ประวิตร ลุย ลำปาง-พะเยาช่วยชาวบ้าน มอบหนังสืออนุญาต-สมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชน

ลุงป้อม ลุย ลำปาง-พะเยาช่วยชาวบ้านมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มอบหนังสืออนุญาต-สมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชน

วันจันทร์ที่ 16 มกราคม 2566 พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และคณะลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง เพื่อมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พร้อมทั้งมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาลในพื้นที่จังหวัดลำปาง ในการนี้ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ มอบหมายให้ นายประเสริฐ ศิรินภาพร รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เข้าร่วมตรวจราชการดังกล่าวโดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ประธานคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดลำปาง กล่าวต้อนรับและรายงานความเป็นมา ภูมิสังคม และผลการดำเนินงานการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล หรือ คทช. ของจังหวัดลำปาง

จากนั้น พลเอก ประวิตร ให้เกียรติมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 2 ป่า ประกอบด้วย “ป่าแม่ปราบ” และ “ป่าแม่โป่ง” เนื้อที่รวม 2,523 ไร่ 2 งาน 17 ตารางวา พร้อมทั้งมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาลในพื้นที่จังหวัดลำปาง ให้กับประชาชนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ปราบและป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่โป่ง จำนวน 530 ราย และในช่วงบ่าย พลเอกประวิตร และคณะได้เดินทางไปยังลานอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง จังหวัดพะเยา เพื่อมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ฮ่องป๋อ ป่าห้วยแก้ว และป่าแม่อิงฝั่งซ้าย ท้องที่ตำบลดงเจน และตำบลห้วยแก้ว อำเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยา เนื้อที่รวม 885 ไร่ 3 งาน 71 ตารางวา พร้อมทั้งมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาล จำนวน 129 ราย

ทั้งนี้ พลเอกประวิตร มีข้อสั่งการให้หน่วยงานภายใต้คณะอนุกรรมการจัดหาที่ดิน และคณะอนุกรรมการจัดที่ดินเร่งรัดการออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยและสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาล ให้กับประชาชนเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ให้ประชาชน และให้ทุกหน่วยงานทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ความสำคัญเร่งดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ ดำเนินการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานและการเข้าถึงแหล่งทุนของประชาชนรวมถึงการบูรณาการภาคีเครือข่ายในการบริหารจัดการในพื้นที่ คทช. ให้เกิดความต่อเนื่องและเกิดผลเป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองในการบริหารจัดการที่ดินให้เกิดความยั่งยืน หากมีปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานให้ประสานคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดลำปาง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป พร้อมทั้งขอให้เชื่อมั่นว่ารัฐบาลมีความห่วงใยและมุ่งมั่น พัฒนาในทุกมิติ เพื่อให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีตลอดไป

ต่อมา พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) พร้อมด้วย ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ จังหวัดลำปาง และ จังหวัดพะเยา โดยในช่วงเช้าเป็นประธานการประชุมติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ณ ศาลากลาง จ.ลำปาง ช่วงบ่ายได้เดินทางต่อไปยัง จ.พะเยา เพื่อประชุมติดตามงานตามนโยบายรัฐบาลและการบริหารจัดการน้ำของ จ.พะเยา เป็นประธานการมอบเอกสารสิทธิ์มอบเอกสาร คทช. จำนวน 1 แปลง และมอบเอกสาร สปก.4-01 รวม 9 อำเภอ เพื่อมอบต่อให้เกษตรกรในพื้นที่ และลงพื้นที่ตรวจติดตามโครงการขุดลอกกว๊านพะเยาตามลำดับ

จากการลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลในพื้นที่ 2 จังหวัดในครั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการบริหารจัดการน้ำเพื่อป้องกันและบรรเทาผลกระทบช่วงฤดูแล้งไว้ล่วงหน้า เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับประชาชนหรือเกิดให้น้อยที่สุด โดยมอบหมายให้ สทนช. บูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงาน ดำเนินการตามมาตรการรองรับฤดูแล้ง 2565/2566 อย่างเคร่งครัด และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 2566 รวมทั้งให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการป้องกันและบรรเทาปัญหาพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ

พร้อมกันนี้ รองนายกรัฐมนตรียังติดตามความก้าวหน้าผลการดำเนินงานของโครงการพัฒนาฟื้นฟูกว๊านพะเยารวม
5 ด้าน ได้แก่ 1.การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 2.การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 3.การพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว
4.การส่งเสริมอาชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิต และ 5.ด้านการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ ซึ่งดำเนินการโดยหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากดำเนินการแล้วเสร็จ จะช่วยเพิ่มปริมาณการกักเก็บน้ำในพื้นที่ตอนบนของกว๊านพะเยากว่า 6 ล้านลูกบาศก์เมตร
เพิ่มปริมาตรเก็บกักในกว๊านพะเยา 9.275 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้มีน้ำต้นทุนเพียงพอต่อการทำการเกษตร และการอุปโภคบริโภคในพื้นที่รอบกว๊าน พื้นที่รับประโยชน์ประมาณ 1.5 แสนไร่ ครัวเรือนรับประโยชน์ 1.6 แสนครัวเรือน ปริมาณสัตว์น้ำที่จับได้เพิ่มมูลค่าไม่น้อยกว่า 40 ล้านบาท/ปี ลดความเสียหายจากพื้นที่น้ำท่วม 31,700 ไร่ รวมทั้งเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่พื้นที่ต้นน้ำอีกด้วย ซึ่งระยะเร่งด่วนรองนายกฯ ได้สั่งการให้หน่วยที่รับผิดชอบเร่งรัดดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามแผน เพื่อให้กว๊านพะเยามีการพัฒนาและฟื้นฟู สามารถกลับมาใช้ประโยชน์ในทุกมิติได้เต็มศักยภาพ โดยได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมชลประทาน และกรมประมง เร่งรัดดำเนินการตามแผนการพัฒนากว๊านพะเยาให้แล้วเสร็จภายในปี 2567 รวมถึงให้กรมชลประทาน ก่อสร้างทำนบดินลาดยางรอบกว๊านพะเยา เพื่อความสะดวกและเชื่อมการท่องเที่ยวรอบกว๊านพระเยา โดยในระยะเร่งด่วนให้เร่งทำทำนบดินลาดยาง ระยะทาง 1.3 กิโลเมตร

ด้าน ดร.สุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมถึงการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ จ.ลำปาง และพะเยา ในช่วงฤดูแล้งปี 2565/2566 ตามที่ กอนช.ได้มีการวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำในพื้นที่ พบว่า จ.ลำปาง ไม่มีพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำด้านอุปโภคบริโภค ทั้งในเขตการประปาส่วนภูมิภาค และนอกเขตการประปาส่วนภูมิภาคแต่อย่างใด ขณะที่ด้านเกษตรกรรม นารอบที่ 2 (นาปรัง) ไม่มีพื้นที่เสี่ยงเช่นกัน