกต่างกันหลักๆ ที่ความเข้มข้นของฟิล์ม มีผลต่อความโปร่งใส การกรองแสง และการลดความร้อนในรถยนต์ โดยค่า VLT (Visible Light Transmission) ของฟิล์มติดรถยนต์บ่งบอกถึงค่าแสงที่มองเห็นผ่านฟิล์ม ยิ่งค่า VLT มาก แสงสามารถส่องผ่านฟิล์มได้มาก ฟิล์มจึงมีความใสมาก หากค่า VLT น้อย แสงสามารถส่องผ่านฟิล์มได้น้อย ฟิล์มจึงมีความเข้มสูงนั่นเอง มาดูรายละเอียดย่อยของฟิล์มทั้ง 3 ระดับกัน

● ฟิล์ม 40% เป็นฟิล์มที่มีความโปร่งใสมากที่สุด ระดับความเข้มต่ำ ยังคงมีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาในรถ จึงสามารถมองเห็นภายในรถได้ชัดเจนในทุกสภาวะแสง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ภายในรถดูสว่างและไม่มืดเกินไป โดยยังคงช่วยกรองแสงแดดและรังสียูวีได้บางส่วน จึงเหมาะสำหรับใช้งานกระจกบานหน้า

● ฟิล์ม 60% มีระดับความเข้มข้นปานกลาง ยังมีความโปร่งใสอยู่บ้าง ให้ความเป็นส่วนตัวในระดับที่พอดี และสามารถกรองแสงและความร้อนได้ดีกว่าแบบ 40% จึงนิยมใช้กันมากที่สุด สามารถติดตั้งได้ทั้งกระจกบานหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง

● ฟิล์ม 80% มีระดับความเข้มสูงสุด ป้องกันแสงแดดและความร้อนได้ดีที่สุด จึงแทบไม่สามารถมองเห็นภายในรถ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง รวมถึงรถที่ใช้งานกลางวัน เจอแดดจัดหรืออากาศร้อน โดยสามารถติดตั้งได้ทั้งกระจกบานหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง แต่ไม่แนะนำให้ติดฟิล์ม 80% ที่กระจกหน้า เพราะอาจทำให้ทัศนวิสัยการขับขี่กลางคืนลดลงได้

 

เลือกฟิล์มรถยนต์ 40 60 80 แบบไหน ให้เหมาะสมกับทัศนวิสัยในการขับขี่?

ฟิล์มติดรถยนต์ไม่เพียงแต่ช่วยกรองแสงแดดและความร้อนเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการสะท้อนแสงจากไฟหน้ารถในยามค่ำคืนที่ส่งผลต่อทัศนวิสัยในการขับขี่ด้วย การเลือกฟิล์มรถยนต์จึงควรเลือกตามความต้องการในการใช้งาน เช่น หากขับรถกลางคืนบ่อย ควรหลีกเลี่ยงฟิล์มเข้มเกินไปเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายจากการไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน เป็นต้น

● ฟิล์มรถยนต์ 40% เป็นฟิล์มที่ระดับความเข้มต่ำ แสงสามารถส่องผ่านได้ประมาณ 40-50% จึงมองเห็นได้ภายนอกและภายในรถ แม้ในเวลากลางคืนก็ยังสามารถมองเห็นข้างนอกรถได้ชัดเจนจึงเป็นฟิล์มรถยนต์ที่ให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ชัดเจนมากที่สุด แต่ในขณะเดียวกัน ก็เห็นแสงสะท้อนจากรถคันข้างหน้าได้ชัดเจนด้วยเช่นกัน

● ฟิล์มรถยนต์ 60% แสงสามารถส่องผ่านได้ประมาณ 20% จึงช่วยลดความสว่าง แสงสะท้อน และเพิ่มความเป็นส่วนตัวภายในรถได้ดีกว่าแบบ 40% ในขณะเดียวกันก็ยังช่วยรักษาทัศนวิสัยในการขับขี่ในเวลากลางคืนได้ดี จึงเหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไป

● ฟิล์มรถยนต์ 80% แสงจะสามารถส่องผ่านได้ประมาณ 5-19% เท่านั้น จึงลดความสว่าง แสงสะท้อน และรักษาความเป็นส่วนตัวได้มากที่สุด แต่ขณะเดียวกันก็ส่งผลให้ทัศนวิสัยการขับขี่ในตอนกลางคืนแย่ลง ลำบากและอาจเป็นอันตรายต่อผู้ขับ รวมถึงผู้ที่มีปัญหาด้านสายตาด้วยเช่นกัน

จะเห็นว่าฟิล์ม 80% ช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวและลดการสะสมความร้อนในรถได้ดีกว่าฟิล์มระดับอื่น โดยสามารถบล็อกความร้อนจากแสงแดดได้ถึง 70% หรือมากกว่า หากคุณต้องใช้งานรถช่วงกลางวันเป็นประจำ รถต้องโดนแดดร้อนจัด หรือจอดรถกลางแจ้งเป็นเวลานาน จึงเหมาะกับติดฟิล์มรถยนต์ 60-80% แต่ถ้าหากเน้นการใช้งานและขับขี่ช่วงเวลากลางคืน ติดฟิล์มรถยนต์ 40-60% ก็จะดีต่อทัศนวิสัยในการขับขี่มากกว่า ฉะนั้นในการเลือกติดตั้งฟิล์มเพื่อให้ได้ผลลัพธ์การขับขี่และปกป้องรถยนต์ได้ดีที่สุด จึงควรเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การขับขี่ของตนเองนั่นเอง

และหากคุณกำลังมองหาฟิล์มกรองแสงคุณภาพสูงที่พร้อมปกป้องรถยนต์ของคุณทั้งช่วงเวลากลางวันและกลางคืน SPMS-EST เราคือผู้จัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสง 3M อย่างเป็นทางการและเป็นรายเดียวในประเทศไทย มีฟิล์มหลากหลายรูปแบบให้คุณได้เลือก สามารถสอบถามเรื่องการติดตั้งติดฟิล์มรถยนต์ 40 60 ราคา และทุกปัญหาด้านการใช้งาน ได้แล้ววันนี้ที่ตัวแทนจำหน่าย 3M ใกล้บ้านคุณ! •