ปลัดมหาดไทยกำชับผู้ว่า ฯ น้อมนำแนวพระดำริ“เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ปลุกพลังช่างทอผ้าในแต่ละท้องถิ่นให้ตั้งใจพัฒนางานสร้างมูลค่าเพิ่มช่วยต่อลมหายใจผืนผ้าไทย

ปลัดมหาดไทยกำชับผู้ว่า ฯ น้อมนำแนวพระดำริ“เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ปลุกพลังช่างทอผ้าในแต่ละท้องถิ่นให้ตั้งใจพัฒนางานสร้างมูลค่าเพิ่มช่วยต่อลมหายใจผืนผ้าไทย ย้ำการย้อมสีธรรมชาติมีความสำคัญทำให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้บริโภค นำไปประยุกต์ใช้และคิดเป็นค่าคาร์บอนเครดิตร่วมกับหน่วยงานภายนอกได้ พร้อมเร่งยกระดับทุกหมู่บ้านทุกชุมชนเป็น “หมู่บ้านยั่งยืน”

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่ศาลาประชาคม อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เป็นประธานเปิดงานมหกรรมผ้าไทเลย เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยมี นายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นางวราภรณ์ เสริมภักดีกุล ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเลย นายประสพโชค อยู่สำราญ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดและประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด ในพื้นที่ 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายอำเภอในพื้นที่จังหวัดเลย ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ และภาคีเครือข่ายของกระทรวงมหาดไทยในพื้นที่จังหวัดเลยและจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมงานเป็นจำนวนมาก

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า งานนิทรรศการผ้าไทเลย เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในวันนี้ เป็นความมุ่งมั่นตั้งใจของพวกเราในฐานะพสกนิกรชาวไทย ผู้มีความจงรักภักดี ในการน้อมนำเอาสิ่งที่ดี สิ่งที่เป็นประโยชน์อย่างยั่งยืนให้กับพี่น้องประชาชน ได้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ดังที่ได้สะท้อนผ่านนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติในวันนี้ ทำให้เราเห็นถึงพระอัจฉริยภาพของพระองค์ท่านว่า พระองค์ทรงมีพระปณิธานที่มุ่งมั่นในการแบ่งเบาพระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด แนวพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อต่อลมหายใจให้ผืนผ้าไทย ทำให้พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่างทอผ้าและผู้ประกอบการผ้า

ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้จากภูมิปัญญา หัตถศิลป์ หัตถกรรม ที่สืบสานถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษ ผสมผสานต่อยอดด้วยหลักวิชาการแฟชั่นสมัยใหม่ให้ตรงตามความต้องการของตลาด สอดคล้องกับความนิยมชมชอบของประชาชน เป็นผลงานที่ร่วมสมัย ยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างความสุขให้กับครอบครัว ชุมชน เพื่อร่วมสร้างสังคมที่มีความยั่งยืนในทุกมิติ ซึ่งปรากฏว่าชัดในจังเลยหวัดเลยว่า “ผู้ที่ประกอบอาชีพเป็นผู้ประกอบการผ้าไทยมีความยั่งยืนระยะยาว เพราะได้น้อมนำแนวพระดำริ Sustainable Fashion มาเป็นหลักชัยในการมุ่งมั่นประกอบอาชีพ พัฒนาคุณภาพผลงาน พัฒนาฝีไม้ลายมือ ด้วยความคิดที่สร้างสรรค์ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงขอให้จงภาคภูมิใจ ในการที่ทุกท่านได้ร่วมเสริมสร้างความมั่นคงด้านเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งเป็นไมตรีจิต เป็นความรัก ความปรารถนาดีของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ส่งตรงมายังพี่น้องประชาชนทุกคน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ พัฒนาการ เป็นผู้มีส่วนขับเคลื่อน

“ขอให้ทางจังหวัดเลย ตลอดจนจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือทุกจังหวัด ได้ร่วมกันน้อมนำพระดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงส่งเสริมให้มีการย้อมสีธรรมชาติ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ช่วยต่อลมหายใจผืนผ้าไทย ด้วยการปลุกพลังช่างทอผ้าในแต่ละท้องถิ่นให้ตั้งใจพัฒนางานให้เกิดการเพิ่มมูลค่า เพิ่มคุณค่า และการใช้สีย้อมธรรมชาตินี้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้และสามารถรับรองคิดเป็นค่าคาร์บอนเครดิตร่วมกับหน่วยงานภายนอก คือ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO) ผ่าน “โครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก” ด้วยการใช้ผ้าไทยที่เกิดจากการที่พี่น้องประชาชนปลูกฝ้าย ปลูกหม่อน เลี้ยงไหม และใช้สีธรรมชาติ ในการย้อมผ้า เพื่อลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ และขอให้ทุกคนภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนคนไทย เพื่อให้ทุกหมู่บ้าน ทุกครัวเรือนพัฒนาไปสู่ “หมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village)” ด้วยการน้อมนำพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในด้านการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” ส่งเสริมการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อให้ทุกครัวเรือนรู้จักการพึ่งพาตนเอง รวมทั้งมีการใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการบริหารจัดการขยะ เป็นมนุษย์ 3Rs คือ ใช้น้อย ใช้ซ้ำ และนำกลับมาใช้ใหม่ มีการจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน และใช้งานจริงอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีแบบธรรมชาติ กลายเป็นสารบำรุงดินปุ๋ยหมักชั้นยอด บำรุงพืชผักสวนครัวพืชสมุนไพรในแปลงผักบ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง รวมทั้งมีการแบ่งกลุ่มบ้านเป็นคุ้มบ้าน เป็นหย่อมบ้าน เพื่อดูแลภายในบริเวณชุมชน ให้เป็นชุมชนแห่งความสุข ชุมชนแห่งความมั่นคง ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม ให้ยังคงอยู่คู่กับหมู่บ้านชุมชน สานส่งต่อไปยังลูกหลาน ทำให้เกิดความรู้รักสามัคคี ความภาคภูมิใจในความเป็นไทย และจะยังคงได้รับการถ่ายทอดไปสู่คนรุ่นต่อไป เพื่อทำให้หมู่บ้านชุมชนเป็นหมู่บ้านแห่งความสุขอย่างยั่งยืน ตามแนวพระราชดำริ”ปลัดกระทรวงมหาดไทยกล่าว

นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้ายว่า ขอให้ข้าราชการและภาคีเครือข่ายทุกท่าน ได้มีความสุขมีความเจริญ และภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนการขับเคลื่อนผ้าไทยให้เกิดความมั่นคงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถยกระดับทั้งผ้าไทยและคุณภาพชีวิตของพี่น้องคนไทยที่อยู่ในความดูแลของพวกเราควบคู่กันไป เพราะประชาชนเป็นเหมือนญาติมิตรของพวกเราทุกคน และต้องร่วมกันส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนทุกคนเป็นชาวโลกที่ดีด้วยการดำเนินกิจกรรมทุกอย่างโดยคำนึงถึงความยั่งยืน ตามพระประสงค์ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงปรารถนาให้ทุกหมู่บ้าน ทุกชุมชนเป็น “หมู่บ้านและชุมชนยั่งยืน” อันเป็นจุดหมายปลายทางสุดท้ายที่พวกเราทุกคนตั้งใจ


ดร.วันดี กุญชรยาคง จุงเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย กล่าวว่า “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” คือความสุขที่ได้เลือกใช้ศิลปะ หัตถกรรมไทย เพื่อให้รายได้กลับสู่ชุมชน ส่งเสริมและกระตุ้นผ้าไทยให้ทันสมัยสู่สากล เป็นที่นิยมในทุกเพศ ทุกวัยและทุกโอกาส ซึ่งเป็นพระอัจฉริยภาพและพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงมีต่อผ้าไทย ด้วยทรงมุ่งมั่นในการสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธานอันยิ่งใหญ่ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และยกระดับคุณภาพของการผลิตผ้าไทย กรรมวิธีการทอผ้าด้วยการใช้สีธรรมชาติ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN SDGs) และหลักวิชาการแฟชั่นสมัยใหม่ ด้วยการออกแบบตัดเย็บให้ทันสมัย สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค (Demand Side) อันทำให้การส่งเสริมการใช้ผ้าไทยตามแนวพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ส่งผลทำให้พี่น้องผู้ประกอบการช่างทอผ้า ที่อยู่ในชนบทห่างไกลทุกพื้นที่ ได้มีงาน มีอาชีพ มีรายได้ จากน้ำพักน้ำแรง และความมุ่งมั่นตั้งใจในการน้อมนำพระดำริ มาประยุกต์ใช้เข้ากับลวดลายโบราณ ลวดลายที่บรรพบุรุษได้มอบมาให้ เกิดเป็นลวดลายแห่งความทันสมัย โดยนำลายผ้าพระราชทาน อาทิ ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ลายขิดนารีรัตนราชกัญญา ลายดอกรักราชกัญญา มาแต่งเติมเสริมให้เข้ากับลวดลายดั้งเดิมอย่างลงตัว ซึ่งถือเป็นภาคการผลิตผ้าไทย ที่สามารถผลิตผืนผ้าตรงตามความต้องการตลาด (Supply Side) และจำหน่ายด้วยมูลค่าที่เพิ่มสูงขึ้น เพราะมีความสวยสดงดงาม มีลวดลายที่สร้างสรรค์ ทันสมัย การตัดเย็บก็ไม่ได้โบราณ ไม่เชย เด็กวัยรุ่นเมื่อเขาเห็นเขาก็ซื้อ คนทำงานเมื่อเขาพบเขาก็อยากได้ อันเป็นการน้อมนำพระดำริให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืน

ด้านนายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวว่า นิทรรศการผ้าไทเลย เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ครั้งนี้ เป็นการจัดแสดงผลผลิตของผู้ประกอบการ OTOP และการออกแบบเสื้อผ้าจากผ้าฝ้ายและผ้าไหมทั้ง 14 อำเภอของจังหวัดเลย ที่น้อมนำพระวิสัยทัศน์และพระอัจฉริยภาพตามพระดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา “ผ้าไทยใส่สนุก” เพื่อนำรายได้คืนสู่ชุมชน ส่งเสริม สนับสนุนให้ผ้าไทยมีความทันสมัยและเป็นสากล เป็นที่นิยมในทุกเพศ ทุกวัย และทุกโอกาส สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) โดยขอขอบคุณท่านสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ตลอดจนทุกภาคีเครือข่ายผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่สนับสนุนการขับเคลื่อน และขอให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันขยายผลการน้อมนำแนวพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในการเพิ่มคุณค่าและมูลค่า ยกระดับผลิตภัณฑ์ผ้าไทยและงานหัตถกรรมให้สามารถก้าวสู่ระดับสากลเพื่อวีถีชุมชนยั่งยืน และสร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่ประเทศชาติอย่างยั่งยืนสืบไป