จังหวัดลำพูน จัดงาน “ครบรอบ 10 ปี ศูนย์ดำรงธรรม” ประชาชนปลื้มใจ ผู้ว่าฯ ลำพูน เข้ารับเรื่องร้องทุกข์ด้วยตนเอง

จังหวัดลำพูน จัดงาน “ครบรอบ 10 ปี ศูนย์ดำรงธรรม” ประชาชนปลื้มใจ ผู้ว่าฯ ลำพูน เข้ารับเรื่องร้องทุกข์ด้วยตนเอง และเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องทำงานด้วยจิตอาสา พร้อมบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้สังคมอย่างเต็มกำลัง

วันนี้ (6 ส.ค. 67) นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า ตนได้เป็นประธานในการจัดงาน “ครบรอบ 10 ปี ศูนย์ดำรงธรรม นำสุขสู่ปวงชน” ของจังหวัดลำพูน โดยมีคณะผู้บริหารส่วนราชการระดับจังหวัด/อำเภอ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ภาคีเครือข่าย และประชาชน เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก ซึ่งภายในงานได้มีการนำเสนอผลการดำเนินงานที่โดดเด่นตลอด 10 ปีที่ผ่านมา และในปี 2567 นำเสนอการแก้ไขปัญหาการจัดการตลาดทาดอยแก้ว ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับเขตตรวจราชการที่ 15 และกำลังพิจารณาในระดับประเทศ การมอบใบประกาศนียบัตรให้แก่หน่วยงานที่ให้การช่วยแก้ไขปัญหา เรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ จำนวน 63 หน่วยงาน และเยี่ยมชมนิทรรศการผลงานที่โดดเด่นของศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ทั้ง 8 อำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในระหว่างการจัดกิจกรรม ได้มีหญิงสูงวัยท่านหนึ่งเข้ามาขอคำปรึกษา เพื่อจะช่วยเหลือเพื่อนบ้านสูงวัยที่เคยประสบอุบัติเหตุจนกลายเป็นผู้พิการทางสมอง ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียว และมีฐานะยากจน โดยตนในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนได้ดำเนินการรับคำร้องขอความช่วยเหลือที่ทางศูนย์ดำรงธรรมด้วยตนเอง

นายสันติธร กล่าวว่า จากกรณีการร้องขอความช่วยเหลือเพื่อนบ้านดังกล่าว ซึ่งได้พูดคุยถึงความเดือดร้อนและได้เป็นผู้รับเรื่องขอความช่วยเหลือด้วยตนเอง โดยนางเครือพรรณ อินทะมา ชาวบ้านอำเภอแม่ทา มีความต้องการขอความช่วยเหลือให้แก่เพื่อนบ้านของตนเองที่ประสบปัญหาฐานะยากจน อาศัยอยู่บ้านตัวคนเดียว ประกอบกับด้วยวัยสูงอายุ และขาดคนคอยดูแล ทำให้สภาพความเป็นอยู่มีคุณภาพชีวิตที่ยากลำบากเป็นอย่างมาก และบ่อยครั้งที่เพื่อนบ้านคนดังกล่าวต้องขอความช่วยเหลือจากนางเครือพรรณอยู่เสมอ เมื่อได้รับฟังการร้องทุกข์ดังกล่าว ตนจึงได้สั่งการให้ นายบุญส่ง ไชยมณี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดลำพูน นายจรัส ช่างเรือน ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำพูน นายประกอบ ยอดยา นายอำเภอแม่ทา พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดลำพูน เหล่ากาชาดจังหวัดลำพูน และแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดลำพูน บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้ความช่วยเหลือ โดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จะได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยือนความเป็นอยู่ สำรวจคุณภาพชีวิตของผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ และสนับสนุนสิ่งของที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตให้แก่เพื่อนบ้านของนางเครือพรรณต่อไป

นายสันติธร กล่าวต่อว่า วันนี้ตนรู้สึกปลื้มใจที่ได้เห็นพลังแห่ง จิตอาสา ของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดลำพูน ที่มีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือเพื่อนบ้าน โดยได้เข้ามาร้องทุกข์กับศูนย์ดำรงธรรม ซึ่งถึงแม้ว่าเรื่องราวที่ร้องทุกข์ดังกล่าวจะไม่ได้เกิดขึ้นกับตนเอง แต่ก็ยังมีความปรารถนาดีที่อยากให้ทางจังหวัดลำพูนเข้าช่วยเหลือเพื่อนบ้านให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เมื่อตนได้รับฟังเรื่องราวเหล่านี้ก็ทำให้รู้สึกมีกำลังใจที่อยากเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับบุคลากรของหน่วยงานภาครัฐให้มี Passion ในการ Change for Good เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ที่ไม่อาจเข้าถึงบริการของภาครัฐด้วยตนเอง ซึ่งตนจะนำเรื่องนี้ไปใช้เป็นตัวอย่างในการนำเสนอต่อที่ประชุมส่วนราชการต่าง ๆ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความงดงามทางจิตใจของชาวลำพูนที่ตั้งมั่นพร้อมจะทำดีแก่สังคม พร้อมเชื่อมั่นว่ายังมีผู้ที่มีจิตอาสาแบบเดียวกับคุณป้าท่านนี้อีกทั่วประเทศ ซึ่งตนจะนำกรณีนี้ไปเป็นแบบอย่างที่ดีในการทำงานให้กับทุกภาคส่วนจะต้องลงพื้นที่ดูแลความทุกข์ร้อนของประชาชนในลักษณะ “รองเท้าสึกก่อนกางเกงขาด” เพื่อให้ได้รับทราบถึงทุกปัญหาและสามารถเข้าช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที

นายสันติธร กล่าวในช่วงท้ายว่า เนื่องในโอกาสการครบรอบ 10 ปี ศูนย์ดำรงธรรมในปีนี้ ตนขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมทุกคนที่ได้ตั้งใจทำหน้าที่ราชสีห์ผู้จงรัก ภักดีต่อแผ่นดิน รวมถึงภาคีเครือข่ายทุก ๆ หน่วยงาน ที่คอยมีส่วนช่วยและสนับสนุนการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และมุ่งมั่นบำบัดทุกข์ บำรุงสุข มาตลอดระยะเวลา 10 ปี โดยมีรางวัล และผลการดำเนินงานที่โดดเด่นเป็นเครื่องการันตีความดีที่ได้ทำมาให้ประจักษ์แก่สายตาของทุกคนในทั่วทั้งงานของวันนี้ ตนจึงขอฝากให้ทุกท่านได้ยึดถือ คำว่า “จิตอาสา” ให้เป็นพลังของการทำความดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เพราะความดีอยู่เหนือสิ่งอื่นใดทั้งปวง ดังนั้น เมื่อเราในฐานะข้าราชการที่เป็นคนของประชาชน ได้ตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ ความดีเหล่านั้นก็จะช่วยหนุนนำ ส่งเสริมให้ทุกท่านในที่นี้พบเจอแต่ความงดงามของชีวิต ได้ช่วยพัฒนาสังคมให้เกิดสุขที่ยั่งยืน จากการที่เราได้เป็นหนึ่งในฟันเฟืองคอยสนับสนุนให้พี่น้องประชาชนได้หันมาดูแลซึ่งกันและกัน พึ่งพาอาศัยกันควบคู่กับการพัฒนาระบบให้บริการประชาชนให้เข้าถึงง่ายและสะดวกต่อพี่น้องประชาชนมากยิ่งขึ้น

“ทั้งนี้ ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ไว้ใจศูนย์ดำรงธรรมมาตลอด 10 ปี โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุก ๆ ท่าน จะเป็นคนที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาสังคม ไปด้วยกัน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”

#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #MOI