ชวนไปชิม-อิ่มอร่อย มหกรรมอาหารจานเด็ด ซี้ดซ้าดสะท้านเมือง

สําหรับคนไทย “เรื่องกิน-เรื่องใหญ่” ไม่ว่าจะกินคนเดียว กินกับแฟน แก๊งเพื่อน หรือสมาชิกในครอบครัว จนถึงจัดทริปตะลุยเที่ยวตะลอนกินเพื่อสรรหาของกินเด็ดๆ ประจำท้องถิ่น แม้แต่สถานที่ บรรยากาศ รสชาติ และสไตล์ ยังถือเป็นส่วนประกอบของการกินที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจไม่แพ้กัน

แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไป เรื่องอาหารการกินก็ยังคงอยู่ในความสนใจ ไม่น่าแปลกใจที่คนไทยนิยมใช้สื่อโซเชี่ยลอย่างเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมโพสต์แชร์เรื่องกินมาเป็นอันดับหนึ่ง

“ข่าวสด” ในเครือมติชน ซึ่งนำเสนอเนื้อหาเรื่องอาหารการกิน เฉพาะในคอลัมน์หน้า หลาก&หลาย ก็มีทั้ง อิ่มอร่อย-จานเด็ด-สวรรค์ในครัว บวกกับพ็อกเกตบุ๊ก “77 จังหวัด” จับมือร่วมกับ “Starvingtime” บล็อกเกอร์ด้านอาหารชื่อดัง เจ้าแรกและเจ้าเดียวในไทยและเอเชียที่มีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านคนใน อินสตาแกรมและเฟซบุ๊กที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารร้านเด็ดร้านอร่อยชื่อดัง จัดงาน “มหกรรมอาหารจานเด็ด Food Fest 2016” ระหว่างวันที่ 22-25 ก.ย.นี้ ที่เอ็มซีซีฮอลล์ เดอะมอลล์ บางกะปิ

นับเป็นครั้งแรกในการจัดงานที่มีการคัดสรรและรวบรวมอาหารอร่อยเด็ด อาหารฟิวชั่นที่ขายในโซเชี่ยลมีเดียทั้งเฟซบุ๊กและไอจี อาหารจากร้านดัง อาหารท้องถิ่นในแต่ละภูมิภาค และ Food Truck รวมกว่า 180 บูธ พร้อมด้วยกิจกรรมต่างๆ ทั้ง Special Talk คนดังนั่งคุยเรื่องอาหารและธุรกิจอาหาร, สาธิตการทำอาหารเมนูเด็ดจากเชฟชื่อดังจากศูนย์อาชีพและธุรกิจ มติชน (มติชนอคาเดมี) ฯลฯ

ไมเคิล-เกษมศักดิ์ ศิริรักษ์ เจ้าของเพจ “Starvingtime เรื่องกินเรื่องใหญ่” เล่าถึงเทรนด์อาหารไทยในปัจจุบันว่า เทรนด์อาหารในบ้านเราปัจจุบันจะเน้นและให้ความสำคัญกับเรื่องหน้าตาของอาหารมากกว่าคุณภาพของอาหาร แต่เชื่อว่าในอนาคตการเสพสื่อของอาหารในเมืองไทย จะตัดสินใจกันด้วยเรื่องรสชาติของอาหารมากขึ้น

โดยเฉพาะอาหารไทยคนรุ่นใหม่มักจะห่างเหินไปด้วยโลกที่เปลี่ยนไป เพราะอาหารไทยมักจะใช้ระยะเวลาในการทำนาน ซึ่งจะนิยมอาหารฟาสต์ฟู้ดมากยิ่งขึ้นด้วยเหตุที่ทำได้ง่ายและรวดเร็ว ดังนั้นอาหารฟาสต์ฟู้ดจะมีตลาดค่อนข้างเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

“ผมเชื่อว่าการที่เราจะทำให้อาหารไทยและอาหารฟาสต์ฟู้ดมาผสมผสานกัน จะทำให้อาหารไทยนั้นกลับคืนมา เพื่อทำให้คนไทยได้เห็นคุณค่า ประโยชน์ และความสำคัญของอาหารไทย ปัจจุบันนวัตกรรมของอาหารมีความหลากหลาย คนรุ่นใหม่ก็พร้อมที่จะนำอาหารไทยโบราณกลับคืนมาทันที ซึ่งการที่จะทำให้อาหารไทยโบราณกลับคืนมานั้นค่อนข้างใช้ระยะเวลานานจนทำให้คนรุ่นใหม่มองว่า จะทำอะไรที่ทำให้อาหารไทยได้เข้ากับยุคสมัยได้อย่างลงตัว” หนุ่มสตาร์วิ่งไทม์กล่าว

สำหรับอาหารภายในงานนั้น ไมเคิล- เกษมศักดิ์เล่าว่า จะแบ่งอาหารออกเป็น 4 ประเภท คือ โซเชี่ยลฟู้ด ฟิวชั่นฟู้ด ฟู้ดทรัก หรือคาราวานรถอาหาร และ อาหารประจำท้องถิ่นต่างๆ โดยอาหารโซเชี่ยลฟู้ดจะเป็นอาหารที่สามารถถือไปกินได้ที่ทุกคนเห็นแล้วอยากถ่ายรูปอยากแชร์ลงโซเชี่ยลต่างๆ ในขณะที่อาหารฟิวชั่นนั้นจะมีการผสมผสานกันหลากหลายเชื้อชาติ อาทิ ไทยฟิวชั่น

ฟู้ดทรัก (Food Truck) หรือคาราวานรถอาหารนั้นจะมีรูปแบบเหมือนกับที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยขายอาหารบนรถบรรทุกขนาดใหญ่และเล็ก ซึ่งภายในงานจะมีทั้งหมด 5 คัน ประกอบด้วยอาหารประเภทเบอร์เกอร์, สปาเกตตี, สเต๊ก ฯลฯ อาทิ ร้าน Bloc26th Takoyaki ทาโกะยากิลูกหมึกยักษ์ และร้าน Twinsteaks สเต๊กแฝด ฯลฯ รวมทั้งอาหารประจำท้องถิ่นต่างๆ รวมร้านค้าทั้งหมด 180 บูธ

ส่วนอาหารที่จะพบภายในงานขอแนะนำร้าน Doni Nacho เป็นของว่างทานเล่น สไตล์เม็กซิกัน มีท็อปปิ้งเป็นเฟรนช์ฟรายด์จิ้มกับชีสเยิ้มๆ ยืดๆ และจะมีการปรับให้มีลักษณะผสมผสานเป็นไทยฟิวชั่นอีกด้วย

ร้านเหล่านี้จะเป็นร้านที่ออกตามอีเวนต์ต่างๆ โดยการคัดเลือกร้านอาหารจะคัดเลือกอาหารแต่ละประเภทไม่เกิน 3-4 ร้าน ภายในงานจะมีอาหารที่หลากหลาย 100 ประเภท รวมทั้งมีอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพประเภทเฮลตี้และคลีนฟู้ด เช่น กาโนล่า ฯลฯ

เกณฑ์ในการคัดเลือกแต่ละร้านนั้น ไมเคิล- เกษมศักดิ์บอกว่า จากการที่เปิดเพจนี้มาประมาณ 3 ปีกว่า เรามีข้อมูลร้านอาหารร่วม 1,000 ร้าน จึงคัดเลือกร้านที่มีอาหารรสชาติอร่อย และมีวัตถุดิบที่สดสะอาด นอกจากนี้ ยอดไลก์ของแฟนเพจนั้น จะทำให้รู้ว่าอาหารประเภทนั้นชนิดนั้นเป็นโซเชี่ยลฟู้ดหรือไม่ และกลุ่มคนเหล่านั้นสามารถเข้าถึงได้ง่ายหรือไม่

พบว่าอาหารประเภทโซเชี่ยลฟู้ดนั้นคนไทยกดไลก์ของหวานมาเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนอาหารคาวนั้นคนมักจะกดไลก์อาหารที่มีขนาดยิ่งใหญ่อลังการมโหฬาร ดูแปลกตาและหารับประทานที่ไหนไม่ได้ เชื่อว่าใครมางานครั้งนี้จะไม่ผิดหวัง เพราะมีทั้งความหลากหลายและครบเครื่อง และงานนี้สามารถมาได้ทั้งครอบครัว

ด้าน สัญญา จันทร์เหนือ เจ้าหน้าที่ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า งานในครั้งนี้จะเป็นมิติใหม่ในการรวบรวมอาหารและร้านอาหารที่มีความโดดเด่น อยากให้ผู้ที่เข้าร่วมงานได้เข้ามาตะลุยกินอาหารเด็ดอาหารอร่อย ซึ่งจุดเด่นของข่าวสดนั้นมี คอลัมนิสต์ต่างๆ ที่พาไปตระเวนกินอาหารเด็ดๆ อาหารดังในระดับตำนาน การจัดงานในครั้งนี้เป็นการขยายฐานกลุ่มเจเนอเรชั่นต่างๆ ให้กว้างมากขึ้น

“เราคาดหวังว่าผู้เข้าร่วมงานจะมีเยอะมาก ซึ่งเป็นการขยายฐานกลุ่มเจเนอเรเชั่นให้กว้างมากขึ้น โดยเฉพาะงานนี้สามารถมากันได้ทั้งครอบครัว ซึ่งเรามีอาหารที่แตกต่างและหลากหลาย และมีอาหารที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่เช่นกัน คือมาที่เดียวครบทุกอย่าง และงานนี้จะเป็นมิติใหม่ของอาหารที่เป็นเทรนด์สมัยใหม่ รวมทั้งอาหารในระดับตำนานที่ขึ้นชื่อและมีชื่อเสียงโด่งดังมารวมอยู่ในงานนี้ที่นี่ที่เดียว” สัญญากล่าว

สัญญาเล่าถึงรูปแบบการจัดกิจกรรมภายในงานว่า การจัดกิจกรรมจะจัดในรูปแบบสบายๆ จะเชิญจังหวัดต่างๆ ที่มีความโดดเด่นในเรื่องอาหารที่มีความเอร็ดอร่อยในพื้นที่ในจังหวัดนั้น อาทิ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีผัดหมี่เมืองคอน, หมูผัดปลาเค็ม, คั่วกลิ้งไตปลา, ข้าวยำสมุนไพรเมืองคอน, ปลาดุกร้า, ข้าวหมกไก่เมืองคอนสูตรโบราณ ฯลฯ จังหวัดสุรินทร์ มีข้าวเม่าข้าวหอม, ข้าวเกรียบปากหม้อ, ส้มตำร้านเพชรมณี, ส้มตำร้านตำตำตำ มีเมนูส้มตำต้นอ่อนทานตะวัน ฯลฯ ด้านจังหวัดหนองคายมีกาแฟเวียด, หมูยอแม่ถ้วน, แหนมเนือง ฯลฯ

นอกจากนี้ยังมีอาหารและสินค้าโอท็อปแล้วยังมีของฝากของ ที่ระลึกของดีของเด็ดของจังหวัดอื่นๆ อีกด้วย และยังมีร้านข้าวกรอบสยาม, ร้านขนมถังทอง by wawa, ไก่ย่างจีรพันธ์, เกาลัดจากร้านกานต์ พิญชา, ปลาทูทอดจากร้านเติ้ลตั๊ม ปลาทู, ขนมจีนสูตรปลาช่อนแท้จากร้านขนมจีนคุณตุ๊ก ฯลฯ

ส่วนรูปแบบการจัดงานนั้น สัญญาเล่าว่า จะเป็นรูปแบบ Edutainment เป็นการให้ความรู้กึ่งบันเทิงโดยเราจะเชิญดารานักแสดงชื่อดังที่ประกอบอาชีพเกี่ยวกับอาหารมาเล่าถึงประสบการณ์ในการทำธุรกิจต่างๆ ให้ประสบความสำเร็จ พร้อมทั้งเปิดบูธภายในงาน อาทิ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แบรนด์ Domin Mie (โดมินหมี่) ของลิซ่า อลิซาเบธ แซดเลอร์ และ เอมี่ กลิ่นประทุม ดารานักแสดงชื่อดังกับธุรกิจร้านเบเกอรี่ออนไลน์ภายใต้ชื่อแบรนด์ Only Amy’s ฯลฯ

นอกจากนี้ยังมี น้ำผึ้งและน้ำมะนาวสดจากร้านศศิมาน้ำมะนาว, หมูสะเต๊ะจากร้าน O-Ho-Satay, ไก่ทอดจากร้าน Ko-Ke-KOK-Ko, ขนมเปี๊ยะโคราช, องุ่นสด, ผลไม้ และน้ำผลไม้ จากร้านวัชมนฟู้ด, ข้าวเกรียบปากหม้อ จากร้านอุไรวรรณข้าวเกรียบปากหม้อ, ไก่อบโอ่งจากร้านลุงทองใบไก่อบโอ่ง, ซาลาเปาพิซซ่าจาก ร้านลั้งฮวา, ชูโรสจากร้าน Dolly Churros, น้ำมะนาวจากร้าน Lime Juice by Fatboy, สเต๊กปลาดอรี่ แซลมอน และหอยครก จากร้านไข่หอมหอย,

ลูกชิ้นปลาและขนมจีบจากร้านลูกชิ้นปลาอินทรีอิสลาม, อาหารทะเลจาก ร้านมานาซีฟู้ด, น้ำข้าวโพดจากร้าน The Unicorn, ปูนึ่งและหมึกสายจากร้านปูนึ่งนำโชค, ขนมปังสังขยาจากร้านปังพอนด์, หมูย่างจากร้าน Pordee Recipe, น้ำแข็งไสจากร้าน Icecloud, ผลไม้อบแห้งจากร้าน O’ganic dried fruits,

น้ำสตรอว์เบอร์รี่ใส่โยเกิร์ตจากร้าน Yoghurt Berry, สลัดกับปลาดุกฟู จากร้านอาหารม้วนญวน-ไทย, ขนมอบกรอบพ่นควันจากร้าน Smokingjap, ไก่เชคจากร้าน Chic Shake, หมึกทอดไก่ทอดไต้หวันจากร้าน Chicken Hour, เครปจากร้าน Lita Crepe, ซาลาเปาดำและเค้กจากร้านมาดามตวงและขนมครกกอบกับขนมปังสังขยาจากร้านขนมครกกรอบสูตรโบราณ

ภายในงานยังมีการจัดพื้นที่ให้นั่งกิน เพลินๆ พร้อมกับฟังเพลงในรูปแบบที่สบายๆ จัดในรูปแบบเรโทรผสมผสานกับป๊อปแบบกึ่งสมัยใหม่ออกแนวย้อนยุค ส่วนบรรยากาศการตบแต่งภายในงานจะออกแบบแนวชิลชิล สบายๆ มีสีสันสดใส และมีความครึกครื้นเปิดเพลงอย่างสนุก สนาน พร้อมทั้งมีมุมถ่ายรูป และมุมสอยดาวชิงของรางวัล 4,000 รายการ

ส่วนกิจกรรมไฮไลต์ในวันที่ 22 ก.ย มีกิจกรรม เปิดประสบการณ์ “ชิม” 15 ร้าน บริเวณ Rest Area สำหรับ 80 ท่าน ส่วนทุกๆ วัน บนเวที มีสาธิตการทำอาหารเพื่อให้ผู้ที่เข้าร่วมงานได้ร่วมชิมอาหารและ ได้รับความรู้กลับบ้าน พร้อมกิจกรรม ชิมสนุก! วันละ 2 รอบ โดยปิดตาแล้วให้ ลองชิมอาหารที่จัดไว้ประมาณ 5-10 เมนู ถ้าหากทายถูกจะได้รับกระเช้าของขวัญ สุดพิเศษ

งาน “มหกรรมอาหารจานเด็ด Food Fest 2016” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-25 ก.ย.59 เวลา 10.00-20.00 น. ที่เอ็มซีซีฮอลล์ เดอะมอลล์ บางกะปิ เหล่านักชิม- อิ่มอร่อย อย่าได้พลาด