เผยแพร่ |
---|
จังหวัดขอนแก่นบูรณาการฝ่ายความมั่นคง บุกทลายร้านสปาชื่อดังใจกลางเมือง พบแฝงค้ากามหนุ่ม สปป.ลาว วัย 17 ปี ด้านผู้ว่าฯ ขอนแก่น ย้ำ เดินหน้าจัดระเบียบสังคม ปราบปรามสิ่งผิดกฎหมาย รวมถึงการค้ามนุษย์ ในทุกพื้นที่อย่างเข้มข้นต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยของชาวขอนแก่น
วันนี้ (6 ก.ย. 67) นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า จังหวัดขอนแก่น ได้บูรณาการเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทท.1 กก.1 บก.ทท.2 เจ้าหน้าที่ พม.จว.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่จัดหางาน และเจ้าหน้าที่ กอ.รอน.จว.ขอนแก่น ร่วมปฏิบัติการจับกุมนายณัฐริกา อายุ 25 ปี พร้อมของกลาง เหตุเปิดร้านนวดสปา ชื่อ “ร้านนวดอโดร่า สปาขอนแก่น” แฝงค้ามนุษย์ชาวต่างด้าวในพื้นที่ อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดข่อนแก่น
นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ได้มีการสืบสวนหาข่าวตามที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ว่า “ร้านนวดอโดร่า” เลขที่ 410/1 หมู่ที่ 13 ซอยบ้านกอก ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ว่ามีแรงงานต่างด้าว มาประกอบอาชีพและขายบริการที่ร้านนวดดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ วางแผน ทำการล่อซื้อและเข้าจับกุม โดยพบชายสัญชาติลาว ทราบชื่อ “นายจันพอน” อายุ 17 ปี สัญชาติลาว ผู้ให้บริการ ในลักษณะไม่ใส่เสื้อ พร้อมของกลาง อาทิ เงินสด(ธนบัตร) ขวดน้ำมันนวด ถุงยางอนามัยทั้งที่แกะแล้ว และยังไม่แกะ สมุดบัญชีรายรับ-รายจ่ายของร้าน และลงเวลาการทำงาน เอกสารการใช้บริการ จำนวนครั้ง (ของเหยื่อ) และสำเนาธนบัตรลง ปจว. ใช้ในการล่อซื้อ รวมถึง เอกสารการแชทของสายลับ ก่อนเข้าจับกุม
“เจ้าหน้าที่ได้ทำการเชิญตัว “นายจันพอน” มาที่เคาเตอร์และได้เชิญตัว นายณัฐริกา ผู้จัดการร้าน มาที่ทำการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดขอนแก่น ร่วมกับ หน่วยงาน พม.จังหวัดขอนแก่น และแรงงานจังหวัดขอนแก่น พงส.สภ.เมืองขอนแก่นและสหวิชาชีพ โดยจากการสอบปากคำเบื้องต้น ได้ให้ปากคำต่อ หน้าสหวิชาชีพว่า จำนวนเงิน 1,600 บาท ที่ผู้มาใช้บริการจ่ายจะแบ่งให้ทางแอดมินหรือผู้ดูแลชื่อตามคิวอาร์โค้ด ที่ตั้งอยู่บนเคาเตอร์ จำนวนเงิน 650 บาท และผู้ให้บริการจะได้รับเงินเพียง 950 บาท โดยเงินจำนวน 650 บาท จะทำการโอนภายให้ภายหลังงจากทำงานเสร็จแล้ว” นายไกรสรฯ กล่าว
นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวต่อไปอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำเพิ่มเติมกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งได้แจ้งข้อกล่าวหา นายณัฐริกา “กระทำผิดฐาน ค้ามนุษย์ โดยกระทำแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี และเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาซึ่งบุคคลใดให้เพื่อบุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตามหรือไม่ว่ากระทำต่างๆอันประกอบความผิดนั้นนั้นจะได้ทำไปภายในหรือนอกราชอาณาจักรอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 มาตรา 9″ ต่อพนักงาน สอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีต่อไป”
“โดยภายหลังจากกระบวนการคัดแยกเหยื่อแล้ว เพื่อเป็นการเฝ้าระวังและรักษาความปลอดภัยให้กับเหยื่อ สภ.เมืองขอนแก่น จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัย ตลอด 24 ชม. ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น ทั้งนี้ ได้กำชับให้ ทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดขอนแก่น ดำเนินการให้ความช่วยเหลือ นำผู้เสียหายฯ เข้ารับการตรวจร่างกาย ณ โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น และดำเนินการสืบพยานเด็กตามประมวลกฎหมายอาญา ณ สำนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่น โดยมีนักสังคมสงเคราะห์ และผู้ช่วยปฏิบัติงานด้านการค้ามนุษย์ ของสำนักงานพัฒนาสังคมฯ ดูแลอย่างใกล้ชิด อาทิ 1) แจ้งสิทธิที่พึงได้รับให้ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ทราบ 2) จัดเจ้าหน้าที่นักสังคมสงเคราะห์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เข้าร่วมสอบปากคำเด็กที่สำนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่น 3) วางแผนประสานการคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2554 ณ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จังหวัดปทุมธานี และ 4) ดำเนินการประชุมหาแนวทางภายหลังส่งตัวเข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพ ผู้เสียหายร่วมกับทีมสหวิชาชีพ เพื่อรับสิทธิที่พึงได้รับต่อไป” นายไกรสอนฯ กล่าวเพิ่มเติม
นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวในช่วงท้ายว่า จังหวัดขอนแก่น ได้บูรณาการทุกภาคส่วนดำเนินการขับเคลื่อนตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทยที่ โดยมุ่งมั่นในการจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล การป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด การค้ามนุษย์ รวมถึงสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิดอย่างต่อเนื่อง และขอกำชับให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองหรือหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการ Re X-Ray เสาะหาสิ่งผิดกฎหมายอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติสุข ประชาชนได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ปลอดจากสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิด จึงขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันอย่างจริงจังต่อไป ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบเบาะแสการกระทำผิด สามารถแจ้งข้อมูล หรือ ร้องเรียน ร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ สายด่วน 1567 ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง
#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข