เผยแพร่ |
---|
ผู้ว่าฯ นครพนม ลงพื้นที่ตรวจติดตามการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่อำเภอนาทม เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายเตรียมความพร้อมรับมือกับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัย สามารถเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้อย่างทันท่วงที
วันนี้ (18 ส.ค. 67) นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จังหวัดนครพนมได้ดำเนินการตามนโยบายสำคัญของรัฐบาลในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน โดยตนได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมเยียนนายอำเภอ ติดตามการทำงานในโครงการหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) โครงการธนาคารขยะ ติดตามสถานการณ์ฝนตกหนัก ลงพื้นที่เยี่ยมครัวเรือนกลุ่มเปราะบาง และให้กำลังใจ แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข รวมไปถึงประชาชน ในเขตพื้นที่ตำบลนาทม อำเภอนาทม จังหวัดนครพนม
นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า จากการได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย ในพื้นที่ตำบลนาทม อำเภอนาทม ได้มีกิจกรรมสำคัญดังนี้ 1) ประชุมชี้แจงและมอบแนวทางการปฏิบัติราชการให้กับปลัดอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ เพื่อสร้างความเข้าใจ และสร้างการรับรู้ถึงแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยในพื้นที่ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนกลุ่มเปราะบาง ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน 2) ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานโครงการหมู่บ้านยั่งยืนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และน้อมนำแนวทางพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” มีการส่งเสริมให้ประชาชนร่วมกันปลูกพืชผักสวนครัว สามารถลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ สามารถ เสริมสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน และเป็นการส่งเสริมการขับเคลื่อนกิจกรรมวันดินโลก ( World Soil Day) ของกระทรวงมหาดไทย ที่มุ่งมั่นสร้างการรับรู้ตามแนวคิด ” ดินดี น้ำดี ชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน ” ให้เกิดการจัดการและอนุรักษ์ดิน และน้ำ ซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญของชีวิต ทำให้สังคม ชุมชน และโลกมีแหล่งผลิตอาหารที่มีคุณภาพ สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ 3) ชี้แจงแนวทางการดำเนินโครงการธนาคารขยะ (Recyclable Waste Bank) ซึ่งรับซื้อขยะรีไซเคิลจากประชาชนในพื้นที่ และนำมาจัดทำเป็นกองทุนฌาปนกิจศพหรือแบ่งปันผลประโยชน์ และใช้พัฒนาในพื้นที่หมู่บ้านตำบล ให้ประชาชนรู้จักแยกขยะ และนำขยะที่มีมูลค่ามาจำหน่ายให้กับธนาคารขยะในพื้นทึ่ ลดปริมาณขยะในพื้นที่ สร้างรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง 4) ตรวจติดตามการดำเนินงานตามนโยบาย “หน้าบ้านน่ามอง นครพนมน่าอยู่” ดำเนินกิจกรรม 5 ส. พัฒนาสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอก และเสริมสร้างความพร้อมในการให้บริการประชาชน นำการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ” Change for Good 5) ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากกรณีฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่อำเภอนาทม คาดการณ์ว่าจะได้รับความเสียหายประมาณ 5,000 ไร่ หากปริมาณฝนยังไม่ลดลง โดยตนได้สั่งการให้ นายอำเภอนาทมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอให้นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกตำบลในพื้นที่ เตรียมความพร้อมในการสำรวจและให้ความช่วยเหลือประชาชนตามอำนาจหน้าที่ พร้อมให้เกษตรอำเภอรายงานความคืบหน้าของสถานการณ์ และคาดการณ์ความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับพืชผลทางการเกษตรของประชาชนด้วย
นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวต่อไปว่า หลังจากนั้นตนได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมครัวเรือนกลุ่มเปราะบาง เพื่อเตรียมดำเนินการสร้างความมั่นคงทางด้านที่อยู่อาศัยให้กับประชาชน จำนวน 3 ราย ได้แก่ รายที่ 1 ราษฎรชาวตำบลนาทม อำเภอนาทม เป็นผู้มีอาการผิดปกติทางจิตเวช ต้องได้รับการดูแล และได้รับยาอยู่เป็นประจำ และไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ โดยอาศัยอยู่กับบุตรสาว 2 คน จึงได้ช่วยเหลือปรับปรุงที่อยู่อาศัย ให้มีความมั่นคงถาวรมากยิ่งขึ้น และประสานภาคีเครือข่ายให้การสนับสนุนบุตรสาวทั้ง 2 คน ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง รายที่ 2 ราษฎรชาวตำบลดอนเตย อำเภอนาทม อาศัยอยู่รวมกันกับบุคคลในครอบครัวจำนวน 18 คน ทำให้ที่อยู่อาศัยมีความคับแคบ ห้องสุขาไม่ถูกสุขลักษณะ และมีสภาพที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสม จึงเห็นควรดำเนินการให้ความช่วยเหลือในการปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้มีความมั่นคงถาวร และมีห้องสุขาที่ถูกสุขลักษณะ เพียงพอต่อจำนวนผู้อาศัยอยู่ในครัวเรือน พร้อมนี้ได้มอบหมายให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ดำเนินการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งบัตรผู้พิการ และบัตรผู้สูงอายุ ให้แก่บุคคลในครัวเรือนที่มีคุณสมบัติ พร้อมสั่งการให้ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม ดำเนินการสำรวจสิทธิ์ และให้ความช่วยเหลือสงเคราะห์ต่อไป และรายที่ 3 ราษฎรชาวตำบลหนองซน อำเภอนาทม อาศัยอยู่ในบ้านพักเพียงลำพัง เป็นผู้สูงอายุ ไม่มีรายได้ โครงสร้างหลังคาของที่อยู่อาศัย ชำรุดสึกกร่อน ระบบไฟฟ้าภายในครัวเรือนเสื่อมสภาพตามตามเวลา และไม่ได้มาตรฐาน ตนจึงได้สั่งการให้ดำเนินการสำรวจ ออกแบบ และเตรียมการให้ความช่วยเหลือ ในการปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้มีความมั่นคงถาวร ปลอดภัย เหมาะสำกรับแก่ผู้สูงอายุ ตลอดจนปรับปรุงระบบไฟฟ้าภายในครัวเรือนให้ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัย ป้องกันการเกิดเหตุอัคคีภัยเนื่องจากไฟฟ้าลัดวงจร ความปลอดภัยให้กับชีวิตและทรัพย์สิน ให้กับครัวเรือนดังกล่าว
.
“นอกจากนี้ ตนได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข ประจำโรงพยาบาลอำเภอนาทม ซึ่งถือเป็นพื้นที่ห่างไกล และมีปัจจัยสิ่งอำนวยความสะดวกน้อย โดยพบปะเจ้าหน้าที่ มอบโอวาทให้กำลังใจ กล่าวขอบคุณที่ทุ่มเทและเสียสละตนทำงานในพื้นที่ห่างไกลและยากลำบาก เพื่อดูเเลสุขภาพ อนามัย ให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นการทำงานต่างพระเนตรพระกรรณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการดูและสุขภาพพลานามัยของราษฏรในพื้นที่อำเภอนาทม และได้เป็นตัวแทนประชาชนชาวอำเภอนาทม มอบตระกร้าผลไม้ ให้กำลังใจให้กับคณะแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ประจำโรงพยาบาลอำเภอนาทม โดยผลไม้ทั้งหมดเป็นผลผลิตของชาวอำเภอนาทม แทนคำขอบคุณของประชาชนชาวอำเภอนาทม ณ พื้นที่ ตำบลนาทม ตำบลหนองซน และตำบลดอนเตย อำเภอนาทม จังหวัดนครพนม
นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวในช่วงท้ายว่า ในการมอบนโยบายครั้งนี้ ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ตนได้เดินทางมาติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่อำเภอนาทมซึ่งเป็นพื้นที่ที่ห่างไกล และประชาชนต้องการความช่วยเหลือจากทางส่วนราชการเป็นจำนวนมาก ดังนั้น จึงขอเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องทำงานด้วยกระบวนการสร้างทีมงานเครือข่ายที่เข้มเเข็งแล้ว ยึดพี่น้องประชาชนเป็นศูนย์กลางมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกมิติ โดยเฉพาะพี่น้องกลุ่มเปราะบาง เพื่อหาเเนวทางในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างเท่าเทียมเเละเสมอภาค สิ่งสำคัญของการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข คือ การสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ซึ่งข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของภาครัฐต้องอุทิศกายและใจเพื่อส่วนรวมในการที่จะเป็นตัวเชื่อมประสาน เป็นโซ่ข้อกลางให้กับทุกภาคส่วน และเป็นผู้ขับเคลื่อนงานในพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นรูปธรรม ตามปณิธานแห่งการ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข นอกจากนี้ ขอประชาสัมพันธ์ให้เจ้าหน้าที่และพี่น้องประชาชนทุกคน หมั่นติดตามสถานการณ์ฝนตกหนัก และเตรียมตัวรับมือกับน้ำท่วมพื้นที่ทางการเกษตรและที่อยู่อาศัย โดยถ้าหากพี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบ หรือต้องการความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ สามารถโทรสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 และสายด่วนนิรภัย 1784 ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง