เผยแพร่ |
---|
ปลัด มท. พร้อมด้วย นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เปิดประชุมสมาคมแม่บ้านมหาดไทยสัญจร ครั้งที่ 3 พื้นที่ภาคใต้ ภายใต้โครงการอบรมเพิ่มประสิทธิภาพผู้นำในการเสริมสร้างบทบาทของหมู่บ้านสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน เน้นย้ำ สมาชิกสมาคมแม่บ้านมหาดไทยคือหุ้นส่วนคนสำคัญของผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ ในการ “Change for Good” เพื่อให้เกิดสิ่งที่ดีกับพี่น้องประชาชนอย่างยั่งยืน
วันนี้ (15 ก.พ. 67) เวลา 13.45 น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมสมาคมแม่บ้านมหาดไทยสัญจร ครั้งที่ 3 พื้นที่ภาคใต้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (Carbon Neutral Event) ภายใต้โครงการอบรมเพิ่มประสิทธิภาพผู้นำในการเสริมสร้างบทบาทของหมู่บ้านสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ระหว่างวันที่ 15 – 16 กุมภาพันธ์ 2567 ณ โรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางบุษดี สุวรรณรัตน์ ประธานชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดภูเก็ต ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย คณะอุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย คณะที่ปรึกษานายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย คณะที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานองค์กรสตรี ผู้นำกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ประธานแม่บ้านมหาดไทยและภาคีเครือข่ายในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดกระบี่ ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พัทลุง พังงา ภูเก็ต ยะลา ระนอง สงขลา สตูล และสุราษฎร์ธานี รวม 300 คน ร่วมกิจกรรม
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณพี่น้องสมาชิกสมาคมแม่บ้านมหาดไทยทุกคนที่ให้ความสำคัญกับการที่จะช่วยสนับสนุนส่งเสริมผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอให้ทำภารกิจในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้ได้ผลดีเพิ่มมากยิ่งขึ้น ขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตที่อำนวยความสะดวกและให้การดูแลในการจัดประชุมแม่บ้านมหาดไทยสัญจรครั้งที่ 3 พื้นที่ภาคใต้ ทำให้พวกเราได้มีความสุขมากยิ่งขึ้น ซึ่งการมาประชุมสัมมนาที่จังหวัดภูเก็ตนี้ พวกเราจะได้สาระที่เป็นประโยชน์ทั้งต่อตนเองและต่อผู้อื่น เพราะการประชุมแม่บ้านมหาดไทยสัญจรทั้ง 4 ภาค เราได้รับเกียรติจาก พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน ภริยานายกรัฐมนตรี มาบรรยายให้ความรู้กับพวกเรา ซึ่งพวกเราทุกคนจะได้มีความสุขและได้รับประโยชน์ ซึ่งประโยชน์นี้จะได้เผื่อแผ่ให้กับพี่น้องประชาชนคนที่อยู่ในจังหวัดได้ การบรรยายของท่านยังทำให้เราได้สำนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานโครงการในพระราชดำริ โครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” ที่พระองค์ให้ความสำคัญยิ่งต่อการที่ประชาชนมีสุขภาพพลานามัยที่ดี แข็งแรง และมีอายุยืนยาว ซึ่งเป้าหมายของการประชุมสัมมนาครั้งนี้ เราส่งเสริมมุ่งเน้นให้แม่บ้านมหาดไทยได้มีความมั่นอกมั่นใจในการขับเคลื่อนงานเพิ่มมากขึ้น และจะได้มีความเชื่อมั่นในความรู้ในแนวปฏิบัติ ในการช่วยกัน “Change for Good” ให้เกิดขึ้นกับโลกใบนี้ ทั้งเรื่องของการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือก๊าซเสียที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน ที่จะช่วยเติมเต็มให้เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (SDGs) ที่ผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัดร่วมกับองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย ร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนให้เกิดผลทางการปฏิบัติมากยิ่งขึ้น
“ขอขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมประชุม และขอให้มีความสุขที่ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายของกระทรวงมหาดไทยในการเป็นหุ้นส่วนไปช่วยกันทำหน้าที่อันจะก่อให้เกิดสิ่งที่ดีกับพี่น้องประชาชน ตามปณิธานของพวกเรา ครอบครัวราชสีห์ผู้มีความจงรักภักดีต่อแผ่นดิน คือ การบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน จึงขอให้พวกเราทำให้ความเชื่อ ความศรัทธาที่ผู้บริหารของกระทรวงมหาดไทยได้มั่นอกมั่นใจ ช่วยกันทำให้พี่น้องที่ตกทุกข์ได้ยากได้เห็นว่าพวกเราเป็นคนสำคัญที่จะช่วยเหลือพี่น้องในพื้นที่ทุกจังหวัดและทุกอำเภอของเราได้มีโอกาสที่ดีในชีวิต และขอฝากให้พวกเราช่วยกันเก็บเกี่ยวเอาสิ่งที่ดี เพราะความสำคัญของการพัฒนาตนเองคือ การประชุมพูดคุยแลกเปลี่ยนร่วมกัน อันจะนำไปสู่การร่วมกันทำสิ่งที่ดี ขอขอบคุณ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ที่มีความคิดริเริ่มที่จัดกิจกรรมที่ดี ขอให้การประชุมสัมมนาในครั้งนี้ได้เกิดผลสำเร็จ สมกับที่ทุกคนตั้งใจมาร่วมประชุม และตั้งใจจะไปทำสิ่งที่ดี “Change for Good” ให้เจริญรุ่งเรือง ทำให้ประชาชนคนไทยได้มีอายุยืนยาวและมีความสุขอย่างยั่งยืน และได้ไปร่วมกันกับผู้ว่าราชการจังหวัดในการทำหน้าที่ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับพี่น้องประชาชน” นายสุทธิพงษ์ ฯ กล่าวเพิ่มเติม
ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดภูเก็ตที่อำนวยความสะดวกในการจัดประชุมแม่บ้านมหาดไทยสัญจรครั้งที่ 3 ภาคใต้ในครั้งนี้ พวกเราทุกคนเป็นสมาชิกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ซึ่งทุกคนที่มาในวันนี้เป็นประธานแม่บ้านมหาดไทย เป็นนายกเหล่ากาชาด ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง จึงถือว่าเป็นข้าราชบริพารที่ถวายงานแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ซึ่งเราได้ถวายงานโดยตรงกับสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ที่พระองค์ท่านทรงทุ่มเทพระวรกาย บำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อให้ประชาชนคนไทยได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี แม้ว่าพระองค์ท่านจะมีชนมายุ 68 ปีแล้ว แต่ยังคงทรงงานหนักไม่หยุดพัก พระองค์ท่านได้พระราชทานโครงการในพระราชดำริ ซึ่งสมาชิกแม่บ้านมหาดไทยได้ขับเคลื่อนโดยน้อมนำแนวพระราชดำริ ทำให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน อาทิ โครงการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” โดยการปลูกพืชผักสวนครัว การดูแลสุขภาพอนามัยของแม่และเด็ก ให้เติบโตอย่างถูกต้องตามหลักเกณฑ์มาตรฐานสุขลักษณะ ทำให้เด็กได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนในการเจริญเติบโต พระองค์ได้พระราชทานโครงการต่าง ๆ มากมาย เพื่อให้ประชาชนคนไทยได้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง อันจะนำไปสู่การมีความสุขอย่างยั่งยืน
“นอกจากนี้ สมาคมแม่บ้านมหาดไทยได้ขับเคลื่อนโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยการส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนคนไทยได้สวมใส่ผ้าไทยในทุกโอกาส ส่งเสริมยกระดับงานหัตถศิลป์หัตถกรรมที่เป็นภูมิปัญญาไทย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก นำรายได้หมุนเวียนกลับคืนสู่คนไทย สร้างรายได้กระจายสู่ชุมชน ทำให้ประชาชนคนไทยได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี รวมถึงการขับเคลื่อนโครงการ “ครอบครัวมหาดไทยใส่ใจสิ่งแวดล้อม” โดยการจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อนและธนาคารขยะ สามารถรับรองคาร์บอนเครดิต ซึ่งจะเป็นรายได้กลับสู่ชุมชน ในส่วนของโครงการธนาคารคัดแยกขยะ (Recycle Waste Bank) สามารถลดปริมาณขยะในชุมชน เป็นกองทุนขยะให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำรายได้กลับไปพัฒนาชุมชน และเป็นสวัสดิการให้กับชุมชนอีกด้วย ซึ่งสมาคมแม่บ้านมหาดไทยมีความมุ่งหวังอย่างยิ่งที่จะเห็นท่านประธานแม่บ้านมหาดไทยทุกจังหวัดได้ขับเคลื่อนโครงการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี รวมถึงโครงการให้การช่วยเหลือผู้ยากไร้ โครงการบ้านปันสุข โครงการรถเข็นนั่งปันสุข อันจะเป็นการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับพี่น้องประชาชน” ดร.วันดี ฯ กล่าว
ด้านนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า ในนามของผู้เข้าร่วมการประชุมขอขอบพระคุณท่านปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นอย่างสูง ที่กรุณาให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมสมาคมแม่บ้านมหาดไทยสัญจร ครั้งที่ 3 พื้นที่ภาคใต้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ภายใต้โครงการอบรมเพิ่มประสิทธิภาพผู้นำในการเสริมสร้างบทบาทของหมู่บ้านสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 และขอขอบพระคุณท่านนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทยที่กรุณาขับเคลื่อนการดำเนินงานของสมาคมแม่บ้านมหาดไทย โดยเฉพาะการประชุมในครั้งนี้เป็นดำริของท่านนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทยในการกำหนดเป้าหมายในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ หรือที่เรียกว่า “Carbon Neutral Event” โดยถือเป็นครั้งแรกของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับนโยบายในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน เริ่มจากการพัฒนาโครงสร้างทางการปกครองขนาดเล็กและสำคัญที่สุด คือ หมู่บ้าน ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการขับเคลื่อนนโยบายให้ก่อเกิดเป็นรูปธรรมที่อาศัยการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการพัฒนาจิตอาสา จิตสาธารณะ ซึ่งกระทรวงมหาดไทย และสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล โดยบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน สู่การพัฒนาจากระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอถึงระดับจังหวัด ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัด ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ กลุ่มอาชีพ กลุ่มสตรี กลุ่มภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐและเอกชน ในฐานะผู้นำที่กำหนดทิศทางการพัฒนาร่วมกัน “Change For Good” สร้างสิ่งที่ดีเพื่อสังคมไทย
“การประชุมในครั้งนี้ กลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย ประธานแม่บ้านมหาดไทย คู่สมรสรองผู้ว่าราชการจังหวัด คู่สมรสหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย คู่สมรสนายอำเภอ ประธานองค์กรคณะกรรมการพัฒนาบทบาทสตรีระดับจังหวัด หัวหน้าคณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีระดับจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ ปลัดอำเภอ ตลอดจนคณะกรรมการหมู่บ้าน กลุ่มอาชีพ กลุ่มสตรี ภาคเอกชนในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ในระดับจังหวัด ประธานชมรม กลุ่มเครือข่ายในระดับจังหวัดและภาค และภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนหมู่บ้านเข้มแข็ง ในพื้นที่ภาคใต้ 14 จังหวัด 151 อำเภอ จำนวนทั้งสิ้น 2,550 คน แบ่งเป็น Onsite ณ โรงแรม ภูเก็ต รอยัล ชิตี้ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต จำนวน 285 คน และ Online จำนวน 2,265 คน” นายอรรษิษฐ์ฯ กล่าว
#WorldSoilDay #วันดินโลก
#UN #FAO #GlobalSoilPartnership #MOI
#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข
#SoilandWaterasourceoflife
#SustainableSoilandWaterforbetterlife
#ดินดีน้ำดีชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน
#SDGsforAll #ChangeforGood