เทคนิคการเลือกวัสดุก่อสร้าง ตอบโจทย์บ้านเย็นรับอากาสเมืองไทย

ใครก็รู้ว่าเมืองไทยเป็นเมืองร้อน แถมเวลาเข้าหน้าของมันอุณหภูมิเฉลี่ยก็สูงทะลุ 40 องศา จนแทบจะย่างสดเลยทีเดียว และเพราะแบบนี้การเลือกวัสดุก่อสร้างก่อนเริ่มทำบ้านถึงได้กลายเป็นเรื่องสำคัญ

ถ้าไม่อยากให้บ้านสะสมความร้อนเอาไว้เยอะ การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่มีคุณสมบัติช่วยสะท้อนรังสี และระบายออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยเนรมิตที่พักอาศัยในฝัน ท่ามกลางอุณหภูมิที่ไม่เป็นใจในไทย ลองมาดูถึงเทคนิคการเลือกวัสดุสำหรับก่อสร้างและการวางตำแหน่งกันดีกว่า ว่าจะมีอะไรบ้าง?

การเลือกวางตำแหน่งโลเคชันของบ้านให้เหมาะสม

การจัดวางตำแหน่งของบ้านสำคัญมาก เพราะถึงแม้ว่าจะเลือกใช้วัสดุก่อสร้างคุณภาพดี มีคุณสมบัติครบมากแค่ไหน แต่ถ้าบ้านตั้งอยู่ในตำแหน่งที่รับความร้อนจัดหนักจากดวงอาทิตย์ ก็ไม่สามารถป้องกันได้อย่างแน่นอน ดังนั้น การสำรวจเพื่อเลือกตำแหน่งที่ตั้งอันเหมาะสม ซึ่งจะส่งผลระยะยาวไปจนถึงการจัดวางโครงสร้างในอนาคต โดยหลักสำคัญก่อนซื้อวัสดุก่อสร้างก็มีดังนี้

  • จัดวางตำแหน่งโลเคชันของตัวบ้านไปในทิศทางที่ลม และแสงสว่างจากธรรมชาติให้ได้มากที่สุด
  • วางช่องรับลมให้สอดคล้องกับทิศทางลมตามพื้นที่บ้านให้มากกว่า 2 จุดขึ้นไป
  • วางแผนการต่อเติมบ้านในอนาคต ให้ตั้งอยู่บนตำแหน่งที่เหมาะสมมากที่สุด ไม่ปิดทางลมที่เปิดไว้
  • รั้วบ้านควรเป็นวัสดุโปร่ง ไม่ทึบ เพื่อให้สามารถรับลมได้แบบเต็มขั้น
  • วางตำแหน่งประตู หน้าต่าง ให้อยู่ทางทิศเหนือไปใต้ จะช่วยเพิ่มการรับลมธรรมชาติให้โฟลว์ได้มากขึ้น ทั้งยังทำให้บ้านปลอดโปร่งอีกด้วย

 

ควรเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่ช่วยป้องกันความร้อน

ไม่่ว่าจะเป็นผนัง หลังคา ฝ้า กำแพงบ้าน หรือส่วนใดก็ตาม วัสดุที่เลือกมาใช้ในการก่อสร้าง ควรจะตรวจสอบคุณสมบัติให้มั่นใจถึงความสามารด้านการป้องกันความร้อนให้เหมาะสม เพราะถ้าจะใช้วางโครงสร้างบ้านในระยะยาว แต่ไม่เลือกวัสดุที่ทนทานและช่วยป้องกันได้มากพอ ปัญหาอีกหลาย ๆ อย่างที่เกิดจากการรับภาระความร้อนก็จะตามมาอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ว่าจะเป็น ภาระค่าใช้จ่ายเรื่องค่าไฟที่เพิ่มขึ้น ภาระค่าตกแต่งที่ต้องติดฟิล์มเกรดกันความร้อนสูงสุด ตลอดจนค่าผ้าม่านคุณภาพสูง เรียกได้ว่าทั้งหมดนี้ถ้าพลาดตั้งแต่การเลือกวัสดุ จะเท่ากับพลาดทุกองค์ประกอบนั่นเอง โดยทริกง่าย ๆ ของการเลือกฉบับมือใหม่ ก็สามารถจัดการได้ดังนี้

 

  • เลือกวัสดุก่อสร้างสำหรับหลังคาให้เหมาะสม โดยอิงจากรูปทรง เพื่อเลือกวัสดุที่ตอบโจทย์มากที่สุด
  • เลือกวางแผ่นยิบซั่มในระดับ 2.40-3.60 เมตร วัดจากพื้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นระดับมาตรฐานที่จะช่วยถ่ายเทอากาศให้โฟลว์ ไม่อบอ้าว
  • ติดตั้งฉนวนกันความร้อนไปกับแผ่นบิปซัม ช่วยเพิ่มคุณภาพการสะท้อนความร้อนจากแดด ทำให้บ้านเย็นขึ้น
  • เลือกทาสีกันความร้อน เทคโนโลยีและส่วนผสมใหม่ที่ได้รับการพัฒนาให้มีสารเคลือบกันผนัง พร้อมรับมือกับการสะท้อนความร้อนได้อย่างตอบโจทย์