เผยแพร่ |
---|
ปลัด มท. ตรวจติดตามการขับเคลื่อนโครงการสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืนของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านหนองไก่ขัน ต.เขาขลุง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี พร้อมฝาก นายก อบต.เขาขลุง ขยายผลให้ทุกศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในความรับผิดชอบมี “สนามเด็กเล่นสร้างปัญญา” เพื่อพัฒนา EQ และ IQ เด็กในทุกมิติ
วันนี้ (1 ก.ย. 67) เวลา 12.30 น. ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านหนองไก่ขัน ต.เขาขลุง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ติดตามการขับเคลื่อนโครงการสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน โดยมี นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายศิริพันธ์ ศรีกงพลี รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายณัชวันก์ อัลภาชน์ เตชะเสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายสุวิทย์ เถื่อนน้อย ผู้ตรวจราชการกรมโยธาธิการและผังเมือง ร่วมลงพื้นที่ โดยนายสมยศ พุ่มน้อย นายอำเภอบ้านโป่ง นายสมบัติ เทพรส นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขาขลุง คณะผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ครูผู้ดูแลเด็ก ผู้ปกครอง และนักเรียนศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองไก่ขัน อบต.เขาขลุง ร่วมให้การต้อนรับ
โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และคณะ รับชมการแสดง “รำวงมหาดไทย” ของนักเรียนศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านหนองไก่ขัน และรับฟังการบรรยายความเป็นมา และการดำเนินโครงการตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ก่อนเยี่ยมชมกิจกรรมสร้างความมั่นคงทางอาหาร และชมการเก็บไข่ไก่ในโรงเรือนภายใน ศพด.
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายก อบต.เขาขลุง พ่อแม่พี่น้องผู้ปกครองทุกท่านที่เล็งเห็นความสำคัญ และร่วมเป็นภาคีเครือข่ายกับกระทรวงมหาดไทย ด้วยการนำแนวทางที่พวกเราทุกคนมีความปรารถนาดีต่อลูกหลานและผู้ปกครอง ส่งเสริมการสร้างความยั่งยืนให้กับชีวิตของเด็ก ซึ่งนอกจากเด็กจะได้มีโอกาสพัฒนาในด้านสมอง คือได้มาเรียนหนังสือ ได้มาศึกษาหาความรู้ รวมทั้งได้มีโอกาสในการพัฒนาด้านร่างกาย คือได้มาเล่นออกกำลังกายที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โดย อบต.เขาขลุง ได้มีการใช้พื้นที่ว่างบริเวณโดยรอบศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในการสร้าง “สนามเด็กเล่นสร้างปัญญา” เพื่อให้เด็กได้เล่น ได้ออกกำลังกาย ตามแนวทางที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่พวกเราขนานพระนามลำลองว่า สมเด็จย่า ได้ทรงเลี้ยงดูแลพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ กระทั่งทรงเจริญวัยและเป็นผู้ทรงทศพิธราชธรรม ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขดูแลอาณาประชาราษฎรให้มีความกินดีอยู่ดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน
“ซึ่ง “สนามเด็กเล่นสร้างปัญญา” เป็นแนวคิดของอาจารย์ดิสสกร กุนธร ประธานมูลนิธิสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา มุ่งเน้นการส่งเสริมให้เด็กได้เคลื่อนไหว มีกิจกรรมทางกาย ออกกำลังกาย เล่นสนุกตามธรรมชาติที่เหมาะสมกับช่วงวัย ทำให้เกิดพัฒนาการทางร่างกาย สมอง และจิตใจ เรียกว่า พัฒนาทั้ง EQ และ IQ ให้กับเด็กได้เป็นอย่างดี ตามแนวทางการเลี้ยงดูพระโอรสและพระธิดาของสมเด็จย่าที่ทรงให้พระโอรสและพระธิดา เล่นดิน น้ำ โคลน ตามอิสระธรรมชาติ ซึ่ง “สนามเด็กเล่นสร้างปัญญา” ประกอบด้วย เชือกทาร์ซาน มัดเป็นปม ช่วยทำให้เด็กได้ห้อยโหน ปีนป่าย ออกกำลังกาย เกิดความแข็งแรง ควบคู่กับการสร้างความสนุกสนาน โดยมีฐานหรือพื้นเป็นทราย ป้องกันการตกกระแทก อีกทั้งมี “สระทารก” เป็นแอ่งน้ำตื้น ที่มีน้ำและทรายผสมกัน ทำให้เด็กได้เรียนรู้ในการเล่นน้ำ ช่วยพัฒนาในการทรงตัวและความคิดสร้างสรร รวมทั้งมีส่วนของ “ห้องสมุด” มีหนังสือมากมายให้เด็กได้อ่าน ส่วนใต้ถุนบ้านมีเครื่องเล่นนานาชนิด รวมถึงมี “ทางลื่น” หรือสไลเดอร์ลงมา ทำให้เด็กได้ผจญภัยอย่างอิสระไปกับเครื่องเล่นโดยรอบ ได้ฝึกทักษะต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ในการพัฒนาด้านการเรียนรู้ทุกมิติ” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติม
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวในช่วงท้ายว่า ขอฝากท่านผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลเขาขลุง ได้ขับเคลื่อนสร้างสนามเด็กเล่นสร้างปัญญาในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในสังกัดให้ครบทั้ง 3 แห่ง โดยมีหลักการ คือ การทำให้เด็กได้เล่นกับธรรมชาติ ซึ่งประกอบไปด้วย ดิน ทราย น้ำ โคลน หิน ต้นไม้ ทำให้มีการปีนป่าย เกิดความสนุกสนาน การพัฒนาทั้งร่างกายและสมอง อีกทั้งยังทำให้ถึงเหล่านั้นมีความสุข ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญในการช่วยกัน “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” การดูแลคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะลูกหลานที่จะเป็นอนาคตของประเทศชาติ ด้วยการทำให้มีพื้นที่ ธรรมชาติสำหรับการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งการเรียน การใช้ชีวิต และที่สำคัญคือการเป็นเด็กดีมีศีลธรรม มีวินัย ได้รับการอบรม กล่อมเกลา ทำให้เด็กมีความกตัญญูกตเวที รู้หน้าที่ของเด็ก รวมถึงส่งเสริมให้เด็กได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ได้รับประทานไข่ไก่เป็นอาหารทุกวันอย่างน้อยวันละ 3 ฟอง ซึ่งจะทำให้ลูกหลานของเราแข็งแรง ฉลาด และเติบโตไปเป็นกำลังสำคัญของครอบครัวและของประเทศชาติต่อไป
นายสมบัติ เทพรส นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขาขลุง กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนตำบลเขาขลุง มีศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในสังกัด จำนวน 3 ศูนย์ มีเด็กนักเรียน รวม 71 คน สำหรับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนบ้านหนองไก่ขัน ได้รับการประกาศจัดตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2552 เพื่อกระจายโอกาสการรับบริการพัฒนาความพร้อมให้แก่เด็กทุกคนในพื้นที่อย่างทั่วถึง เด็กนักเรียนส่วนใหญ่ อาศัยอยู่ในหมู่ที่ 9 , 11 และ 15 โดยเริ่มแรกในการบริการได้ใช้อาคารเรียนของโรงเรียนบ้านหนองไก่ขัน ในการจัดการเรียนการสอน และต่อมา เมื่อปี พ.ศ. 2559 ได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ โดยได้รับการสนับสนุนงประมาณจากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น มีเลี้ยง ครู 1 คน พี่เลี้ยง 2 คน เด็กนักเรียน 29 คน การดำเนินการตามโครงการสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืนตามนโยบายกระทรวงมหาดไทย ด้วยการส่งเสริมการปลูกผักสวนครัว พืชสมุนไพรปลอดสารพิษ มาใช้ในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร ตลอดจนให้มีการเลี้ยงไก่ไข่หรือปศุสัตว์อื่น เพื่อสนับสนุนให้เด็กนักเรียนได้รับประทานไข่ไก่หรือเนื้อสัตว์ ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการเป็นแหล่งโปรตีนอย่างสม่ำเสมอในราคาถูกและปลอดภัย
“องค์การบริหารส่วนตำบลเขาขลุง จึงได้ดำเนินการตามโครงการสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน โดยการ ก่อสร้างโรงเรือนเลี้ยงไก่ ขนาดกว้าง 4.5 ยาว 8 เมตร รวมทั้งจัดหาพันธุ์ไก่ไข่ จำนวน 50 ตัว และปลูกผักปลอดสารพิษ ครูและพี่เลี้ยงจะพาเด็กมาเรียนรู้ในช่วงเช้า ครู และผู้ปกครอง ช่วยกันดูแลให้อาหารไก่ เก็บไข่ รวมทั้ง รดน้ำผักในแปลงผักสวนครัว และครูจะนำไขไก่ที่ได้มาปรุงอาหารกลางวันให้เด็กนักเรียนได้รับประทานทุกวัน ซึ่งผลที่ได้รับ คือ เด็กนักเรียนได้เรียนรู้การเลี้ยงไก่และปลูกผักสวนครัว จากการลงมือปฏิบัติจริงศูนย์พัฒนาเด็กเล็กนำไขไก่ และผักสวนครัวมาประกอบอาหารกลางวันให้กับเด็กนักเรียน และเกิดความมีส่วนร่วมระหว่างชุมชน โรงเรียน และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ซึ่งจะดำเนินการให้ครบทุกศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่อยู่ในความรับผิดชอบ” นายสมบัติฯ กล่าวเพิ่มเติม