คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ลงนามร่วมกับ บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางวิชาการและปฏิบัติการ เพื่อพัฒนาศักยภาพทางด้านการคิดวางแผนคอนเทนต์ครีเอเตอร์และครีเอทีฟอีเวนต์ รวมถึงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ทุกรูปแบบให้มีประสิทธิภาพ รองรับความต้องการตลาดแรงงานที่กำลังเติบโตกว่า 2 หมื่นล้านบาท ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยภายในงานได้รับเกียรติจาก ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ลงนามร่วมกับ คุณอริยะ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน)

ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) กล่าวขอบคุณกับทางบริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) เป็นอย่างยิ่งสำหรับความร่วมมือและการเล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทยจากประสบการณ์ที่ยาวนาน เพื่อช่วยผลักดันความสามารถและสร้างอนาคตที่ดีให้แก่นักศึกษาได้เติบโต ด้านสาขาอาชีพและครอบครัว รวมไปถึงประเทศไทยในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“ความรู้ในห้องเรียนที่ได้อาจารย์ มหาวิทยาลัยฯ บุคลากรทุกท่านมีใจรักในการพัฒนานักศึกษาทุกคนและให้ความสำคัญโดยพยายามปลูกฝัง Hard Skills Soft Skills ความร่วมมือกับภายนอก การเชิญอาจารย์พิเศษที่ผู้มีความรู้ มีประสบการณ์มาสอนให้นักศึกษา ก็มีความสำคัญต่อนักศึกษามากเพื่อให้นักศึกษาได้เตรียมพร้อมตั้งแต่ก่อนสำเร็จการศึกษา ดังนั้นการร่วมมือกับองค์กรภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านอีเวนต์ ทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศอย่างบมจ. ซีเอ็มโอ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งและหวังว่าเราจะช่วยกัน ไม่ใช่แค่เรื่องของการฝึกงาน แต่มุ่งแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางวิชาการและปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพเยาวชนไทยมีประสิทธิภาพ เพราะการร่วมมือกันตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำมีความสำคัญมากๆ สำหรับการสร้างให้นักศึกษาทุกคนเติบโตในโลกอนาคตที่ดี ทั้งด้านสาขาอาชีพหรือด้านความสามารถในการดูแลครอบครัวและพร้อมเข้าสู่ตลาดแรงงานที่เติบโตอย่างมหาศาลได้ในทันที”

ทางด้านประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) คุณอริยะ พนมยงค์ ระบุว่า สอดคล้องกับแนวความคิดของ ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) การร่วมมือในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการลงนาม MOU เพื่อฝึกงานเพียงเท่านั้น เนื่องจากหลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้การเติบโตของงานในอุตสาหกรรมบันเทิงที่ฟื้นฟูกลับมาขาดแคลนกำลังพลคนรุ่นใหม่ และบุคลากรที่มีความสามารถเป็นจำนวนมากในการพัฒนาโดยเฉพาะผู้ที่เชี่ยวชาญทางด้านครีเอทีฟและการเล่าเรื่องสร้างสรรค์ เพื่อต่อยอดพัฒนาศักยภาพในด้านนี้ที่เรามีความสามารถยิ่งขึ้นไป

“เรากำลังขยายธุรกิจนอกเหนือจากทางด้านอีเวนต์และโปรดักชั่น ในปีที่แล้วเราได้เปิดทางด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์ เช่น คอนเสิร์ตเฟสติวัลและเอ็กซิบิชั่น เพราะจากโควิด-19 ที่แรกธุรกิจสาขานี้หดตัวไปเร็วมากกว่า 80% แต่วันนี้กลับมา 100% ทำให้งานทางด้านสาขานี้หาคนไม่ทัน ขณะที่อุตสาหกรรมนี้มีมูลค่าในประเทศไทยกว่า2 หมื่นล้านบาทเฉพาะในประเทศรวมกันโดยในที่นี้ยังไม่ได้นับรวมตลาดต่างชาติ ทำให้เรามองเห็นว่าคนบ้านเราเป็นที่ต้องการของตลาดด้วยความสามารถทางด้านครีเอทีฟขึ้นชื่อมาได้ดีตลอด ถ้าเราเรียนด้านโฆษณาจะรู้ว่าไม่ว่าทั้งรางวัลต่างๆ ประเทศไทยกวาดมาหมดเวทีต่างประเทศทั้งฝรั่งเศสและญี่ปุ่น ดังนั้นการร่วมมือครั้งนี้จึงมีอะไรที่มากกว่าการฝึกงาน เราก็อยากจะเชิญน้องๆ DPU มาที่ดูการทำงานที่บริษัท เพราะเราต้องการหาคนรุ่นใหม่ ที่ไม่ใช่แค่คนที่เป็นสเปเชียลลิสต์ที่มีความชำนาญโปรดักชั่น แสง สี เสียง เท่านั้น อันนี้เชื่อว่าเราทำได้ แต่สิ่งที่เราขาดคือ เราต้องคิดได้ด้วย คนที่ครีเอทีฟและStoryteller นักเล่าเรื่องที่แบบ คิดได้ไงวิธีนี้หรือเรื่องนี้ที่จะพาให้ประเทศเราพัฒนา”

นอกจากงานพิธีร่วมลงนามความร่วมมือซึ่งจะส่งเสริมความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางวิชาการและปฏิบัติการ เพื่อพัฒนาศักยภาพทางด้านความบันเทิงทุกรูปแบบให้มีประสิทธิภาพทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภายในงาน คณะนิเทศศาสตร์ DPU และ บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) ยังได้จัดให้มีเวทีเสวนาพิเศษเรื่อง “วง(ใน)Event” โดย คุณเดียร์-ปานธดา ศิริรักษ์ อภิสุทธิพร (Business Development Director) และ คุณก๊อบ-ชัยพฤกษ์ ว่องสกุล (Senior Creative Manager) ร่วมแชร์ประสบการณ์ในการทำงานแบบคลุกวงในจนประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงในระยะเวลาอันรวดเร็ว โดยมีเคล็ดลับเนื้อหาในการบรรยายได้แก่

1.Self-management : การบริหารกำกับจัดการตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญที่ไม่ใช่แค่ในเรื่องงาน แต่ควรถูกใช้ตั้งแต่เราตื่นนอนในทุกเรื่องไม่ว่าเราจะทำงานหรือสิ่งต่างๆ ได้ดีเราต้องทำตัวเองให้ดีก่อน เช่น พรุ่งนี้เราต้องคุยงานกับลูกค้าที่สนามกีฬาในตัวเมือง เวลา 13.00น. กระบวนการสิ่งที่ต้องคิดไปคือ ตื่นกี่โมง, เดินทางอย่างไร, แต่งตัวแบบไหน, กินข้าวก่อนไปเพราะอาจจะคุยงานยาว ทุกอย่างมันคือการบริหารจัดการที่เราต้องวางแผน การที่เราจะวางแผนตัวงานมันมีงานอะไรบ้างและทำคนเดียวหรือมีใครที่จะทำกับเราบ้าง

2.Communication : 5W1H เพราะเราไม่ได้ทำงานคนเดียว ฉะนั้นในเรื่องการสื่อสารถ้าเราสื่อสารลำดับความไม่ถูกต้องทุกอย่างก็จะผิดพลาดหมดในทุกขั้นตอน ยกตัวอย่างเช่น จัดงานวันเกิด ใคร คือคนที่เราต้องการจัดงานวันเกิด ที่ไหน ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ ดังนั้นเป็นหน้าที่เราต้องหาสถานที่จัดงาน เมื่อไหร่ สมมุติวันเกิดเราจะจัดอย่างเต็มที่เราก็ควรจัดวันเสาร์หรืออาทิตย์ ทำไม ตรงนี้สำคัญเพราะมันจะตอบวัตถุประสงค์ของเราได้และใช้ในการทำงานนั้นๆ ด้วย ซึ่งในที่นี้เราต้องการฉลองวันเกิดกับเพื่อนและทำให้เกิดการรวมตัวเพื่อนๆ และ อย่างไร จะออกมาทันทีรูปแบบงานย้อนยุค 90 ตามมาด้วยการแต่งตัว การ์ดเชิญ อาหารกิจกรรมต่างๆ

3.Carbon neutrality-Net zero : ต้องก้าวให้ทันตามเทรนด์ อนุรักษ์โลกซึ่งกำลังเป็นกระแสสังคมที่สามารถใช้งานได้ทั่วโลก และสร้างแต้มต่อสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ให้แก่องค์กรที่เราต้องเติมความพิเศษ เช่น เราทำเครื่องเล่นขึ้นมาให้คนที่มาในงานร่วมเล่นหรือเดินดูแล้วบอกผลลัพธ์ครั้งนี้ช่วยลดพลังงาน เป็นต้น เราต้องคิดและติดตาม เพราะสกิลครีเอทีฟไอเดียนั้นมีกันอยู่ทุกคน แต่มันจะพัฒนาได้ก็ต่อเมื่อเราเอาสกิลเสริมของเราไปใส่ในความเป็นครีเอทีฟหลักในตัวเรา และมันก็จะเกิดงานที่แตกต่างแล้วก็มากกว่าที่เราคาดคิดไว้

4.Presentation : ปัจจุบันการเคลื่อนไหวในงานนำเสนอเป็นสิ่งที่สำคัญ รูปแบบการนำเสนอที่ให้ลูกค้าได้เห็นการขยับเคลื่อนไหวหรือรายละเอียดต่างๆ เล็กน้อยๆ กำลังนิยม และ เหมือนกับการทำหนังสือขึ้นมา 1 เล่ม ควรจะต้องใส่ใจตั้งแต่หน้าปก-หน้าสุดท้าย ควรที่จะมีทั้งภาพนิ่งและสอดแทรกภาพเคลื่อนไหวให้มันสนุก ไม่น่าเบื่อ เพราะจุดพลิกผันไม่กี่จุดบางทีอยู่ที่เราใส่ใจกับอะไรบางอย่างที่อาจเป็นสิ่งที่ลูกค้าหาอยู่