อธิบดีกรมการจัดหางาน ลงพื้นที่ จ.ระนอง ติดตามผลโครงการสกัดกั้นคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง และการดูแลคนต่างด้าวระหว่างรอส่งกลับ

อธิบดีกรมการจัดหางาน ลงพื้นที่ จ.ระนอง ติดตามผลโครงการสกัดกั้นคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง และการดูแลคนต่างด้าวระหว่างรอส่งกลับ

วันที่ 11 พฤษภาคม 2566 นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน ลงพื้นที่จังหวัดระนอง ตรวจติดตามผลการดำเนินการโครงการบริหารจัดการเพื่อการสกัดกั้นคนต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมืองเพื่อมาทำงาน การดูแลคนต่างด้าวที่ถูกกักตัวระหว่างรอการส่งกลับ และส่งกลับคนต่างด้าวออกไปนอกราชอาณาจักร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ณ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดระนอง ตำบลบางริ้น อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง เพื่ออำนวยความสะดวกการให้บริการงานตรวจคนเข้าเมืองแก่นายจ้างและแรงงานต่างด้าวตามนโยบายรัฐบาล ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและเสริมสร้างวินัยด้านแรงงานของประเทศ โดยมีพ.ต.ท.ณรงค์วิทย์ สุกหอม รอง ผกก.ผอ.3 บก.อก.สตม. รายงานผลการดำเนินงาน นางสาวบุณยวีร์ ไขว้พันธุ์ นายสิบหมื่นชัย โพธิสินธุ์ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมหารือ

นายไพโรจน์ กล่าวว่า โครงการบริหารจัดการเพื่อการสกัดกั้นคนต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมืองฯ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนเพื่อการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว มีเป้าหมายสำคัญ คือ สกัดกั้นคนต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมืองเพื่อมาทำงาน ขยายผลการจับกุมคนต่างด้าวที่กระทำความผิดในรูปแบบเครือข่ายลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาในประเทศ รวมถึงแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ โดยมีการตรวจสอบและประชาสัมพันธ์แก่นายจ้าง/สถานประกอบการที่จ้างแรงงานต่างด้าวให้ทราบแนวทางการปฏิบัติตามกฎหมาย ตลอดจนดูแลคนต่างด้าวที่ถูกกักตัวระหว่างรอการส่งกลับและส่งคนต่างด้าวกลับออกไปนอกราชอาณาจักร โดยผลการดำเนินการ ปี2566 มีการจับกุมคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ จำนวน 1,029 คน คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง จำนวน 14,882 คน ผู้นำพาผู้ให้ที่พักพิงคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 571 คน ขยายผลจับกุมเครือข่ายลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาในประเทศ จำนวน 396 ราย

“กรมการจัดหางานขอขอบคุณสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่ร่วมมือขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาด้านแรงงานต่างด้าวมาโดยตลอด ซึ่งเราจะดำเนินการโดยคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด” อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว