ประวิตร ลุยเมือง ตราด ติดตามมาตรการรับมือแล้งเตรียมแหล่งน้ำสำรอง พร้อมรองรับอีอีซี

ลุงป้อม ลุยเมือง ตราด ติดตามมาตรการรับมือแล้งเตรียมแหล่งน้ำสำรอง พร้อมรองรับอีอีซี

วันนี้ (20 ก.พ. 66) พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ จ.จันทบุรีและตราด เพื่อประธานเปิดงาน “บจธ. มอบสิทธิ มอบสุขในที่ดินทำกิน” ณ วิสาหกิจชุมชนเกษตรกรรุ่นใหม่พัฒนา ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี และติดตามการบริหารจัดการน้ำ ตาม 10 มาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2565/2566 รวมทั้งผลการดำเนินโครงการแก้มลิงหนองฉุงใหญ่ อ.เขาสมิง จ.ตราด โดยมีรองอธิบดีกรมชลประทานและผู้แทนกองทัพภาคที่ 1 รายงานสรุปผลการดำเนินโครงการแก้มลิงหนองฉุงใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวต้อนรับ ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) บรรยายสรุปสถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.ตราด รองอธิบดีกรมชลประทาน รายงานผลการดำเนินงานการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ จ.ตราด อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ รายงานผลการดำเนินงานการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำในพื้นที่ ต.ประณีต และนายกองค์การบริหารส่วนตำบลประณีต รายงานผลการดำเนินงานการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในระดับชุมชน พร้อมพบปะประชาชนในพื้นที่

การลงพื้นที่ในครั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้รับทราบสถานการณ์น้ำ และผลการดำเนินงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่ ทั้งในมิติการพัฒนาและการอนุรักษ์ฟื้นฟู ซึ่งการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำให้กับประชาชน ยังคงต้องเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยรองนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ สทนช. อำนวยการและกำกับดูแลโครงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ให้แล้วเสร็จตามแผนงาน และกำกับติดตามให้เป็นไปตาม 10 มาตรการรองรับฤดูแล้งอย่างเคร่งครัด และร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมแหล่งน้ำสำรองหรือแหล่งน้ำทางเลือกอื่นๆ เพื่อป้องกันการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก สำหรับพื้นที่ EEC ให้เร่งรัดการขับเคลื่อนโครงการอ่างเก็บน้ำวังโตนด จ.จันทบุรี โดยมอบหมายกรมชลประทานดำเนินการตามมติ กนช. ในการเตรียมความพร้อมโครงการให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด

นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้กรมชลประทาน เร่งรัดการก่อสร้างโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่สำคัญ เช่น อ่างเก็บน้ำห้วยสะตอ จ.ตราด ให้เเล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งจะช่วยเพิ่มความจุน้ำกักเก็บได้ 56.55 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่ได้รับประโยชน์ 75,490 ไร่ ปัจจุบันศึกษาและออกแบบแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างดำเนินการขอใช้พื้นที่ รวมทั้งให้ตรวจสอบและเตรียมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ในโครงข่ายน้ำ EEC ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานด้วย และให้กรมทรัพยากรน้ำ เร่งสำรวจและก่อสร้างโครงการด้านทรัพยากรน้ำในพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำอย่างเต็มศักยภาพให้แล้วเสร็จโดยเร็ว อีกทั้ง ยังได้กำชับให้จังหวัดประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการความร่วมมือในการเร่งรัดการก่อสร้างโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่สำคัญ และเดินหน้าขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำให้เป็นรูปธรรมและยกระดับคุณภาพน้ำให้ได้มาตรฐาน พร้อมเสริมสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมและสร้างการรับรู้ให้กับภาคประชาชน เพื่อความร่วมมือในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในระดับพื้นที่ ให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนต่อไป

ด้าน ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. กล่าวว่า จ.ตราด มีแผนงาน/โครงการ ภายใต้แผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ตาม พรบ.งบประมาณปี 66 จำนวน 6 โครงการ ครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ พื้นที่รับประโยชน์ 3,060 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 608 ครัวเรือน และเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกัก 0.03 ล้าน ลบ.ม. เช่น ทำนบดินหัวงานและอาคารประกอบ โครงการอ่างเก็บน้ำคลองแอ่ง อ.บ่อไร่ และระบบส่งน้ำอ่างเก็บน้ำวังปลาหมอ ระยะที่ 2 อ.เขาสมิง เป็นต้น ส่วน จ.จันทบุรี มีแผนงาน/โครงการ ภายใต้งบบูรฯ ตาม พรบ.ปี 66 จำนวน 24 โครงการ ครอบคลุมพื้นที่ 7 อำเภอ พื้นที่ได้รับประโยชน์ 12,966 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 2,873 ครัวเรือน และเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกัก 81.08 ล้าน ลบ.ม. เช่น ทำนบดินหัวงานและอาคารประกอบ โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยแห้ง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.ขลุง สถานีสูบน้ำหัวงานและอาคารประกอบพร้อมระบบส่งน้ำ
โครงการสถานีสูบน้ำกลุ่มผู้ใช้น้ำบ้านท่าปก อ.ท่าใหม่ และระบบส่งน้ำพร้อมอาคารประกอบ โครงการระบบส่งน้ำอ่างเก็บน้ำคลองประแกด อ.แก่งหางแมว เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีแผนงานโครงการสำคัญ จำนวน 5 โครงการ 8,106 ล้านบาท ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 140 ล้าน ลบ.ม. และพื้นที่รับประโยชน์ 77,600 ไร่ ได้แก่ อ่างฯคลองวังโตนด อ่างฯคลองตาพลาย อ่างฯคลองโป่งน้ำ อ่างฯคลองเครือหวาย และเพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บอ่างฯแก่งหางแมว