รวมสเต็ปรับมือเมื่อรถติดหล่ม! มีสติ ตามสเต็ป ลดการเกิดอันตราย

ผ่านฤดูฝนและช่วงพายุมากันอย่างหนักหน่วง หนึ่งในปัญหาที่คนมีรถยนต์หลายๆ คนเจอ โดยเฉพาะคนที่ต้องขับรถบนถนนที่ไม่ราบเรียบ ขับบนถนนลูกรัง ถนนชำรุด คือ ขับๆ อยู่แล้วล้อรถยนต์ดันติดขัด อาจตกลงไปในหลุม จมลงไปในโคลน หรือดินเปียกแฉะ และหากโชคไม่ดีเข้า ล้อรถยนต์อาจไม่สามารถขยับออกจากหลุมได้เลย แม้จะเร่งเครื่องยนต์แรงขนาดไหนก็ตาม นั่นคือวิกฤตที่เรียกว่า ‘รถติดหล่ม’ และเมื่อเจอกับวิกฤตนี้ ผู้ขับขี่หลายคนก็มักจะตกใจ จนทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าต้องแก้ปัญหาอย่างไรดีให้รถสามารถเดินทางต่อไปได้ อีกทั้งยังต้องกังวลเรื่องช่วงล่างรถยนต์เสียหาย และเรื่องความปลอดภัยของตนเอง หากรถดันติดหล่มในระหว่างที่ฝนตกหนัก อยู่ในพื้นที่ไร้สัญญาณเน็ตและมือถืออีก! ในบทความนี้เราเลยขอมาแชร์สเต็ปรับมือเมื่อรถติดหล่มให้คนมีรถยนต์ได้เตรียมความพร้อมเอาไว้กัน บอกเลยว่าขอแค่มีสติ และทำตามสเต็ปอย่างใจเย็น ผ่านวิกฤตรถติดหล่มไปได้แน่นอน ตามมาดูเลย!

1) ตรวจสอบว่าล้อรถยนต์ข้างไหนที่ติดหล่ม พร้อมตรวจสอบบริเวณหลุมโดยรอบ

เมื่อรู้ว่าตนเองกำลังเผชิญอยู่กับวิกฤตรถติดหล่ม ให้ตั้งสติให้มั่น และเริ่มต้นด้วยการตรวจสอบให้ชัวร์ว่า ล้อรถยนต์ข้างไหนของเราที่กำลังติดหล่มอยู่ ไม่ว่าจะเป็นล้อหน้า ล้อหลัง พร้อมตรวจสอบว่าหลุมโคลนที่ตกลงไปมีความลึกอยู่ที่ระดับเท่าไหร่ มีเศษดิน หิน ก้อนกรวด หรือมีวัตถุที่สามารถสร้างความเสียหายต่อล้อรถยนต์อยู่หรือไม่ และหากพบว่ามีวัตถุที่ดูเป็นอันตรายต่อล้อรถยนต์ปะปนอยู่ ก็ไม่ควรรีบดึงคันเร่งขึ้นยนต์ขึ้นโดยเด็ดขาด เพราะถือเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้รถยนต์ตกหล่มมากกว่าเดิม แถมช่วงล่างยังอาจได้รับความเสียหายที่รุนแรงมากขึ้นด้วย

2) ทดสอบเดินหน้า-ถอยหลังด้วยเกียร์ต่ำ

ผ่านสเต็ปแรกด้วยการตรวจสอบให้ชัวร์ว่าล้อรถยนต์ข้างไหนที่ติดหล่ม พร้อมตรวจสอบบริเวณหลุมโดยรอบแล้วว่าไม่มีวัตถุแปลกปลอมที่ดูเป็นอันตราย สเต็ปถัดมาให้เราค่อยๆ ทดสอบเดินหน้า-ถอยหลังด้วยเกียร์ต่ำ แบบช้าๆ เพื่อเพิ่มแรงเหวี่ยงให้กับรถยนต์ หากรถยนต์ของเราไม่ได้ตกหลุมลึกจนเกินไป ก็อาจทำให้ล้อรถยนต์สามารถขยับขึ้นจากหลุม หรือพื้นโคลนได้ ทั้งนี้ระหว่างที่ทดสอบเดินหน้า-ถอยหลังไม่ควรเร่งเครื่องยนต์ และขย่มรถยนต์โดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้พื้นผิวที่สัมผัสกับล้อน้อยลงรวมถึงเศษหิน ดินทรายต่างๆ อาจเข้าไปที่ติดตัวดอกยาง จนรถติดหล่มมากกว่าเดิมนั่นเอง

3) ลองหาวัตถุมาเพิ่มผิวสัมผัสที่พื้นดิน

หากทำตามสเต็ปที่สอง ทดสอบเดินหน้า-ถอยหลังด้วยเกียร์ต่ำ ขยับรถยนต์ช้าๆ แล้วยังไม่ได้ผล รถยนต์ยังไม่สามารถขยับออกจากหลุมได้ ให้เราลองหาวัตถุมาเพิ่มผิวสัมผัสที่พื้นดิน เช่น ก้อนหินขนาดพอดีกับล้อรถ กิ่งไม้ขนาดใหญ่มาหนุนบริเวณหน้าล้อรถยนต์ ให้เกิดแรงเสียดทานมากขึ้น จากนั้นให้เราค่อยๆ ขับรถยนต์เดินหน้า พยายามไต่ขึ้นมาจากหลุมอีกครั้ง

4) ทดลองปล่อยลมยาง

อีกสเต็ปที่อาจช่วยแก้ปัญหารถติดหล่มและเพิ่มพื้นที่ผิวสัมผัสได้ ในเคสที่เราไม่มีวัตถุสามารถนำมารองหนุนที่ตัวล้อได้เลย คือ การทดลองปล่อยลมยางออก จากนั้นให้ค่อย ๆ ขับรถขึ้นออกจากหล่มดูอีกครั้ง หากรถสามารถขยับต่อไปได้ ก็ค่อยเติมลมยางรถยนต์ให้กลับมาเต็ม ฉะนั้นวิธีนี้จะสามารถใช้ได้ก็ต่อเมื่อเรามีอุปกรณ์เติมลมยางพร้อมเท่านั้น

5) เลือกใช้อุปกรณ์รอก

‘อุปกรณ์รอก’ เป็นเครื่องผ่อนแรงลักษณะคล้ายล้อที่มีแกนหมุนได้รอบตัว ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับยก ลาก หรือดึงของหนักให้เบาแรงและรวดเร็วขึ้นโดยเฉพาะ หากใครมีอุปกรณ์นี้ก็สามารถนำมาติดไว้ที่จุดยึดของรถยนต์ที่บริเวณด้านหน้า และให้นำปลายเชือกไปผูกติดไว้กับหลักที่มีความแข็งแรง เช่น ต้นไม้ เสาขนาดใหญ่ และค่อยๆ ให้รอกดึงรถยนต์ขึ้นมา วิธีนี้เป็นการแก้ปัญหาที่สะดวกและรวดเร็ว ชัวร์ว่าจะสามารถยกรถขึ้นมาได้อย่างแน่นอน ฉะนั้นใครที่เป็นสายเดินทางบ่อยๆ และต้องเดินทางไปยังพื้นที่ขรุขระ ถนนลูกรัง แนะนำให้ซื้ออุปกรณ์รอกติดรถยนต์เอาไว้เลยจะดีที่สุด

6) เลือกใช้แรงงานคน เข้ามาช่วย

การเลือกใช้แรงงานคนเข้ามาช่วยเข็น หรือดึงรถยนต์ขึ้นก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่ควรมองข้าม หากมีมากเท่าไหร่ โอกาสที่ล้อจะหลุดจากโคลนก็มีมากขึ้นเท่านั้น บวกกับการมีอุปกรณ์ช่วยหนุนล้อเอาไว้อยู่แล้ว ก็อาจได้ผลไม่แพ้กับการใช้อุปกรณ์รอกเลย ทั้งนี้อย่าลืมคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลักด้วย เนื่องจากล้อรถยนต์อาจนำโคลน เศษดิน หิน ทรายต่างๆ มากระเด็นโดนตัวของคนที่เข้ามาช่วยเข็นได้

7) ติดต่อศูนย์บริการรถยก รถลาก รถสไลด์ในพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาช่วยเหลือ

หากลองมาทุกสเต็ปแล้วก็ยังไม่ได้ผล ไม่สามารถดึงรถขึ้นมาได้เลย หรือรถติดหล่มลึกจนเกินไป มีโคลนติดอยู่เป็นจำนวนมาก แนะนำให้ติดต่อศูนย์บริการรถยก รถลาก รถสไลด์ในพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาช่วยเหลือกู้รถของเราขึ้นจากหลุม หรือลากเคลื่อนย้ายรถของเราไปที่ศูนย์ซ่อมหรืออู่รถ ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว และสามารถรลดความเสียหายให้เกิดขึ้นกับรถยนต์ของเราได้ ด้วยอุปกรณ์ที่ใช้มีความแข็งแรงและปลอดภัยกว่า และเคลื่อนย้ายด้วยเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญนั่นเอง

และนี่คือสเต็ปหลักๆ เบื้องต้นในการรับมือเมื่อรถติดหล่ม ซึ่งเป็นสิ่งที่คนมีรถยนต์ควรรู้และเตรียมความพร้อมไว้เสมอ เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยเฉพาะวิกฤตรถติดหล่มนี้จะเกิดขึ้นกับเราเมื่อไหร่ ยิ่งในช่วงหน้าฝน หรือพายุเข้าบ่อยๆ จนทำให้ถนนลูกรัง และพื้นดินกลายเป็นโคลนตมเละ โอกาสเกิดก็ยิ่งสูงมากกว่าปกติ แต่หากเรามีสกิลและอุปกรณ์ต่างๆ เตรียมไว้พร้อม มีสติค่อยๆ ทำสเต็ปอย่างที่เราบอกไป ก็ลดความกังวลใจในระดับหนึ่งว่าเราจะสามารถผ่านวิกฤตนี้ไปได้ ลดโอกาสการเกิดความเสียหายแก่รถยนต์ ทั้งยังเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่ด้วย ส่วนใครที่กำลังมองหาศูนย์บริการรถยก รถลาก รถสไลด์ที่บริการรวดเร็วและมีความปลอดภัย รถยกรถสไลด์เฉพาะกิจ พร้อมให้บริการเคลื่อนย้าย 24 ชั่วโมง เรามีบริการทั้งรถยก รถเครน รถสไลด์ และรถบรรทุกขนาดใหญ่ ทุกประเภท โทร. 091-087-4274 •