เปรียบเทียบการทำ PESA ด้านราคากับวิธีมีบุตรอื่น ๆ

“การทำ PESA มีราคาเท่าไร คุ้มไหม ?”

การมีบุตรเป็นความฝันของคู่สมรสหลายคู่ แต่บางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะสำหรับคู่ที่มีปัญหาเรื่องการมีบุตร วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงวิธีการต่างๆ ในการมีบุตร โดยเน้นที่วิธีการทำ PESA และเปรียบเทียบราคากับทางเลือกอื่น ๆ

 

PESA คืออะไร ?

PESA (Percutaneous Epididymal Sperm Aspiration) เป็นวิธีการเก็บอสุจิโดยตรงจากท่อน้ำอสุจิ (epididymis) ด้วยการใช้เข็มเจาะผ่านผิวหนัง วิธีนี้มักใช้ในกรณีที่ผู้ชายมีปัญหาท่อน้ำอสุจิอุดตันหรือไม่มีอสุจิในน้ำอสุจิ

ค่าใช้จ่ายในการทำ PESA ค่าใช้จ่ายในการทำ PESA ในประเทศไทยอยู่ที่ราคาประมาณ 30,000 – 50,000 บาท ขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลและปัจจัยอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงค่าใช้จ่ายเริ่มต้น เนื่องจากหลังจากเก็บอสุจิได้แล้ว คู่สมรสยังต้องทำการปฏิสนธินอกร่างกาย (IVF) ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกประมาณ 150,000 – 300,000 บาทต่อรอบ

 

เปรียบเทียบกับวิธีอื่น ๆ

1. การตั้งครรภ์ตามธรรมชาติ ค่าใช้จ่าย: ฟรี (ไม่รวมค่าฝากครรภ์และคลอด) ข้อดี: ไม่มีค่าใช้จ่ายในการปฏิสนธิ เป็นวิธีที่ธรรมชาติที่สุด ข้อเสีย: อาจไม่เหมาะสำหรับคู่ที่มีปัญหาการมีบุตร

2. การฉีดเชื้อ (IUI) ค่าใช้จ่าย: 10,000 – 30,000 บาทต่อรอบ ข้อดี: ราคาถูกกว่า IVF มาก เหมาะสำหรับคู่ที่มีปัญหาเล็กน้อย ข้อเสีย: อัตราความสำเร็จต่ำกว่า IVF

3. การปฏิสนธินอกร่างกาย (IVF) ค่าใช้จ่าย: 150,000 – 300,000 บาทต่อรอบ ข้อดี: มีอัตราความสำเร็จสูงกว่า IUI ข้อเสีย: ค่าใช้จ่ายสูง อาจต้องทำหลายรอบ

4. การรับบุตรบุญธรรม ค่าใช้จ่าย: 20,000 – 100,000 บาท (ขึ้นอยู่กับวิธีการและองค์กรที่ดำเนินการ) ข้อดี: ให้โอกาสเด็กที่ขาดครอบครัว ค่าใช้จ่ายอาจต่ำกว่าวิธีอื่นๆ ข้อเสีย: กระบวนการอาจใช้เวลานาน มีข้อจำกัดทางกฎหมาย

5. การอุ้มบุญ ค่าใช้จ่าย: 500,000 – 1,500,000 บาท ข้อดี: เหมาะสำหรับคู่ที่มีปัญหาการตั้งครรภ์รุนแรง ข้อเสีย: ค่าใช้จ่ายสูงมาก มีประเด็นทางกฎหมายและจริยธรรม

 

สรุป: คุ้มค่าหรือไม่ ?

การตัดสินใจว่าวิธีไหนคุ้มค่าที่สุดขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ไม่ใช่แค่เรื่องค่าใช้จ่ายเพียงอย่างเดียว

สำหรับการทำ PESA นั้น แม้จะมีราคาสูง แต่ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคู่สมรสที่ฝ่ายชายมีปัญหาเฉพาะทาง เช่น ท่อน้ำอสุจิอุดตัน โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับการอุ้มบุญที่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่ามาก

อย่างไรก็ตาม หากคู่สมรสไม่มีปัญหาร้ายแรง การลองวิธีที่มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าอย่าง IUI ก่อน อาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่า

สุดท้ายแล้ว การตัดสินใจเลือกวิธีมีบุตรนั้นเป็นเรื่องส่วนตัว และควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาวิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละคู่ โดยคำนึงถึงทั้งปัจจัยทางการแพทย์ ค่าใช้จ่าย และความพร้อมทางจิตใจ •