รวมเรื่องสำคัญที่ควรรู้ก่อนซื้อรถยนต์ไฟฟ้า

ในยุคที่ราคาน้ำมันผันผวนและปัญหามลพิษทางอากาศทวีความรุนแรง รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่การตัดสินใจเปลี่ยนจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมันมาเป็นรถไฟฟ้านั้น มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแบตเตอรี่ ระยะทางการวิ่ง การชาร์จไฟ และค่าใช้จ่ายต่างๆ

บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับสิ่งสำคัญที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้คุณสามารถเลือกรถที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และการใช้งานของคุณมากที่สุด พร้อมแนะนำศูนย์จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า BYD ที่มีความน่าเชื่อถือและบริการครบวงจร

5 เรื่องสำคัญควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า

การตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเป็นการลงทุนที่สำคัญ จึงควรพิจารณาข้อมูลอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะ 5 เรื่องต่อไปนี้ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแบตเตอรี่ การชาร์จ ค่าใช้จ่าย และการบำรุงรักษา

1. เช็กความจุแบตเตอรี่กับระยะทางการวิ่ง

ความจุแบตเตอรี่เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อระยะทางที่รถสามารถวิ่งได้ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง รถยนต์ไฟฟ้าแบบ BEV (Battery Electric Vehicle) ในปัจจุบันมีความจุแบตเตอรี่ตั้งแต่ 60-90 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) สามารถวิ่งได้ระยะทาง 300-500 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง โดยสิ่งที่ควรพิจารณา ได้แก่ ลักษณะการใช้งานประจำวัน ระยะทางที่ต้องขับเฉลี่ยต่อวัน เส้นทางที่ใช้บ่อย และสภาพอากาศในพื้นที่ใช้งาน (เพราะมีผลต่อประสิทธิภาพแบตเตอรี่)

 

2. ระยะเวลาในการชาร์จ

การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามีหลายรูปแบบ แต่ละแบบใช้เวลาแตกต่างกัน ควรทำความเข้าใจเพื่อวางแผนการใช้งานได้อย่างเหมาะสม

การชาร์จแบบ AC (กระแสสลับ)

• ชาร์จที่บ้านด้วยเต้ารับทั่วไป: 8-12 ชั่วโมง

• ชาร์จผ่าน Wall Charger: 4-6 ชั่วโมง

• เหมาะสำหรับการชาร์จช่วงกลางคืน

การชาร์จแบบ DC (กระแสตรง)

• ชาร์จเร็ว (Fast Charge): 30-45 นาที (0-80%)

• ชาร์จด่วนพิเศษ (Super Fast Charge): 15-30 นาที

• มีให้บริการตามสถานีชาร์จสาธารณะ

 

3. ค่าเชื้อเพลิงที่ต้องจ่าย

การใช้รถยนต์ไฟฟ้าช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงได้อย่างมาก เมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน

ค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตร

• รถยนต์น้ำมัน: 2.50-3.50 บาท/กม.

• รถยนต์ไฟฟ้า: 0.30-0.50 บาท/กม.

ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยต่อเดือน

• การชาร์จที่บ้าน: 1,000-1,500 บาท

• การชาร์จที่สถานีสาธารณะ: 1,500-2,500 บาท

 

4. เตรียมที่ชาร์จไฟฟ้าที่บ้าน

การติดตั้งที่ชาร์จไฟฟ้าที่บ้านเป็นสิ่งจำเป็น ต้องเตรียมความพร้อมต่าง ๆ เช่น การเตรียมระบบไฟฟ้า มิเตอร์ไฟฟ้าขนาด 30 แอมป์ขึ้นไป สายเมนขนาด 25 ตร.มม. เซอร์กิตเบรกเกอร์ 100 แอมป์

อุปกรณ์ที่ต้องติดตั้ง ได้แก่ Wall Charger ระบบป้องกันไฟรั่ว หรือสายชาร์จที่เข้ากับรถได้ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายโดยประมาณ Wall Charger: 20,000-40,000 บาท ค่าติดตั้ง: 5,000-10,000 บาท และค่าอุปกรณ์เพิ่มเติม: 3,000-5,000 บาท

 

5. การซ่อมบำรุง

รถยนต์ไฟฟ้ามีข้อได้เปรียบด้านการบำรุงรักษาเมื่อเทียบกับรถยนต์น้ำมัน โดยมีข้อดีคือไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวน้อยกว่า และระยะเวลาการบำรุงรักษาห่างกว่า ส่วนค่าใช้จ่ายที่ต้องคำนึง ได้แก่ ค่าตรวจเช็กระบบไฟฟ้า ค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่เมื่อหมดอายุ และค่าบำรุงรักษาระบบระบายความร้อน

 

ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า BYD ที่ไหนดี

ศูนย์จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า BYD Bandonpiya เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า BYD ด้วยจุดเด่นที่หลากหลาย ทั้งเรื่องการบริการครบวงจร โดยมีที่ปรึกษาด้านการเงิน ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค และบริการหลังการขายมาตรฐาน พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีศูนย์บริการได้มาตรฐาน สถานีชาร์จไฟฟ้า และอะไหล่แท้ครบครัน รวมทั้งยังมีโปรโมชันพิเศษ ดอกเบี้ยพิเศษ แพ็กเกจบำรุงรักษา และประกันภัยราคาพิเศษอีกด้วย

สรุปบทความ

การเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นการตัดสินใจที่ดีทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและการประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว แต่ต้องศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนและเตรียมความพร้อมในหลายด้านศูนย์จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า BYD Bandonpiya พร้อมให้คำปรึกษาและบริการครบวงจร สามารถติดต่อได้ที่

• โทร: 077-289-555 สาขาบางกุ้ง

• โทร: 077-289-556 สาขาบางใหญ่

• Facebook: BYD B Infinite Surat Thani

• Facebook: BYD B Infinite Surat Thani Bang Yai

• Tiktok: bydsuratthani