พ่อเมืองเชียงรายบูรณาการทุกภาคส่วน เร่งให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนพื้นที่อำเภอแม่สายและเชียงของ หลังจากฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วม

พ่อเมืองเชียงรายบูรณาการทุกภาคส่วน เร่งให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนพื้นที่อำเภอแม่สายและเชียงของ หลังจากฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วม พร้อมเน้นย้ำรับฟังการแจ้งเตือนข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด

วันนี้ (10 ก.ย. 67) นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดเชียงราย จากอิทธิพลของพายุ “ยางิ” ในวันที่ 9-10 กันยายนที่ผ่านมา ทำให้อำเภอในจังหวัดเชียงราย 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่สาย และอำเภอเชียงของ ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม และน้ำป่าไหลหลากทำให้บ้านเรือนพี่น้องประชาชนและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งได้รับความเสียหาย ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้เร่งให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมสั่งการให้ติดตามสถานการณ์พื้นที่เสี่ยงภัยอย่างใกล้ชิด

นายพุฒิพงศ์ฯ กล่าวว่า สถานการณ์เบื้องต้นของเหตุการณ์น้ำท่วม จังหวัดเชียงรายมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ ใน 2 อำเภอ 2 ตำบล 7 หมู่บ้าน โดยพื้นที่ได้รับผลกระทบประกอบไปด้วย
1) อำเภอแม่สาย ได้แก่ ตำบลเวียงพางคำ และตำบลแม่สาย ระดับแม่น้ำสายเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลเข้าท่วมบริเวณตลาดสายลมจอยและชุมชนแม่สาย หัวฝาย เหมืองแดง ไม้ลุงขน เกาะทราย ซึ่งในพื้นที่ตลาดสายลมจอย ที่เป็นจุดขายสินค้าชายแดนไทย – เมียนมา ระดับแม่น้ำสายยังคงสูงจนเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ทั้งหมดของตลาดสายลมจอยต่อเนื่องติดต่อกันเป็นวันที่ 2 น้ำที่ไหลลงมาตามลำน้ำสายมีขอนไม้ เศษไม้ สิ่งปฏิกูล ไหลลงมาด้วย คาดว่าพื้นที่ป่าต้นน้ำในประเทศเมียนมาฝนคงตกหนัก และน้ำที่ท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทำให้พ่อค้าแม่ค้าเก็บสินค้าขึ้นหนีน้ำไม่ไหว สินค้าของร้านต่างๆ จึงถูกน้ำท่วมเสียหายจำนวนมาก และในช่วงวันที่ 9-10 ก.ย. 67 ณ เวลา 08.30 น. แนวโน้มระดับน้ำเพิ่มมากขึ้นและล้นพนังกั้นน้ำ โดยตนได้สั่งการให้ นายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สาย และองค์กรปกครองท้องถิ่นเจ้าของพื้นที่ ออกให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อน เร่งสำรวจความเสียหายเป็นการเร่งด่วน และแจ้งให้ประชาชนขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงและอาศัยอยู่ในจุดปลอดภัยแล้ว
2) อำเภอเชียงของ ได้แก่ ตำบลสถาน น้ำเอ่อล้นตลิ่งท่วมในพื้นที่หมู่ 2,5,12 เนื่องจากมีฝนตกในพื้นที่ ประกอบกับมีการระบายน้ำจากอ่างน้ำช้าง ผลกระทบประมาณ 50 หลังคาเรือน ปัจจุบันน้ำได้ลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง โดยทางเทศบาลตำบลสถานได้ใช้เครื่องจักรเปิดทางน้ำเพื่อระบายน้ำเรียบร้อยแล้ว

“โดยล่าสุด สถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดเชียงรายอยู่ในระดับเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด มีฝนตกปานกลาง – อ่อน ในทุกพื้นที่ของจังหวัด ภาพรวมระดับน้ำแม่น้ำสายหลักมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น จากการประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ และการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม จึงขอให้อำเภอ เทศบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องและเฝ้าระวังระดับน้ำต่อไปอีกในช่วง 2-3 วันจากนี้ ซึ่งอาจมีฝนตกหนักทำให้เกิดมวลน้ำระลอกใหม่เอ่อท่วมมากขึ้นกว่าเดิม โดยทุกฝ่ายจะต้องมีความพร้อมในการแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า เพื่อให้สามารถเตรียมตัวรับมือขนย้ายสิ่งของไปยังที่ปลอดภัยได้อย่างรวดเร็ว และสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำ น้ำตก หากมีฝนตกหนักมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัย ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยตลอด 24 ชั่วโมง” นายพุฒิพงศ์ฯ กล่าว

นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวในช่วงท้ายว่า สำหรับการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบเบื้องต้น ขณะนี้มีหลายหน่วยงานส่งความช่วยเหลือให้กับผู้ประสบอุทกภัยในทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจังหวัดเชียงรายได้เร่งให้ความช่วยเหลือ ทั้งในด้านการดูแลอาหาร และน้ำดื่มสะอาดให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัย การซ่อมแซมเส้นทางคมนาคม การอพยพเคลื่อนย้ายประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย นอกจากนี้ ได้มีการจัดหาเครื่องนุ่งห่ม อาหาร ที่นอน และการปฐมพยาบาลแก่ผู้ประสบภัยเบื้องต้นแล้ว ทั้งนี้ ต้องขอให้พี่น้องประชาชนระมัดระวังอันตรายจากกระแสไฟฟ้ารั่วในพื้นที่ที่สถานการณ์น้ำท่วมขัง และถ้าหากมีกรณีที่เสี่ยงอาจจะเกิดอันตรายให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตัดกระแสไฟฟ้าทันที และขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารสถานการณ์อุทกภัย ตลอดจนการพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด จนกว่าเหตุการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เพื่อให้รู้เท่าทันเหตุการณ์อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ หากได้รับความเดือดร้อนจากเหตุภัยพิบัติ หรือ ต้องการขอรับความช่วยเหลือ สามารถโทรสายด่วนนิรภัย 1784 หรือสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 หรือ ประสานงานกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปลัดอำเภอประจำตำบล นายอำเภอ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง