กาชาดขอนแก่นร่วมกับจังหวัดขอนแก่น มอบรถวีลแชร์เพื่อผู้สูงอายุ-ผู้พิการ ตามข้อมูลในระบบ TPMAP และ ThaiQM ด้าน ผวจ.ขอนแก่น ย้ำ ร่วมกับภาคีเครือข่ายมุ่งมั่นขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัย

กาชาดขอนแก่นร่วมกับจังหวัดขอนแก่น มอบรถวีลแชร์เพื่อผู้สูงอายุ-ผู้พิการ ตามข้อมูลในระบบ TPMAP และ ThaiQM ด้าน ผวจ.ขอนแก่น ย้ำ จังหวัดขอนแก่น ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้ง 7 มุ่งมั่นขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนให้ยั่งยืน

วันนี้ (29 มีนาคม 2566) เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมแก่นเมือง (ชั้น 1) ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานในพิธีมอบรถวีลแชร์ ในโครงการรถกาชาดเอื้อเฟื้อเพื่อผู้สูงอายุ ผู้พิการ ประจำปีงบประมาณ 2566 เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 68 พรรษา โดยมี นางกรรณิกา กองฉลาด นายกเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น นางศศวรรณ์ มณีโชติ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น นางราตรี เสาโกศล รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น และ กรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด นายอำเภอ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมในงานพิธี

นางกรรณิกา กองฉลาด นายกเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า โครงการรถกาชาดเอื้อเฟื้อเพื่อผู้สูงอายุ ผู้พิการฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบให้แก่ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ครัวเรือนตามกลุ่มเป้าหมายในระบบ ThaiQM ซึ่งได้รับการสำรวจเพิ่มเติม (Recheck) โดยทีมงานและภาคีเครือข่ายในพื้นที่ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยในครั้งนี้ได้ทำการส่งมอบรถฯ ให้แก่อำเภอต่าง ๆ รวมจำนวน 51 คัน โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 194,820 บาท

ด้าน นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า จังหวัดขอนแก่นมีข้อมูลครัวเรือนตามทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย (ข้อมูล ณ เดือนมีนาคม 2565) จำนวน 656,891 ครัวเรือน ซึ่งจากการสำรวจในระบบ TPMAP 353,514 ครัวเรือน พบครัวเรือนที่มีปัญหา 14,737 ครัวเรือน ประกอบกับครัวเรือนที่ได้รับการสำรวจในระบบ ThaiQM 353,894 ครัวเรือน พบ ปัญหา 124,082 ครัวเรือน ซึ่งครัวเรือนที่มีข้อมูลตรงกันในระบบทั้ง TPMAP และ ThaiQM มีจำนวน 4,908 ครัวเรือน

“จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้น จังหวัดขอนแก่นมีนโยบายในการขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดไปสู่ความยั่งยืนในทุกมิติ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ในการขับเคลื่อนศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาความยากจน และตามประกาศเจตนารมณ์มุ่งขับเคลื่อนประเทศไทยที่ยั่งยืนตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้ง 17 ข้อ (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ ที่ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด ได้แสดงเจตนารมณ์ ณ องค์การสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2565 ด้วยแนวคิด 76 จังหวัด 76 คำมั่นสัญญา เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งการสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นนั้น จะต้องทำให้สิ่งที่เป็นความจำเป็นพื้นฐาน อันประกอบด้วย มิติด้านสุขภาพ มิติด้านความเป็นอยู่ มิติด้านการศึกษา มิติด้านรายได้ มิติด้านการเข้าถึงบริการภาครัฐ ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ โดยฝ่ายปกครองในพื้นที่ ได้ร่วมขับเคลื่อนภารกิจการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ร่วมกับ ภาคีเครือข่ายทั้ง 7 ภาคี ในการขับเคลื่อนช่วยเหลือชาวบ้าน” ผวจ.ขอนแก่น กล่าว

นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวอีกว่า รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ในการแก้ไขช่วยเหลือพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศให้พ้นจากความทุกข์ ความยากลำบากในทุกด้าน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ที่เราเรียกว่า ความยากจน และความเดือดร้อนมิติอื่น ๆ โดยได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาความยากจนผ่านกลไกศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง หรือ “ศจพ.” มีเป้าหมายในการ “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ซึ่งคำว่า “ความยากจน” หมายถึง ทุกปัญหาความเดือดร้อนที่ประชาชนกำลังประสบอยู่และไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง ไม่ใช่หมายความเพียงแค่เรื่องเศรษฐกิจปากท้องเท่านั้น เพราะความยากจนมักเกี่ยวข้องกับโครงสร้างและเรื่องต่าง ๆ ที่ทำให้คนต้อง “อับจน” เข้าไม่ถึงสุขภาวะและคุณภาพชีวิตที่ดี ในขณะเดียวกันนายอำเภอทุกคนของจังหวัดขอนแก่นในฐานะแม่ทัพของอำเภอ ต้องร่วมลงพื้นที่ในการสำรวจข้อมูลสภาพปัญหา ร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ และทีมปฏิบัติการตำบล ทีมพี่เลี้ยง ซึ่งประกอบด้วย ปลัดอำเภอ พัฒนากร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนจิตอาสา และร่วมคิด ร่วมวิเคราะห์ ร่วมหาวิธี ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ตามหลัก 4 ท คือ ทัศนคติ ทักษะ ทรัพยากร ทางออก อย่างใกล้ชิด (Intensive Care)

“สำหรับการมีส่วนร่วมของครัวเรือน ตามแนวทาง 2 มิติ คือ 1) มิติยาฝรั่ง คือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนทำให้อยู่รอดอย่างรวดเร็ว ในเบื้องต้น เช่น ช่วยกันทำให้มีที่อยู่อาศัยได้เรียนหนังสือ มีอาหารกิน มีเครื่องไม้เครื่องมือประกอบอาชีพ และ 2) มิติยาไทย ทำให้ยั่งยืน ด้วยการส่งเสริมทักษะ วิธีการ แนวทางในการแก้ปัญหา ดึงเอาความสามารถที่มีอยู่มาใช้ สามารถพึ่งพาตนเองด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร นำมาใช้ในชีวิตประจำวัน พร้อมทั้งน้อมนำพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการสร้างกระบวนการกลุ่มที่มีจิตอาสาขึ้นในทุกชุมชน ทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกอำเภอ ให้ได้ เพื่อช่วยเหลือดูแลกันและกัน และส่งเสริมการปลูกผักสวนครัวสร้างความมั่นคงทางอาหาร “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผลผู้คนรักกัน” ตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเป็นแหล่งอาหารประทังชีวิต เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา สร้างแหล่งยาสมุนไพรรักษาโรค มีกิน มีใช้ ด้วยความรัก ด้วยการพึ่งพาตนเอง ด้วยการแบ่งปัน” ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวเสริม

ในตอนท้าย ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในวันนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือครัวเรือนที่ตกเกณฑ์ในระบบฐานข้อมูล TPMAP และ ThaiQM ให้พวกเขาได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เป็นการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกในขั้นต้น ซึ่งในระยะยาวจังหวัดขอนแก่นได้มอบนโยบายให้มีการดูแลอย่างต่อเนื่อง มีการเยี่ยมเยียนถามไถ่เรื่องความเป็นอยู่ และได้นำระบบ คุ้มบ้าน หย่อมบ้าน หรือ ป๊อกบ้าน ตามที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มอบนโยบายในการขับเคลื่อนหมู่บ้านที่มีศักยภาพน้อย สู่ยกระดับเป็น หมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) ตามแนวพระดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และในฐานะที่พวกเราข้าราชการทุกคน คือ ข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ได้รับเงินเดือนมาจากภาษีของพี่น้องประชาชน โดยมีสำนึกรับผิดชอบว่า เราจะทำงานมุ่งมั่นทำให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการร่วมมือกับทุกกระทรวง ทุกภาคส่วน ทุกภาคีเครือข่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “เหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น” ที่มีเป้าหมายเดียวกันกับชาวมหาดไทย คือ “มุ่งบรรเทาความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชน” เพื่อเแก้ไขปัญหาความจนให้หมดสิ้นไป”