ปลัด มท. ประชุมผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด เน้นย้ำ ชาวมหาดไทยต้องมุ่งมั่นตั้งใจทำหน้าที่ข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สนองพระราชปณิธาน “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข”

ปลัด มท. ประชุมผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด เน้นย้ำ ชาวมหาดไทยต้องมุ่งมั่นตั้งใจทำหน้าที่ข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สนองพระราชปณิธาน “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข” เพราะความดีจะเป็นเกราะคุ้มครองพวกเราทุกคนในการนำปณิธานอันแรงกล้าสู่การปฏิบัติบูชา “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

วันนี้ (28 พ.ค. 67) เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมราชบพิธ ชั้น 5 อาคารดำรงราชานุสรณ์ กระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย และการเตรียมความพร้อมจัดพิธีพลีกรรมตักน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ โดยได้รับเกียรติจาก นายจำลอง ยิ่งนึก รองผู้อำนวยการกองพระราชกิจในพระองค์ 904 สำนักพระราชวัง ร่วมประชุม โดยมี รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย อธิบดี หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม โดยเป็นการประชุมผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (VCS) มีรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ร่วมรับฟัง

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า เช้าวันนี้ชาวมหาดไทยได้มีโอกาสสำคัญยิ่งของชีวิตที่ได้ร่วมพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน และดื่มน้ำพระพุทธมนต์เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณตน เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อถวายความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมราชจักรีวงศ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลโดยพร้อมเพรียงกันที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร อันเป็นวัดประจำพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช องค์ปฐมกษัตริย์ รัชกาลที่ 1 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ซึ่งใต้ฐานพุทธอาสน์พระพุทธเทวปฏิมากร พระประธานพระอุโบสถ เป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จึงถือเป็นศุภนิมิตที่ข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีและมีกุศลเจตนาในการตั้งใจบำบัดทุกข์ บำรุงสุข และรับใช้สนองพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงเป็นองค์พระประมุขของประเทศชาติ ตลอดจนถึงพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ผู้ทรงด้วยทศพิธราชธรรม เพื่อความสุขของอาณาประชาราษฎรทั่วราชอาณาจักรไทย และเพื่อให้พิธีศักดิ์สิทธิ์อันเป็นสวัสดิมงคลนี้ได้สืบทอดส่งต่อไปยังข้าราชการมหาดไทย จึงขอสั่งเป็นพินัยกรรมปลัดกระทรวงมหาดไทย คนที่ 41 ให้เรายึดถือปฏิบัติว่า “ให้มีการจัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดินในทุกปี” เพื่อเป็นการแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีของชาวราชสีห์ และสำหรับการจัดพิธีในวันนี้ ต้องขอขอบคุณ อ.ธงชัย ลิขิตพรสวรรค์ (อ.อ้วน) ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่เป็นจิตอาสารับเป็นบรรณาธิการประมวลรวบรวมจัดทำหนังสือกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งหนังสือเล่มนี้ จะเป็นหนังสือประวัติศาสตร์ที่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด สามารถนำตัวอย่างการจัดพิธีต่าง ๆ ไปประยุกต์ใช้ในการจัดทำมรดกอันล้ำค่าของบรรพบุรุษในทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของในแต่ละพื้นที่ อันจะเป็นประโยชน์ให้กับอนุชนคนรุ่นหลังต่อไป

“การจัดพิธีในครั้งนี้ เป็นสิริมงคลแก่ชาวมหาดไทยทุกคนผู้มีความมุ่งมั่นในปณิธานแห่งการเป็นข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยใจรุกรบทำหน้าที่ดูแลพี่น้องประชาชน ตลอดจนสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าภายใต้การนำของผู้ว่าราชการจังหวัด เราจะตั้งใจดูแล “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” พี่น้องประชาชน เปรียบเสมือนพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาซึ่งเป็นวัฒนธรรมประเพณีของบรรพบุรุษเพื่อปฏิญานตนเป็นคนดีซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถนำไปพิจารณาจัดในจังหวัดของเราตามความเหมาะสม และขอให้เรายึดมั่นในคำปฏิญาณที่ได้ถวายสัตย์ฯ ความตอนหนึ่งว่า “เราจะทำจนกว่าชีวิตจะหาไม่” เพื่อสนองพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งแม้ว่าชีวิตราชการจะต้องสิ้นสุดเมื่อครบ 60 ปี แต่การเป็นจิตอาสาทำความ ดี ด้วยหัวใจ เราเป็นได้จนกว่าชีวิตจะหาไม่” นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงต้น

นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับพิธีมอบธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อให้ทุกจังหวัดนำไปจัดกิจกรรมเดิน วิ่ง ปั่น ธงตราสัญลักษณ์ฯ เพื่อเชิญธงมาร่วมประกอบพิธีเชิญน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่กระทรวงมหาดไทย ซึ่งกิจกรรมนี้จะทำให้คนไทยทุกคนได้มีโอกาสร่วมเฉลิมฉลองด้วยการร่วมกันออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ โดยทุกจังหวัดต่างพร้อมใจกันที่จะถวายพระพรชัยมงคล เพื่อถวายความจงรักภักดีภายใต้การนำของผู้ว่าราชการจังหวัด ควบคู่กิจกรรมการอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณี การละเล่น การแสดงพื้นบ้าน และร่วมกับ “ครูจิตอาสา” หรือวิทยากรผู้บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ชาติไทยประจำท้องถิ่นของจังหวัด บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ในจุดจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของแต่ละจังหวัด ซึ่งขณะนี้กระทรวงมหาดไทยได้รับการสนับสนุนจากศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน (ศอญ.) นำสารคดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเผยแพร่พระราชประวัติและพระราชกรณีกิจของพระองค์ จึงขอให้ทุกจังหวัดจัดเก็บบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว เพื่อเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ของพื้นที่ และใช้เผยแพร่ในโอกาสต่าง ๆ ต่อไป

“ขอขอบคุณพี่ ๆ น้อง ๆ ทุกท่านที่ช่วยกันขับเคลื่อนงานของพวกเราในการทำให้เกิดสิ่งที่ดี ด้วยการเทิดทูนไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติ อันประกอบด้วย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพื่อประโยชน์สุขที่ยั่งยืนของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน และวันพรุ่งนี้จะเป็นอีกวันสำคัญที่ผู้ว่าราชการทุกท่าน จะได้เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนทุกจังหวัด ในฐานะข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้เป็นขุนนางต่างพระเนตรพระกรรณดูแล “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับพี่น้องประชาชน จะได้เป็นตัวแทนของจังหวัดปลูกต้นไม้ประจำจังหวัด ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อสนองพระราชปณิธานที่แน่วแน่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการเฉลิมพระเกียรติและอำนวยความสุขให้แก่อาณาประชาราษฎร ด้วยการเพิ่มต้นไม้ในสวนสาธารณะและพื้นที่แห่งองค์ความรู้ ตามที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานพระราชดำริให้คนไทย ทั้งในเรื่องทฤษฎีใหม่หรืออารยเกษตร การบริหารจัดการพื้นที่ให้เกิดประโยชน์ ด้วยการพัฒนาทำให้เกิดพื้นที่สีเขียว เกิดผลประโยชน์ต่อชาวโลก ซึ่งเราได้รับพระบรมราชานุญาตให้นำต้นไม้ประจำจังหวัดมาปลูกในพื้นที่แห่งนี้ ด้วยความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในฐานะตัวแทนของประชาชนคนไทยทุกคน” นายสุทธิพงษ์ กล่าวเน้นย้ำ

นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้ายว่า ขอเน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกท่านมุ่งมั่นตั้งใจทำหน้าที่ข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แม้ว่าพวกเราจะมีภารกิจหน้าที่มากมายมหาศาล แต่หน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดคือต้องรับเป็นธุระภาระในทุกงานของทุกกระทรวง ด้วยการเป็นผู้ประสานบูรณาการทำงานทุกงานให้เกิดผลประโยชน์สุขต่อพี่น้องประชาชน งานทุกงาน กิจกรรมทุกกิจกรรมล้วนเกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้นำการบูรณาการทีม ตามหลักการทรงงาน ร่วมพูดคุย ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับประโยชน์ ด้วยกลไกภาคีเครือข่ายหรือพลัง “บวร” ที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนข้อที่ 17 (Partnership) ตามประกาศเจตนารมณ์ร่วมกับองค์การสหประชาชาติเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และจุดแตกหักอยู่ที่หมู่บ้าน เราทุกคนจึงต้องทำให้ทุกหมู่บ้าน/ชุมชนเป็น “หมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village)” ซึ่งเป็นคำตอบของการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เป็นการปฏิบัติบูชา ทำให้เกิดสิ่งที่ดี “Change for Good” กับพี่น้องประชาชน “ขอให้พวกเรากล้าในการลงมือทำ กล้าในการนำปณิธานอันแรงกล้าของกระทรวงมหาดไทย ไปทำสิ่งที่ดีให้เกิดขึ้น “เพราะความดีจะเป็นเกราะคุ้มครองพวกเราทุกคน” เราจึงต้องทำทันที ทำทุกที่ ทุกเวลา ทุกโอกาส เพื่อประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข อย่างยั่งยืน